คำขวัญ คือข้อความสั้นๆ เขียนด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรเป็นพิเศษเพื่อให้ประทับใจผู้ฟัง
ที่มาของภาพ :https://www.osea2.go.th/newsgroup_upload/1294203966.jpg
วันเด็กแห่งชาติจัดขึ้นทุก ๆวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทของตนเอง ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก ให้ ความสนใจเอาใจใส่เด็กในการเลี้ยงดูอบรมให้เขาเป็นคนดี เป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไปในปี ๒๕๕๔นี้ได้มีการจัดกิจกรรมให้เด็กได้ร่วมสนุกมากมายจากหลายหน่วยงาน องค์กร แสดงถึงการให้ความสำคัญกับเด็กของประเทศชาติอย่างเห็นได้ชัด
ที่มา : กระปุกดอทคอม https://hilight.kapook.com/view/17298
การกำหนดให้มีวันเด็กแห่งชาติเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของเด็กและสิ่งที่เด็ก ๆทุกคนรอคอยและเป็นที่กล่าวถึงกันทุกปีนั่นก็คือ "คำขวัญวันเด็ก"
เนื้อหาสำหรับ
กลุ่มสาระภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ สาระการเรียนรู้ที่ ๔ หลักและการใช้ภาษาไทย
ประเด็นการศึกษา
เมื่อถึงวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคมของทุกปี พบว่าเด็ก ๆ ทุกคนจะรอคอยวันนี้ด้วยความใจจดใจจ่อว่า เมื่อวันนี้มาถึงพวกเขาจะได้รับอะไรเป็นของขวัญซึ่งอาจจะเป็นสิ่งของ การได้ไปเที่ยวในสถานที่ที่ชอบ สนใจ ใฝ่ฝัน หรือการได้ประทานอาหารอร่อย ๆแสนโปรด เป็นต้น วันเด็กแห่งชาติจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ ตรงกับวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม พร้อมกับองค์การสหประชาชาติซึ่งริเริ่มให้มีกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับเด็กเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้เด็กได้ตระหนักถึงบทบาทของตนเองเป็นสำคัญ ซึ่งขณะนั้นมีประเทศที่ตอบรับการจัดกิจกรรมนี้กว่า ๔๐ ประเทศ จนถึง พ.ศ. ๒๕๐๘ ประเทศไทยได้เปลี่ยนวันเวลาในการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติมาเป็นวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคม เนื่องจากเดิมนั้นตรงกับฤดูฝนไม่สะดวกในการจัดกิจกรรม และจากนั้นเป็นต้นมาประเทศไทยก็กำหนดกิจกรรม วันเด็กแห่งชาติเป็นทุก ๆวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคมของทุกปี
ที่มาของภาพ : https://hilight.kapook.com/view/17298
ในกิจกรรมวันเด็กของทุกปีจะเห็นว่าจะมีหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ที่เล็งเห็นความสำคัญของเด็กได้จัดกิจกรรมที่ตอบสนองความต้องการของเด็ก ๆ อย่างมากมายทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน เช่น โรงเรียน องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นแต่ละระดับ บริษัท ห้างร้าน หรือการรวมตัวกันของหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกันจัดกิจกรรมอันหลากหลายให้เด็ก ๆ ทั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่มุ่งให้เด็กได้รับความสุข สนุกสนานบันเทิงรวมไปถึงการจัดแจกแลกของขวัญ หรือการให้เด็กได้แสดงออกในลักษณะต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีจุดมุ่งหมายเพื่อเด็กได้ตระหนักถึงคุณค่า บทบาทและความสำคัญของตนเองทั้งสิ้น และนอกจากกิจกรรมที่รอคอยยังมีอีกสิ่งหนึ่งสำหรับเด็ก ๆ ที่พวกเขาจะได้รับสม่ำเสมอทุกปีก็คือ "คำขวัญวันเด็ก"
ที่มาของภาพ : https://hilight.kapook.com/view/17298
คำขวัญวันเด็กเริ่มมีครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ ถึงแม้คำขวัญวันเด็กจะมีบุคคลที่มอบให้หลายบุคคลหลายระดับ ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯสมเด็จพระสังฆราช นายกรัฐมนตรี รวมไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่ก็คงมีธรรมเนียมนิยมที่สืบเนื่องต่อกันมา และนับว่าเป็นคำขวัญที่เด็ก ๆรอคอย ได้รับการถ่ายทอดมา จนท่องจำกันขึ้นใจก็คงไม่พ้นคำขวัญของฯพณฯนายกรัฐมนตรี ซึ่งแต่ละปีเด็ก ๆ ก็จะได้รับคำขวัญที่ทำให้เด็กประทับใจ จดจำ จนนำไปปฏิบัติกันอย่างแพร่หลาย ถึงแม้ว่าบางปีอาจจะมีคำขวัญที่ซ้ำกับปีที่ผ่านมาบ้างแต่ก็ยังสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับเด็กได้เสมอ พร้อมกับคำวิพากย์วิจารณ์คำตีความคำขวัญเหล่านั้นอย่างหลากหลายมุมมอง
สำหรับในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ คำขวัญวันเด็กจากนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะคือ "รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ" ซึ่งท่านนายกฯ ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับแนวคิดของคำขวัญนี้ว่า
"รอบคอบ" เนื่องมาจากปัจจุบัน มีทางเลือกที่จะรับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อใหม่ต่าง ๆ มากมาย ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์เห็นว่า เยาวชนไทยต้องรู้รอบด้าน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนอาจทำสิ่งที่เกิดปัญหาแก่ตนเองและสังคมได้ในอนาคต
"รู้คิด" เมื่อเยาวชนไทยเรียนรู้รอบด้านแล้ว ต้องรู้จักคิดใช้ชีวิตอย่างมีสติไม่ประมาท ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ จึงอยากให้น้อง ๆ เด็ก ๆ รู้จักคิดให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นด้วย
"จิตสาธารณะ" สังคมต้องพึ่งพิงกัน เห็นได้ในยามมีภัยคนไทยเราช่วยกัน การปลูกฝังจิตสำนึกเช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งในสังคม โดยต้องเริ่มที่เด็ก ๆ เยาวชนไทย
ที่มาของภาพ : https://hilight.kapook.com/img_cms2/other/children1.jpg
คำขวัญ คือข้อความสั้นๆ เขียนด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรเป็นพิเศษเพื่อให้ประทับใจผู้ฟัง จูงใจให้คิด หรือปฏิบัติประโยชน์ของคำขวัญ คือ ใช้เป็นเครื่องเตือนใจให้ปฏิบัติตาม
คำขวัญ จะต้องมีองค์ประกอบสำคัญคือ ความมุ่งหมายหรือแนวคิด ข้อความหรือเนื้อหาและ ศิลปะแห่งการใช้ถ้อยคำ ซึ่งจะประสมกลมกลืนกันในตัวคำขวัญนั้นอย่างเหมาะสม
ลักษณะของคำขวัญที่ดี คือมีเจตนาที่ดี ต่อผู้ฟัง ผู้ปฏิบัติหรือผลประโยชน์ของส่วนรวม เช่น คำขวัญเชิญชวนงดการสูบบุหรี่ คำขวัญเชิญชวนให้ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ฯลฯมีเป้าหมายชัดเจนเพียงเป้าหมายเดียว เช่น เพื่อให้เคารพกฎจราจรหรือเพื่อให้ช่วยรักษาความสะอาดของถนน ฯลฯ มีเนื้อหาครอบคลุมเป้าหมาย ไพเราะ สัมผัสคล้องจอง
มีพลังโน้มน้าวใจผู้ฟังให้จำและปฏิบัติตาม
ขั้นตอนในการเขียนคำขวัญ
กำหนดจุดมุ่งหมาย วางขอบข่ายสำหรับใคร
ศึกษาความรู้ไว้ เรียบเรียงคำครอบคลุมความ
ลองเขียนหลายสำนวน เลือกเอาส่วนน่าติดตาม
หนึ่งเดียวไม่มองข้าม ต้องตรวจทานให้ชัดเจน
เมื่อถึงโอกาสวันสำคัญต่าง ๆ จะเห็นว่าคำขวัญจะมีบทบาทต่อความรู้สึกนึกคิดของผู้ใช้คำขวัญในแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากจะต้องเขียนคำขวัญผู้เขียนก็ต้องเข้าใจหลักสำคัญส่วนนี้ให้ชัดเจน การได้มีโอกาสอ่านคำขวัญของบุคคลหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นแนวคิดของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าคำขวัญวันเด็กก็ต้องเป็นหนึ่งในคำขวัญที่เด็ก ทุกคนจะต้องได้อ่านและจดจำได้และเป็นแรงกระตุ้นเตือนให้ปฏิบัติตามข้อความในคำขวัญนั้น วันนี้ลองมาเขียนคำขวัญเพื่อให้คนอื่นได้อ่านและนำไปปฏิบัติกันบ้างก็คงจะดี
ประเด็นคำถาม
๑. นักเรียนคิดว่าคำขวัญที่ดีเป็นอย่างไร
๒. นักเรียนคิดว่าควรมีคำขวัญวันเด็กต่อไปหรือไม่เพราะเหตุใด
๓. นักเรียนคิดว่าคำขวัญเป็นประโยชน์กับนักเรียนหรือไม่อย่างไร
๔. นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำขวัญที่จดจำได้อย่างน้อย ๑ คำขวัญ
๕. นักเรียนคิดและเขียนคำขวัญอย่างคนละ ๒ คำขวัญ
กิจกรรมเสนอแนะ
๑. นักเรียนรวบรวมคำขวัญวันเด็กในปีต่าง ๆให้มากที่สุด
๒. นักเรียนแบ่งกลุ่มหาคำขวัญประเภทต่างๆ จัดป้ายนิเทศ
บูรณาการ
สุขศึกษาและพลศึกษาคำขวัญเกี่ยวกับยาเสพติด , การใช้รถใช้ถนน , เพศศึกษา
สังคมศึกษา: คำขวัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม , ส่งเสริมค่านิยมไทย
การงานอาชีพ : คำขวัญเกี่ยวกับอาหาร
ที่มา
https://hilight.kapook.com/view/17298
https://www.thaigoodview.com/library/teachershow/samutsongkhram/nittaya_a/day/s2p2.htm
https://www.act.ac.th/act_baby/index.asp
https://www.skoolbuz.com/library/content/940
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3710