อาหารบํารุงสมอง สูตรอาหารบํารุงสมอง อาหารบํารุงสมอง สําหรับทารกในครรภ์
ความฉลาดของเด็กมาจากไหน
เด็กแต่ละคนก็ล้วนแต่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ความฉลาดของลูกนั้นนอกจากเราจะเติมเต็มให้กับเขาเมื่อเขาออกมาสู่โลกภายนอก แล้ว เรายังสามารถช่วยให้เขามีพัฒนาการที่ดีได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่ ผ่าน สารอาหารที่จำเป็นบางชนิด ภาวะที่ขาดแคลนสารอาหาร หรือได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านสมองของเด็ก (เมื่อคลอดออกมาแล้ว) อย่างชัดเจน
ทั้งนี้นอกจากสารอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การพูดคุย การเล่นกับลูก ก็ส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านสมองของลูกเช่นกัน และยังส่งผลต่อภาวะทางอารมณ์ของลูกอีกด้วย เด็กที่อารมณ์ดีเพราะอยู่ในการดูแลที่ดี ได้รับ อาหารที่มีประโยชน์ เมื่อเติบโตขึ้นจะมีพัฒนาการทางสมอง พัฒนาการทางด้านร่างกาย และมีความฉลาด (ทั้งด้านความคิดและทางอารมณ์) มากกว่าเด็กที่ขาดสารอาหารเมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน
สารอาหาร หรือ อาหารบํารุงสมองทารกในครรภ์คือหัวใจสำคัญของความฉลาดของเด็กแรกเกิด
การขาดสารอาหารนั้นนอกจากจะทำให้พัฒนาการทางสมองของเด็กไม่ดีเท่าที่ควร แล้ว ยังทำให้อารมณ์ของลูกเปลี่ยนไปด้วย ลูกของเราบางคนเมื่อเราคลอดเขาออกมาแล้วอาจจะเงียบ ดูหงอยเหงา เซื่อง ซึม เนื่อง จากภาวะการขาดสารอาหารในช่วงที่เราตั้งครรภ์นั้นเอง เราสามารถป้องกันและแก้ไขได้โดยการทานอาหารและแร่ธาตุที่ครบถ้วน (ย้ำว่าครบถ้วน อย่ามากเกินไปนะค่ะ) ทั้งตัวคุณแม่เอง (ถ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่) และให้ลูกของ เราทานด้วย (เมื่อเราคลอดลูกของเราออกมาแล้ว)
สารอาหาร หรืออาหารบํารุงสมองทารกในครรภ์อะไรบ้างที่คุณแม่มักจะขาด เมื่อเข้าสู่ภาวะตั้งครรภ์
กรดโฟลิก แคลเซียม และธาตุเหล็ก และวิตามินต่างๆ ซึ่งโดยปกติหากเราอยู่ในการดูแลของคุณหมอที่ดี คุณหมอก็จะให้เราทานวิตามินเสริมอยู่แล้ว ดังนั้นคุณแม่ก็ควรจะทานให้ครบถ้วน เพราะสารอาหารและแร่ธาตุ เหล่านี้นอกจากจะส่งผลต่อทารกในครรภ์แล้วยังส่งผลต่อตัวคุณแม่เองอีกด้วย เช่น กรดโฟลิกนั้นจะช่วยป้องกันความผิดปกติหรือภาวะต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการคลอดลูกได้ เป็นต้น
นอกจากนั้นมลภาวะและสารเสพติดต่างๆ ก็มีผลด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ควันบุหรี่, ยาเสพติดอื่นๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ล้วนส่งผลทำลายการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ทั้งสิ้น ดังนั้นรู้อย่างนี้แล้ว ว่าที่ คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายก็ควรจะใส่ใจกับอาหารให้มากนะค่ะ เพราะอาหารไม่ได้มีผลแค่ตัวคุณแม่เองคนเดียวเท่านั้น แต่มันจะส่งผลต่อเนื่องให้กับลูกในท้องของเราในระยะยาวอีกด้วยค่ะ
สารอาหารสำคัญเพื่อการบำรุงครรภ์คุณแม่ในแต่ละไตรมาสควรเป็นอย่างไร และมีอยู่ในอาหารประเภทไหนบ้าง
Embarassed อาหารบํารุงสมองทารกในครรภ์คุณแม่อายุครรภ์ 0-3 เดือน
- Frown กรดโฟลิก
สารอาหารตัวนี้มีส่วนช่วยพัฒนาสมองและกระดูกสันหลังของทารกรวมไปถึงระบบประสาทส่วนกลางด้วย กรดโฟลิกไม่สามารถเก็บสะสมไว้ในร่างกายได้ คุณแม่จึงควรได้รับสารอาหารชนิดนี้ทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ของการตั้งครรภ์ค่ะ มีอยู่ในผักใบเขียว กล้วย ส้ม ธัญพืช เช่น ถั่วลิสงและขนมปังโฮลวีต - Innocent วิตามินซี
ร่างกายไม่สามารถสะสมวิตามินซีไว้ได้เช่นกัน คุณแม่จึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินตัวนี้ทุกวัน โดยการรับประทานผักและผลไม้สดๆ พยายามให้ผ่านกรรมวิธีการปรุงน้อยที่สุด เพราะวิตามินซีจะสูญเสียง่ายจากการความร้อนและการเก็บไว้นาน วิตามินตัวนี้ช่วยให้รกแข็งแรง ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค และช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กเป็นไปได้ดีขึ้นมีอยู่ในผลไม้ประเภทส้ม ฝรั่ง ซึ่งมีวิตามินซีสูงกว่ามะนาวถึง4 เท่า มะขามป้อม ผลกีวี มะเขือเทศ แตงโม สับปะรดมะละกอ ส้มโอ ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า บร็อกโคลีกะหล่ำ - Kiss วิตามินดี
ร่างกายคุณแม่สามารถสร้างวิตามินตัวนี้ได้เอง เมื่อได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ นอกจากแสงแดดแล้ว ปลา นมไข่แดง เนย ก็เป็นอีกแหล่งที่มีวิตามินนี้อยู่ - Laughing วิตามินบี 12
วิตามินนี้มีความจำเป็นต่อการสร้างและพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์ มีอยู่ในเนื้อสัตว์ ปลาไข่ เนื้อสัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ฯลฯ ซีเรียล ยีสต์ บางชนิด - Money mouth ไขมัน
20% ของไขมันเป็นส่วนที่ครอบคลุมสมองและยังมีส่วนในการพัฒนาระบบประสาท หากคุณแม่ขาดไขมันตัวนี้ร่างกายจะแสดงออกมาในอาการผิวแห้ง ผมเสีย เล็บเปราะและน้ำหนักน้อยค่ะ มีอยู่ใน น้ำมันพืช ถั่ว เมล็ดพืช งาน้ำมันปลา เมล็ดทานตะวัน
Embarassed อาหารบํารุงสมองทารกในครรภ์คุณแม่อายุครรภ์ 3-6 เดือน
เป็นช่วงที่ทารกกำลังเจริญเติบโตเร็วที่สุดช่วงนึ่ง อวัยวะต่างๆ ก็สมบูรณ์มากขึ้นเพราะฉะนั้นการบำรุงร่างกายด้วยสารอาหารให้ครบ ทุกหมู่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ละเลยไม่ได้ มาดูกันว่าช่วงนี้คุณแม่ต้องทานอะไรมากเป็นพิเศษ
- Frown โปรตีน
กรดอะมิโนในโปรตีนจะช่วยเสริมสร้างส่วนต่างๆของร่างกายลูก โปรตีนจึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์และเนื้อเยื่อ ซึ่งจะประกอบเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก และอวัยวะภายในต่างๆ คุณแม่จึงต้องรับประทานโปรตีนทุกวัน และเพิ่มขึ้นกว่าปกติจาก 45-60 กรัมต่อวัน เป็นประมาณ75-100 กรัมต่อวัน มีอยู่ใน อาหารประเภทเนื้อสัตว์จะมีโปรตีนสูงสุด แต่ก็มีไขมันสัตว์ค่อนข้างสูงด้วย ขอแนะนำโปรตีนจากเนื้อปลาเพราะให้โปรตีนสูง มีวิตามิน น้ำมันปลาและไขมันต่ำ ส่วนพืชตระกูลถั่วก็ให้โปรตีนสูงเช่นกันค่ะ - Innocent เหล็ก
แม่ตั้งครรภ์ต้องการเหล็กมากขึ้นสำหรับผลิตเลือดเพื่อนำออกซิเจนไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งรกด้วยคุณจึงควรรับประทานธาตุเหล็กให้เพียงพอตลอดการตั้งครรภ์แต่ร่างกายจะดูดซึมเหล็กได้ดีก็ต้องอาศัยวิตามินซีเป็นตัวช่วย ฉะนั้นคุณแม่จึงต้องทานอาหารที่มีวิตามินซีร่วมกันไป หากขาดธาตุเหล็กคุณแม่จะรู้สึกเหนื่อยง่ายมีอยู่ใน หมูเนื้อแดง เครื่องในสัตว์ ตับ ไข่ เนื้อปลา ไข่แดงใบชะพลู ใบตำลึง ใบขี้เหล็ก ใบกะเพรา งา ชะอม - Kiss ไฟเบอร์
ในระยะนี้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการยืดขยายตัวของกล้ามเนื้อทางเดินอาหาร และการกดทับของลำไส้เนื่องจากมดลูกโตขึ้น อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะนั่นจะเป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวารค่ะ มีอยู่ในข้าวกล้องและถั่ว ขนมปังโฮลวีต ผักและผลไม้
Embarassed อาหารบํารุงสมองทารกในครรภ์คุณแม่อายุครรภ์ 6 ถึง 9 เดือน
เป็นช่วงที่ทารกในครรภ์เจริญเติบโตเร็วที่สุด ทั้งระบบประสาท อวัยวะภายในสมอง เรียกว่าทุกส่วนของ
ร่างกายกำลังพัฒนาจนสมบูรณ์เต็มที่ พร้อมที่จะทำงานทันทีหลังคลอดค่ะ สารอาหารที่จำเป็นของแม่และลูกในช่วงไตรมาสนี้ก็คือ
- Frown แคลเซียม
ทารกต้องการแคลเซียมในปริมาณสูงเพื่อสร้างเซลล์กระดูก ฟัน เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์ประสาท และเกล็ดเลือด ยิ่งในช่วง 10 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ลูกอ่อนต้องการแคลเซียมมากเป็นพิเศษเพื่อสร้างรากฐานดังกล่าวของร่างกาย หากคุณแม่ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอลูกจะดึงแคลเซียมจากร่างกายแม่ไปใช้ โอกาสที่กระดูกและฟันของคุณแม่จะไม่แข็งแรงจะมีสูงเมื่ออายุมากขึ้นค่ะ มีอยู่ใน นม และผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ต เนย กะหล่ำปลาเล็กปลาน้อย ฝรั่ง เมล็ดทานตะวัน - Innocent วิตามิน เอ
เป็นวิตามินอีกชนิดที่สำคัญสำหรับการตั้งครรภ์ในไตรมาสสุดท้าย เพราะจำเป็นต่อพัฒนาการที่เจริญเติบโตของร่างกายทารก มีอยู่ใน ไข่ เนย นม เครื่องในสัตว์ผักใบเขียว ฟักทอง แครอต มะม่วง มะเขือเทศ
แหล่งที่มา : ยาบํารุงร่างกาย.com