เป็น1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของนครรีโอเดจาเนโร และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบราซิล มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ราว 1,800,000 รายต่อปี
เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และผู้ที่สนใจทั่วไป
Christ the Redeemer ( statue ) คือรูปปั้นพระเยซูคริสต์ ตั้งอยู่บนยอดเขากอร์โกวาดู ( Corcovado Mountain ) ในนครรีโอเดจาเนโร ( Rio de Janeiro ) ประเทศบราซิล ( Brazil ) ได้รับการลงคะแนนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ และถือเป็นสัญญาลักษณ์ของนครรีโอเดจาเนโร และที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวคริสต์ในประเทศ บราซิลทั้งหมด ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง
ที่มา : https://travel.nationalgeographic.com/places/images/lw/brazil_christ-redeemer.jpg
เป็นรูปปั้นสูง 30 เมตร กว้าง 38 เมตร ( วัดจากปลายแขนซ้าย ถึงปลายแขนขวา ) มีน้ำหนัก 635 ตัน ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขากอร์โกวาดู ( Corcovado Mountain ) ในอุทยานแห่งชาติทิจูคา ( Tijuca Forest National Park ) ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็น มหานครรีโอเดจาเนโร ( Rio de Janeiro ) ได้ทั้งหมด ถือเป็นรูปปั้นพระเยซูคริสต์ขนาด ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่บนระดับความสูง 710 เมตร
ที่มา : https://www.vcharkarn.com/uploads/152/152325.jpg
ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หุ้มด้วยหินสบู่ ( Soapstone ) เนื่องจากมีความทนทานสูง และเหมาะต่อการใช้งาน แกะสลักดำเนินการโดยช่างแกะชาวฝรั่งเศล นามว่า Paul Landowski ออกแบบโครงสร้างนำโดยวิศวกรชื่อ Albert Caquot ผู้ออกแบบสถาปัตกรรม เป็นวิศวกรชาวบราซิล ชื่อว่า Heitor da Silva Costa
ที่มา : https://www.pictureworldbd.com/images/Icon_of_World/Christ%20the%20Redeemer,%20Brazil.jpg
Heitor da Silva Costa ผู้ออกแบบรูปปั้นพระเยซูคริสต์ กำลังนั่งดูโมเดลจำลอง
ที่มา : https://www.hopeofsuphanburichurch.com
ประวัติความเป็นมา กลางปี 1850 เมื่อหลวงพ่อ Pedro Maria ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก เจ้าหญิง Isabel ให้ทำการก่อสร้างรูปปั้นทางศาสนาขนาดใหญ่ ปี 1921 จึงมีการเสนอ 2 โครงการการรูปปั้นขนาดยักษ์ ที่เป็นสัญญาลักษณะของเมือง โดยรูปแบบแรกเป็นรูปพระเยซูคริสต์ และมีโลกอยู่ในมือ และอีกรูปแบบเป็นรูปพระเยซูคริสต์กางแขน และรูปแบบหลังได้รับการรับเลือก ปี 1922 เริ่มทำการก่อสร้าง การก่อสร้างใช้เวลา 9 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1922 ถึง 1931 การก่อสร้างเส้นทางเดียวที่จะลำเลียงวัสดุก่อสร้าง และคนงานขึ้นสู่ยอดเขา โดยใช้รถไฟ และปัจจุบัน ก็ยังคงใช้สำหรับขนส่งนักท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดเขา หรืออาจใช้เส้นทางรถยนต์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที แล้วต่อด้วยการเดินขึ้นบันไดอีก 222 ขั้น ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นบันไดเลื่อนเรียบร้อยแล้ว ปี 1931 รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร เสร็จสมบูรณ์ และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1931 ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 8,750,000 บาท ( 250,000 เหรียญสหรัฐ ) ปี 2008 รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร ถูกฟ้าฝ่าเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2008 แต่รูปปั้นไม่ได้รับความเสียหายเนื่องจากหุ้มด้วยหินสบู่
ประเด็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายในห้องเรียน
1. จงอธิบายประวัติความเป็นมาของรูปปั้นพระเยซูคริสต์
2. นักเรียนคิดว่าความยิ่งใหญ่ของรูปปั้นพระเยซูคริสต์ มีความสำคัญต่อประเทศบราซิลอย่างไร
3. เพราะเหตุใดรูปปั้นพระเยซูคริสต์จึงได้เป็น 1ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
กิจกรรมเสนอแนะ
1. ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อสร้างสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่
2. ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติของหินสบู่
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ
สามารถบูรณาการกับกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ
อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
https://th.wikipedia.org/wiki
https://www.oknation.net/blog/khonfungpleng/2009/07/13/entry-3
https://www.hopeofsuphanburichurch.com
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2977