อาหารจีนแคะ อาหารจีนกวางตุ้ง อาหารจีน ปักกิ่ง
เอี้ยวฮินโภชนา: ต้นตำหรับร้านอาหารจีนแคะ
อาหารจีนในเมืองไทยที่คนไทยคุ้นเคยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจีนกวางตุ้ง อาหารจีนแบบฮ่องกง หรือจีนเสฉวนที่มีรสจัดจ้าน แล้วคนจีนในประเทศไทยที่เราเห็น ๆ กันในเยาวราชส่วนใหญ่อพยพมาจากซัวเถา ซึ่งเป็นคนจีนแต้จิ๋ว ทว่าประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาล และชาวจีนโพ้นทะเลต่างอพยพมาเมืองไทยหลายก๊กหลายเหล่าหลายแซ่ กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงจีนแคะหรือจีนฮักกา หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามชาวฮั่น (Han Chinese)
ชาวจีนแคะนั้นเดิมทีอยู่ที่มณฑลเฮอหนานและส่านซีทางเหนือของจีน ก่อนจะอพยพมายังมณฑลกวางตุ้ง ถึงฝูเจี้ยน ก่อนจะอพยพไปยังทั่วโลก
สิ่งหนึ่งที่ชาวจีนแคะติดตัวมาก็คือวัฒนธรรมการกินที่สืบทอดเมนูอาหารมาจากบรรพบุรุษ ความแตกต่างของอาหารทำให้ชาวจีนแคะมีความภูมิใจเป็นเลิศในเรื่องการกิน แน่นอนอาหารที่แตกต่างนี้ก่อให้พวกเขารวมกันเป็นหนึ่ง ความแตกต่างของอาหารแคะจึงอยู่ที่เครื่องปรุงที่แตกต่างจากอาหารจีนกวางตุ้งที่คนไทยคุ้นเคย
ในวันนี้ผกาขอนำเสนอร้านอาหารจีนแคะในเมืองไทย ที่จะบอกว่าอร่อยที่สุดในกรุงเทพฯก็ว่าได้ ร้านนี้มีนามว่า เอี้ยวฮินโภชนาการ
เดิมทีร้านนี้เปิดบริการอยู่ที่สวนมะลิเมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนเปิดแรก ๆ ที่สวนมะลิมีคนต่อคิวกันเต็ม คนล้นออกมาจากร้าน แต่แล้วร้านที่สวนมะลิต้องมีอันปิดไปเพราะเจ้าของตึกไม่ยอมต่อสัญญา จึงทำให้เจ้าของร้านต้องมาเปิดร้านใหม่บนถนนวุฒากาศ แม้ปัจจุบันร้านจะไม่อยู่ในทำเลทองเหมือนสวนมะลิ แต่ขาเก่าเจ้าประจำก็ยังคงแวะเวียนมากินไม่ขาดสาย
เอี้ยวฮินโภชนาเป็นร้านตึกแถวสองคูหาตั้งอยู่บนริมถนน ท่านสามารถจอดรถในซอยข้าง ๆ ธนาคารกสิกรไทย หรือถ้าช่วงหกโมงทุ่มนึงก็สามารถจอดรถริมถนนหน้าร้านได้ พ่อครัวร้านนี้เจ้าของเป็นพ่อครัวเอง โดยมีภรรยาเป็นผู้ช่วย และลูก ๆ อีกสามคนคอยบริการ ร้านอาหารที่เข้าของร้านลงมือทำอาหารเองต้องถือว่า เราได้ชิมรสฝีมือของแท้แน่นอนไม่ใช่อาหารจากฝีมือผู้ช่วยกุ๊กตามแบบร้านใหญ่ ๆ
ถ้าไปถึงร้านเอี้ยวฮินขอให้ท่านนั่งลงอย่างสบาย สั่งเครื่องดื่ม ขอเมนูมาดู อย่าได้ใจร้อนเพราะว่ากุ๊กมีเพียงคนเดียว ถ้าคนเยอะอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย แต่รับรองเถอะว่าท่านจะได้ชิมอาหารจีนแคะแท้ ๆ ที่เลิศรส
อาหารออร์เดิร์ฟที่ผกาจะต้องสั่งมากินก่อนในลำดับแรกก็คือ เส้นหมี่ขาวผัด เส้นหมี่ขาวผัดตามสไตล์จีนแคะโดยมีเนื้อไก่ฉีก ถั่วลันเตา หอมหัวใหญ่ ที่ขาดไม่ได้ก็คือข้าวหมากที่ทางร้านหมักเองใส่ลงไปจนชุ่มเส้นหมี่ ทำให้เกิดรสชาติหอมหวานกำลังดี ทานเป็นออร์เดิร์ฟรองท้องก่อน หรือจะสั่งมาในเมนูปิดท้ายก็ไม่ว่ากัน
จานต่อมาพลาดไม่ได้อีกเช่นกันคือ เมนู “หมูอบ” หมูอบเป็นอาหารขึ้นชื่อของอาหารแคะ ที่ไม่ควรพลาด พ่อครัวนำหมูสามชั้นมาทอดจนเหลืองหอมก่อนจะนำไปตุ๋นในน้ำพะโล้ซึ่งปรุงรสด้วยซีอิ๊ว กับเครื่องเทศ ต้มจนเปื่อยนุ่ม นำมาหั่นบาง ๆ เมื่อลูกค้าสั่งนำไปอบพร้อมกับผักดอง ต้องขอบอกว่าผักดองนั้นมีความอร่อยไม่แพ้ตัวเนื้อหมูเลย ถ้าทานเหลือผักดอง ขอถุงใส่ไปกินกับข้าวต้มตอนเช้า รับรองว่าต้องชูนิ้วโป้งสองนิ้ว
อาหารจานหลักของร้านมีด้วยกันหลายรายการ ที่ผกาไม่เคยพลาดสักครั้งเดียวก็คือปลาจีนนึ่งข้าวหมาก ปลาจีนขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อที่หนานุ่มและเนียน โดยเฉพาะส่วนหัวเต็มไปด้วยเจลลาตินจำนวนมาก ปลาจีนนำมานึ่งข้าวหมากสีแดง ผสมด้วยต้นหอมหั่น มันหมู นี่คือจานหลักที่เลิศรสสุดประมาณ และต้องชิมให้ได้เพราะรสชาติไม่เหมือนที่ไหน คุณผู้อ่านอาจจะเคยชิมปลานึ่งซีอิ๊วจากภัตตาคารจีนดัง ๆ แต่ผกาขอยืนยันว่าท่านจะไม่เคยได้ชิมรสชาติเหล่านี้จากที่ใดมาก่อน และต้องลองให้ได้
บางท่านอาจจะสั่งปลาจีนหม้อไฟ โดยทางร้านยังคงใช้ถ่านในการอุ่นน้ำแกงในหม้อไฟ น้ำแกงจะใส่ต้นหอมและปลาจีนมาพร้อมกับเผือก ต้มเผือกให้เปื่อยกินกับน้ำจิ้มซึ่งทำจากเต้าหู้ยี้อร่อยไม่เบา หรือจะเป็นเมนูเต้าหู้น้ำแดงความอร่อยก็ไม่เหมือนใคร
สองจานสุดท้ายที่ผกาขอแนะนำคือ ผัดโป๊ยเซียน ผัดโป๊ยเซียนแสนธรรมาดา แต่เอี้ยวฮินโภชนา ไม่เหมือนที่อื่น รสชาติกลมกล่อมจะกินเป็นกับข้าวหรือกับแกล้มก็อร่อยไม่เบา และเมนูสุดท้ายสั่งมากินตบท้ายคือน้ำแกงเต้าหู้ยัดไส้ ตัวน้ำแกงซึ่งมีรสจืดแต่กลมกล่อม กับเต้าหู้ยัดไส้หมู ช่วยทำให้อาหารมื้อนี้ของผกาจบลงอย่างสุขสมบูรณ์
ร้านเอี้ยวฮินโภชน เป็นร้านเก่าแก่ บรรยากาศร้านไม่ใช่ร้านหรู แต่ถ้าท่านผู้อ่านชอบร้านย้อนยุคแบบของแท้ ร้านนี้จะทำให้วันเวลาเก่า ๆ ซึ่งมีค่ามากกว่าความทรงจำจอมปลอมที่ถูกปั้นแต่งจากร้านอาหารพื้น ๆ ทั่วไปที่ดัดจริตย้อนยุคตามแฟชั่น
เอี้ยวฮินโภชนา คือร้านระดับ 5 ดาวที่ผกาขอมอบให้
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 50/10 ระหว่างซอยวุฒากาศ 36 – 38 ถนนวุฒากาศ
แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพฯ รหัสไปรษณีย์ 10150
เบอร์โทรศัพท์ : 024766678
จุดสังเกต : ร้านอยู่ถนนวุฒากาศ ติดกับธนาคารกสิกรไทย สาขาวุฒากาศ
แหล่งที่มา : niwatblog.com