อารยธรรมเอเชียไมเนอร์(ฟินิเชียน,ฮีบรู ศาสนาที่นับถือ อารยธรรมเอเชียไมเนอร์ ที่ตั้งอารยธรรมเอเชียไมเนอร์
ชนชาติเก่าแก่บางกลุ่มในเอเชียไมเนอร์และดินแดนใกล้เคง
เอเชียไมเนอร์ หมายถึง ดินแดนที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในปัจจุบันได้แก่ ดินแดนปาเลสไตน์ ตุรกี และซีเรีย นอกจากแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ในดินแดนเมโสโปเตเมียและอียิปต์แล้ว ชนชาติเก่าแก่บางกลุ่มในเอเชียไมเนอร์และดินแดนใกล้เคียงได้มีส่วนสำคัญใน การเสริมสร้างอารยธรรมตะวันตกเช่นเดียวกัน ชนชาติสำคัญ ได้แก่ ฟินิเชียนและฮิบรู
ฟินิเชียน ชาวฟินิเชียน เป็นชนเผ่าเซเมติกเผ่าหนึ่ง มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า พวกแคนาไนต์ พวกนี้อาศัยอยู่ในดินแดนแคนาน บริเวณแถบซีเรีย ปาเลสไตน์ อารยธรรมของพวกแคนาไนต์มีรากฐานมาจากอารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์ ในระหว่าง 1,300 - 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชได้ถูกพสกอิสราเอลไลต์ และฟิลิสติน เข้ารุกรานจนต้องสูญเสียดินแดนเกือบทั้งหมด ยกเว้นแต่บริเวณดินแดนแถบชายฝั่งทะเลแคบๆริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ เรียกว่าาฟินิเชียเท่านั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกแคนาไนต์ก็มีชื่อเรียกใหม่ว่า ฟินิเชียน ชาวฟินิเชียนต้องดำรงชีวิตในสภาพแวดล้อมที่อยู่ทะเล จึงทำให้ชาวฟินเชียนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเดินทะเลและการค้าเป็นอันมาก ชาวฟินิเชียนได้สร้างเรือใบขนาดใหญ่ใช้ในการเดินทะเล และสามารถควบคุมการค้าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้เป็นเวลาหลายร้อยปี ตลอดจนได้สร้างเมืองท่าขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น เมืองไทร์ เมืองไซดอน เมืองบีบลอส เป็นต้น นอกจากนี้ชาวฟินิเชียนยังรับสินค้าอินเดียและเมโสโปเตเมียไปขายยังอียิปต์ เอเชียไมเนอร์ แอฟริกาเหนือ และชายฝั่งตะวันตกของทวีปยุโรปและยังเดินทางผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์เข้าไปสู่ มหาสมุทรแอตแลนติกเป็นพวกรก พ่อค้าฟินิเชียนสามารถนำเรือสินค้าไปขายกับเกาะอังกฤษ และได้นำเอาอารยธรรมตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปเผยแพร่ทางตะวันตก จัดตั้งอาณาจักรบนเกาะซิซิลี และชายฝั่งทางตอนเหนือของแอฟริกา อันได้แก่ เมืองคาร์เทจ อีกด้วย
เมื่อ ๗๕๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช พวกอัสซีเรียนได้เข้ายึดครองดินแดนที่สำคัญๆของพวกฟินิเชียนได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นแต่เมืองคาร์เทจซึ่งเจริญรุ่งเรืองต่อมาจนถูกชาวโรมันทำลายใน ๑๔๖ ปีก่อนคริสต์ศักราชเนื่องจากชาวฟินิเชียนได้เดินทางไปค้าขายในดินแดนต่างๆ จึงรับเอาวัฒนธรรมตัวหนังสือจากที่ต่างๆมาปรับปรุงสร้างรูปตัวหนังสือขึ้น ใหม่ เมื่อประมาณ ๑,๐๐๐ - ๙๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช พวกฟินิเชียนได้ดัดแปลงแก้ใขอักษรเฮียราติก ของอียิปต์ และอักษรลิ่มหรือคูนิฟอร์มของชาวสุเมเรียน มาเป็นอักษรอัลฟาเบต ซึ่งสะดวกในการบันทึกเรื่องราวต่างๆบัญชีการค้า และอื่นๆอักษรอัลฟาเบตของฟินิเชียนเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วไป และชาติต่างๆ ได้นำไปดัดแปลงเป็นตัวหนังสือของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาษากรีกและละตินอักษรของฟินิเชียนจึงเป็นต้นตระกูลตัว อักษรอัลฟาเบตของชาติตะวันตกและตะวันออก ชาวกรีกได้ปรับปรุงตัวหนังสือของฟินิเชียนให้สวยงามขึ้นและสะดวกยิ่งขึ้นใน การเขียนและอ่าน โดยเพิ่มสระขึ้นในภายหลัง
ฮีบรู พวกฮิบรู หรือยิว เป็นชนเผ่าเซมิติกที่เดินทางเร่ร่อนในทะเลทราย เมื่อประมาณ ๑,๔๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช ได้อพยพเข้าไปอยู่ในอียิปต์ และถูกจับเป็นทาส กล่วกันว่า โมเลส ผู้นำคนสำคัญได้ปลดแอกชาวฮิบรูจากการเป็นทาสของอียปต์และพาฮิบรูทั้งหมดอพยพ ไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนแห่งคำมั่นสัญญา อันได้แก่ ดินแดนปาเลสไตน์ หรือแคนานที่เชื่อกันว่าเป็นดินแดนที่พระเจ้าของบรรพบุรุษอับราฮัม หรือ พระยะโฮวา ทรงประทานให้ ต่อมาได้สถาปนาเป็นอาณาจักรมีนครหลวงอยู่ที่เยรูซาเลม และขยายเป็นจักรวรรดิอิสราเอลแต่ก็ไม่สามารถจะรักษาความเป็นปึกแผ่นไว้ได้ นาน เกิดแตกแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ อาณาจักรอิสราเอลทางตอนเหนือและจูดาห์ทางใต้ ต่อมาอาณาจักรอิสราเอลทางตอนเหนือถูกทำลายโดยพวกอัสซีเรียนและจูดาห์ตกเป็น เมืองขึ้นของอาณาจักรบาบิโลเนียใหม่ของพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ ประชาชนถูกกวาดต้อนไปอยู่บาบิโลเนียใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามว่า การคุมขังแห่งบาบิโลเนีย ในเวลาต่อมาพวกฮิบรูก็ตกอยู่ใต้การปกครองของเปอร์เซีย กรีก โรมัน แต่ใน ค.ศ.70พวกฮิบรูเป็นกบฏต่อจักรวรรดิโรมัน และดินแดนปาเลสไตน์ได้ถูกทหารโรมันเข้าทำลาย ชาวฮิบรูจึงกลายเป็นชนเผ่าเร่ร่อน และไม่มีดินแดนเป็นของตัวเอง จนกระทั่งเมื่อสงครามโลกครั้งที่2สิ้นสุดลง ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงตกลงจัดตั้งประเทศอิสราเอลของชาวฮิบรูขึ้นเป็นประเทศ อิสระ มรดกสำคัญที่ชาวฮิบรูมอบไว้ให้อารยธรรมตะวันตก คือ ศาสนา ศาสนาของชาวฮิบรูเรียกว่า ศาสนายูดาย เป็นศาสนาที่เน้นการบูชาพระเจ้าองค์เดียว ซึ่งได้แก่ พระยะโฮวา ความผูกพันระหว่างพระยะโฮวาและชาวฮิบรูได้รับการบันทึกไว้ในพันธสัญญาเดิม หรือพระคัมภีร์เก่า ซึ่งถือกันว่าเป็นพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนต้องให้ความเคารพปฏิบัติ ตามการนับถือพระเจ้าองค์เดียวของชาวฮิบรูเป็นต้นกำเนิดของศาสนาที่สำคัญของ โลก คือ ศาสนายูดาย คริสต์ และอิสลาม ซึ่งศาสนาทั้งสามดังกล่าวนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการสร้างอารยธรรมของโลก ตะวันออก พระคัมภีร์ของชาวฮิบรูให้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาวฮิบรูและชนชาติโบราณ อื่นๆที่แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ต่างๆในประวัติศาสตร์ในยุคโบราณ ชนชาติโบราณ ขนบธรรมเนียม กฎ ข้อบังคับ และได้รับการแปลเป็นภาษากรีก ภาษาละติน ตลอดจนภาษาท้องถิ่นของโลกตะวันตกและโลกตะวันออกทุกภาษา อาจกล่าวได้ว่า พระคัมภีร์ของพวกฮิบรูเป็นวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่ง และเป็นผลงานที่ส่งเสริมความเจริญของอารยธรรมตะวันตก ทั้งในด้านภาษา ชีวิตความเป็นอยู่และทัศนคติในการครองชีพมากที่สุด
แหล่งที่มา : thaigoodview.com