ส่วนประกอบและหน้าที่ของเซลล์พืช โครงสร้างเเละหน้าที่ของเซลล์พืชเเละเซลล์สัตว์ ส่วนประกอบและหน้าที่ของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์


622 ผู้ชม


ส่วนประกอบและหน้าที่ของเซลล์พืช โครงสร้างเเละหน้าที่ของเซลล์พืชเเละเซลล์สัตว์ ส่วนประกอบและหน้าที่ของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์

 

 

โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์

พืชและสัตว์ต่างก็เป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์เหมือนกัน เซลล์พืชและเซลล์สัตว์มีขนาด รูปร่าง และลักษณะแตกต่างกันตามความเหมาะสมของหน้าที่ แต่โครงสร้างพื้นฐานหรือองค์ประกอบส่วนใหญ่ทั้งของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์จะคล้ายคลึงกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

โครงสร้างและส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์พืช

โครงสร้างพื้นฐานและหน้าที่ของเซลล์
1. ผนังเซลล์ (cell wall) พบครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1665 โดยโรเบิร์ต ฮุค (Robert Hooke) ผนังเซลล์พบในเซลล์พืชเท่านั้นเป็นส่วนที่ไม่มีชีวิต ทำหน้าที่ให้ความแข็งแรงและทำให้เซลล์คงรูปอยู่ได้ ประกอบด้วยเซลลูโลสเป็นส่วนใหญ่และยังประกอบด้วยสารพวกเพกทิน ลิกนิน ฮีมิเซลลูโลส ซูเบอริน ไคทิน และคิวทิน
2. เยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane) มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆ อยู่ล้อมรอบเซลล์ ประกอบด้วยสารประเภทโปรตีนและไขมัน มีหน้าที่ช่วยให้เซลล์คงรูปและควบคุมการแลกเปลี่ยนสารระหว่างภายในและภายนอกเซลล์ เยื่อหุ้มเซลล์พบได้ทั้งในเซลล์พืชและเซลล์สัตว์เป็นส่วนที่มีชีวิต มีความยืดหยุ่นสามารถยืดหดได้มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆ มีรูพรุนสำหรับให้สารละลายผ่านเข้าออกได้ เช่น น้ำ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ยูเรีย กรดอะมิโน เกลือแร่ ออกซิเจน และกลีเซอรอลสามารถผ่านเข้าออกได้ง่าย ส่วนสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านเข้าออกได้เลย เช่น สารพวกโปรตีนและไขมัน จึงเรียกเยื่อที่มีลักษณะแบบนี้ว่า เยื่อกึ่งซึมผ่านได้ (semipermeable membrane หรือ selective permeable membrane)
3. ไซโทพลาซึม (cytoplasm) มีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายเจลลี่ซึ่งมีน้ำ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และเกลือแร่ต่างๆ เป็นองค์ประกอบ ไซโทพลาซึมเป็นศูนย์กลางการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับเมแทบอลิซึม (metabolism) ทั้งกระบวนการสร้างและการสลายอินทรียสาร เป็นแหล่งที่เกิดปฏิกิริยาเคมีต่างๆ ที่จะช่วยให้เซลล์ดำรงชีวิตอยู่ได้
4. นิวเคลียส (nucleus) อยู่ในไซโทพลาซึม เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของเซลล์ นิวเคลียสทำหน้าที่ควบคุมเมแทบอลิซึมของเซลล์ ควบคุมการสังเคราะห์โปรตีนและเอนไซม์ ควบคุมการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่รุ่นลูกหลาน ควบคุมกิจกรรมต่างๆ ภายในเซลล์ ควบคุมการเจริญเติบโต และควบคุมลักษณะต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต
5. คลอโรพลาสต์ (chloroplast) พบเฉพาะในเซลล์ที่มีสีเขียวของพืชและเซลล์ของโพรทิสต์บางชนิด เช่น สาหร่าย คลอโรพลาสต์ประกอบด้วยเยื่อหุ้ม 2 ชั้น ชั้นนอกทำหน้าที่ควบคุมชนิดและปริมาณของสารที่ผ่านเข้าและออกจากคลอโรพลาสต์ ส่วนชั้นในจะมีลักษณะยื่นเข้าไปภายในและมีการเรียงกันเป็นชั้นๆ อย่างมีระเบียบ ภายในเยื่อหุ้มชั้นในจะมีโมเลกุลของสารสีเขียว เรียกว่า คลอโรฟิลล์ (chlorophyll) และมีเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาหารฃองพืช

โครงสร้างและหน้าที่การทำงานของออร์แกเนลล์ต่างๆ
ระหว่างเซลล์ของพืชและสัตว์

ออร์แกเนลล์ โครงสร้าง หน้าทีการทำงาน
1.Cell wall ประกอบด้วยเส้นใยเซลล์ลูโลส ปกป้องและค้ำจุน
2.Plasma membrane เป็นฟอสโฟลิพิดเรียงกัน 2 ชั้น และมีโปรตีนแทรก เป็นเยื่อเลือกผ่านของสารที่ผ่านเข้าออก
ระหว่างเซลล์
3.Nucleus ประกอบด้วยเยื่อหุ้มล้อมรอบนิวคลีโอ-
ปลาสซึม,โครมาตินและนิวคลีโอลัส
เป็นที่เก็บสารพันธุกรรม
4.Nucleolus เป็นบริเวณที่รวบรวมโครมาทิด, RNA,โปรตีน สร้างและสะสม RNA
5.Ribosome ประกอบด้วยหน่วยย่อยของโปรตีนและ RNA สังเคราะห์โปรตีน
6.Edoplasmic reticulum(ER) โครงสร้างที่มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น ลักษณะเป็นท่อยาวแบน
สังเคราะห์หรือเสริมสร้างโปรตีนหรือ
สารอื่นๆขนส่งสาร
7.Rough ER เป็น ER ที่มีไรโบโชมเกาะอยู่ สังเคราะห์โปรตีน
8.smooth ER เป็น ER ที่ไม่มีไรโบโซม มีหน้าที่หลายอย่าง เช่น กำจัดสารพิษ
สร้างสารสเตรอยด์ ขนส่งไกโคเจน
9.Golgi body เป็นถุงแบนมีเยื่อหุ้ม เรียงซ้อนกันหลายอัน
ปลายของถุงมักพองออก
สังเคราะห์สารประกอบหลายชนิด เช่น
คาร์โบไฮเดรต ขับสารประกอบต่างๆ
10.Vacuole and vesicle เป็นถุงที่มีเยื่อหุ้ม เก็บสะสมสารต่างๆสะสมน้ำเรียกcontractile vacule สะสมอาหารเรียก foodvacule
11.Lysosome เป็นถุงที่ทีเยื่อหุ้มภายในมี enzyme ย่อยสลายองค์ประกอบภายในเซลล์
12.Microbody เป็นถุงที่มีเยื่อหุ้มภายในมีเอนไซน์เฉพาะ ่นำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆของเซลล์
13.Mitocondria เป็นก้อนกลมหรือรี มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้นเยื่อหุ้มชั้นในเรียก cristae แหล่งผลิตพลังงาน,การหายใจระดับเซลล์
14.Chloroplas*
(พบเฉพาะในเซลล์พืช)
เป็นก้อนกลม รี เยื่อหุ้ม 2 ชั้น เยื่อชั้นในเรียก grana การสังเคราะห์แสง
15.Cytoskeleton ไมโครทิวบูล เป็นเส้นยาวไม่แตกแขนง
มโปรตีนทูบิลินเป็นหน่วยย่อย
ทำให้เซลล์คงรูปร่าง ช่วยในการเคลื่อนที่ของเซลล์
16.Cilia and Flagella แท่งของไมโครทิวบูลเรียงกันในรูปแบบ 9+2 ช่วยในการเคลื่อที่ของเซลล์
17.Centriole เป็นแท่งของไมโครทิวบูลเรียงกันแบบ 9+0 สร้างสายสปินเดิลในการแบ่งเซลล์หรือเป็นส่วน
ฐานของซิเลียและแฟลเจลลา

…………………..

แหล่งที่มา : krootim.wordpress.com

อัพเดทล่าสุด