เทศกาลกินเจ…อิ่มบุญเพื่อสุขภาพ


669 ผู้ชม


เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 รวม 9 วัน 9 คืน สำหรับในปีนี้ในประเทศไทยของเราส่วนใหญ่จัดกันในวันที่ 8-16 ตุลาคม 2553 จุดประสงค์หลักคือ กินเพื่อสุขภาพ กินด้วยจิตเมตตา และกินเพื่อเว้นกรรม   

เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม   และผู้ที่สนใจทั่วไป

เทศกาลกินเจ…อิ่มบุญเพื่อสุขภาพ

ที่มา : https://www.muangthai.com/board/index.php?topic=4958.0


        คำว่า เจ ในภาษาจีนทางพุทธศาสนานิกายมหายานมีความหมาย เหมือนชาวพุทธในประเทศไทยที่รักษาศีล 8 โดยไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวัน  และการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธนิกายมหายานที่ไม่กินเนื้อสัตว์ จึงไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการถือศีลกินเจ  ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่ากินเจด้วยเช่นกัน    ฉะนั้นความหมายก็คือคนกินเจมิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ

เทศกาลกินเจ…อิ่มบุญเพื่อสุขภาพ

ที่มา :   https://share.psu.ac.th/blog/7722/11748 

 
จุดประสงค์ของการกินเจ
ผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
        1.  กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ 
        2.  กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตาย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้น
        3.  กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เช่นกัน

เทศกาลกินเจ…อิ่มบุญเพื่อสุขภาพ

ที่มา :  https://www.thaionlinemarket.com/question.asp?QID=362791

อาหารเจ
        อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ ส่วนประกอบที่มาจากสัตว์ทุกประเภทและไม่ปรุงด้วยผักฉุนทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย และใบยาสูบ  ทำให้อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงดเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ที่กินเจหันมาบริโภคธัญพืชในธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง  

ประโยชน์ของการกินเจ
       1.  ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียออกได้หมดทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างอยู่ภายใน สารอาหารที่มีคุณค่าในพืชผักและผลไม้จะช่วยให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารเป็นปกติ 
       2.  เมื่อรับประทานเป็นประจำโลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่างๆ ของร่างกายเสื่อมสลายช้าลงทำให้อายุยืนยาว มีสุขภาพพลานามัยดี 
       3.  อวัยวะหลักสำคัญภายใน ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด และอวัยวะประกอบคือ ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ กระเพาอาหาร ถุงน้ำดี แข็งแรงทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์ 
       4.  ร่างกายสามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ได้สูงกว่าคนปกติธรรมดา ได้แก่  สารเคมี ยากำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง สารดีดีที   มลภาวะและก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้   ร่างกายสามารถทนต่อการทำลายจากรังสีต่างๆ 
       5.  ลดการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคที่รุนแรงหรือเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคไต ไขข้ออักเสบ โรคเก๊าส์ โรคเบาหวาน โรคที่เกี่ยวกับระบบขับถ่าย ย่อยอาหารและทางเดินอาหาร เช่น โรคริดสีดวงทวาร มะเร็งในกระเพาะและลำไส้ โรคกระเพาะ อาหารไม่ย่อย โรคเหล่านี้จะไม่พบเลยในกลุ่มคนผู้ที่รับประทานอาหารเจ อาหารพืชผักและผลไม้เป็นประจำ

หลักธรรมในการกินเจ
       การกินเจตั้งมั่นอยู่บนหลักธรรมสำคัญ 2 ประการคือ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเองและดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น กล่าวคือ
      1.  ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน 
      2.  ไม่เอาเลือดของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเลือดของตน 
      3.  ไม่เอาเนื้อของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเนื้อของตน 
การกินเจจึงไม่ใช่เพื่อให้เกิดผลดีต่อจิตใจเท่านั้นแต่ยังครอบคลุมไปถึงการมีสุขภาพพลานามัยที่ดีอีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการกินเนื้อสัตว์เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายเกิดโรคมากมาย

ตำนานที่มาของเทศกาลกินเจ

เทศกาลกินเจ…อิ่มบุญเพื่อสุขภาพ

ที่มา : https://www.thaimerits.com/?p=613


ตำนานที่ 1
         กล่าวกันว่า การกินเจเริ่มขึ้นเพื่อรำลึกถึงนักรบ "หงี่หั่วท้วง" ซึ่งเป็นทหารชาวบ้านของจีนที่ต่อสู้ต้านทานกองทัพแมนจูอย่างกล้าหาญ นักรบหงี่หั่วท้วงเหล่านี้จะประกอบพิธีกรรมนุ่งขาวห่มขาว ไม่กินเนื้อสัตว์และผักที่มีกลิ่นฉุน  ชาวจีนจึงรำลึกถึงนักรบหงี่หั่วท้วงเหล่านี้ด้วยสำนักในบุญคุณ

ตำนานที่ 2
       เป็นพิธีกรรมเพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ด้วยกัน หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ดาวนพเคราะห์” ทั้ง 9 ได้แก่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ 

ตำนานที่ 3
       ผู้ถือศีลกินเจในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาของชาวจีนในประเทศไทย เพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีลกาล 7 พระองค์  คือ พระวิชัยโลกมนจรพุทธะ พระศรีรัตนโลกประภาโมษอิศวรพุทธะ พระเวปุลลรัตนโลกวรรณสิทธิพุทธะ พระอโศกโลกวิชัยมงคลพุทธะ พระวิสุทธิอาศรมโลกเวปุลลปรัชญาวิภาคพุทธะ พระธรรมมติธรรมสาครจรโลกมโนพุทธะ พระเวปุลลจันทรโภคไภสัชชไวฑูรย์พุทธะ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ คือพระศรีสุขโลกปัทมอรรถอลังการโพธิสัตว์และพระศรีเวปุลกสังสารโลกสุขอิศวรโพธิสัตว์ รวมเป็น 9 พระองค์

ตำนานที่ 4
      เพื่อเป็นการบูชากษัตริย์เป๊ง  ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ซ้องซึ่งสิ้นพระชนม์โดยทรงทำอัตวินิบาตกรรม (การฆ่าตัวตาย)  พิธีบูชานี้มีแต่เฉพาะในมณฑลฮกเกี้ยนซึ่งเป็นดินแดนผืนสุดท้ายของราชวงศ์ซ้องเท่านั้น 

ตำนานที่ 5
       1500 ปีมาแล้ว มณฑลกังไสเป็นดินแดนที่เจริญรุ่งเรืองมาก ฮ่องเต้เมืองนี้มีพระราชโอรส 9 พระองค์ซึ่งเป็นเลิศทั้งบุ๋นและบู๊จึงทำให้หัวเมืองต่างๆ ยอมสวามิภักดิ์ ยกเว้นแคว้นก่งเลี้ยดที่มีอำนาจเข้มแข็งและมีกองกำลังทหารที่เหนือกว่า ทั้งสองแคว้นทำศึกกันมาถึงครั้งที่ 4 แคว้นก่งเลี้ยดชนะ  จนวันหนึ่งชาวกังไสเกิดความแตกสามัคคี เทพยดาทราบว่าอีกไม่นานกังไสจะเกิดภัยพิบัติจึงหาผู้อาสาช่วยแต่ชาวบ้านจะพ้นภัยได้ก็ต่อเมื่อได้สร้างผลบุญของตนเอง ดวงวิญญาณพระราชโอรสองค์โตรับอาสาและเพ่งญาณเห็นว่าควรเริ่มที่บ้านเศรษฐีใจบุญ ลีฮั้วก่าย คืนวันหนึ่งคนรับใช้แจ้งเศรษฐีลีฮั้วก่ายว่ามีขอทานโรคเรื้อนมาขอพบเศรษฐีจึงมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นค่าเดินทาง แต่ขอทานไม่ไปและประกาศให้ชาวเมืองถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน 9 คืนผู้ใดทำตามภัยพิบัติจะหายไป เศรษฐีนำมาปฏิบัติก่อนและผู้อื่นจึงปฏิบัติตามจนมีการจัดให้มีอุปรากรเป็นมหรสพในช่วงกินเจด้วย  จึงเป็นที่มาของเทศกาลกินเจ

ตำนานที่ 6
       ชายขี้เมานามว่า เล่าเซ็ง  คืนวันหนึ่งแม่ของเขาได้มาเข้าฝันบอกว่า แม่ตายไปได้รับความสุขมากเพราะแม่กินแต่อาหารเจและตอนนี้แม่อยู่บนเขาโพถ้อซัว ถ้าลูกอยากพบแม่ให้ไปที่นั่น เล่าเซ็งอยากไปแต่ไปไม่ถูกจึงตามเพื่อนบ้านที่จะไปไหว้พระโพธิสัตว์ เพื่อนบ้านเห็นเล่าเซ็งสัญญาว่าจะไม่กินเหล้าและเนื้อสัตว์จึงให้ไปด้วย ระหว่างทางเดินสวนกับคนขายเนื้อเล่าเซ็งลืมสัญญาที่ให้ไว้เพื่อนบ้านก็หนีไป โชคดีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งและพาไปถึงเขาโพถ้อซัวขณะที่เล่าเซ็งก้มลงกราบไหว้พระโพธิสัตว์นั้น เขาเห็นแม่ลอยอยู่เหนือกระถางธูปที่คนอื่นมองไม่เห็น  ต่อมาหญิงสาวที่นำทางไปเขาโพถ้อซัวมาขออาศัยอยู่ด้วยหญิงสาวผู้นั้นเป็นสาวบริสุทธิ์ประพฤติตนเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมและถือศีลกินเจอยู่เนืองนิตย์ เมื่อนางตายจากไป เล่าเซ็งเห็นการจากไปด้วยดีของนางคล้ายกับแม่จึงเกิดศรัทธายกสมบัติให้ลูกชายแล้วประพฤติตนใหม่ เมื่อตายไปจะได้บังเกิดผลเช่นเดียวกับแม่และหญิงสาวและประเพณีกินเจจึงเริ่มขึ้น

เทศกาลกินเจตามจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทยในปี 2553

เทศกาลกินเจ…อิ่มบุญเพื่อสุขภาพ

ที่มา :  https://www.chaime.net/forum/showthread.php?tid=1300


ประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต
         ประเพณีถือศีลกินผัก ผัก จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 8 - 16 ตุลาคม 2553 โดยจะมีพิธีเปดโครงการงานประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต ณ สะพานหิน วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2553 
งานประเพณีถือศีลกินเจ จังหวัดกระบี่
          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ จัดเทศกาลแห่งการอิ่มบุญอิ่มใจ ปีละครั้งถือศีลกินเจตลอด 9 วัน 9 คืน ในวันที่ 8 – 16 ตุลาคม 2553 บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดกระบี่ (หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่) อีกทั้งชื่มชมแรงศรัทธาของประชาชนจากขบวนแห่พระกว่า 40 ศาลเจ้า ที่ร่วมทำพิธีเสริมดวงเมืองกระบี่ 
ประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดตรัง
         ประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดตรัง ในวันที่ 8 - 16 ตุลาคม 2553 บริเวณศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ย ศาลเจ้าพ่อหมื่นรามตรัง และทุกศาลเจ้าในจังหวัดตรัง ทั้งนี้ ประเพณีกินเจจังหวัดตรัง เป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่ออัญเชิญพระอิศวร เทพนพเก้า 9 องค์ และพุทธสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก มาประทับร่างทรงเพื่อโปรดสาธุชนคนบุญ ซึ่งจะจัดโต๊ะบูชาไว้ต้อนรับพร้อมการจุดประทัดเสียงดังกึกก้องบูชา
เทศกาลกินเจระโนด จังหวัดสงขลา
          เทศบาลตำบลระโนด ร่วมกัน ศาลเจ้าอันฮกเก็ง จัดงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 7-16 ตุลาคม 2553 ณ ศาลเจ้าอันฮกเก็ง อ.ระโนด จ.สงขลา เพื่ออนุรักษ์ประเพณีและร่วมบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ละเว้นการฆ่าสัตว์
เทศกาลกินเจหาดใหญ่ ประจำปี 2553
          กิน เจหาดใหญ่ ประจำปี 2553 ระหว่าง 7 - 16 ตุลาคม 2553 บริเวณสวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ หน้ามูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ้ง ซึ่งภายในจะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไว้อย่างมากมาย 
ประเพณีไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร ประจำปี 2553
          จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับเทศบาลนครสมุทรสาคร, ศาลเจ้า 9 แห่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร ชมรมร้านอาหารเจสมุทรสาคร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม กำหนดจัดงาน "ประเพณีไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร ประจำปี 2553" ณ บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร และศาลเจ้า 9 แห่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 7- 16 ตุลาคม 2553
         และนอกจากนี้ยังมีการจัดงานเทศกาลกินเจตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งถือได้ว่าเป็นประเพณีอันดีงามที่นอกจากจะละเว้นจากการกินเนื้อสัตว์ยังได้รักษาศีลอิ่มบุญกันทั่วหน้า เป็นผลดีต่อร่างกายและจิตใจ

ประเด็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายในห้องเรียน
       1.  จงอธิบายประวัติความเป็นมาของเทศกาลกินเจ
       2.  ความหมายที่แท้จริงของการกินเจคือปฏิบัติตนอย่างไร
       3.  อาหารเจ คืออะไร
       4.  ประโยชน์ของการถือศีลกินเจ

กิจกรรมเสนอแนะ
       1.  ให้นักเรียนฝึกปรุงอาหารเจ
       2.  ให้นักเรียนฝึกการรับประทานอาหารเจ
       3.   ปฎิบัติการกินเจ

การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ
 สามารถบูรณาการกับกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์   สุขศึกษาพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี

อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล  
https://th.wikipedia.org/wiki

https://www.chaime.net/forum/showthread.php?tid=1300

https://www.muangthai.com/board/index.php?topic=4958.0

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3248

อัพเดทล่าสุด