จังหวะดนตรีสู่วิถี...เดอะสตาร์

 จังหวะดนตรีสู่วิถี...เดอะสตาร์  5

เทคนิคและเคล็ดลับการร้องเพลงที่นำไปสู่เส้นชัย...เดอะสตาร์

                       
(ภาพจาก :www.pantip.com )
    

        หนุ่มขอนแก่น สิงโต วัย 16 ปี สร้างสถิติคว้าแชมป์ "เดอะสตาร์ 5" ที่อายุน้อยที่สุด เฉือนเอาชนะ ดิว หนุ่มภาคกลาง ไปแบบฉิวเฉียด เจ้าตัวเผยดีใจและภูมิใจ ย้ำยังคงให้ความสำคัญเรื่องเรียนมาเป็นอันดับแรก   ข่าวจาก : คมชัดลึก

        นายสิงหรัตน์  จันทร์ภักดี "สิงโต" กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกัลยาณวัตร  จังหวัดขอนแก่น นับได้ว่า "สิงโต"เป็นต้นกล้าคุณภาพที่ที่สามารถนำความรู้และทักษะการปฏิบัติด้านการร้องเพลง  สมัครเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงในรายการ เดอะสตาร์ จนประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะเป็นเดอะสตาร์คนที่ 5 ของประเทศไทย นำความภาคภูมิใจมาสู่พวกเราชาว สพฐ.ขอให้พวกเราชาว สพฐ.ปรบมือดังดังให้กับลูกศิษย์คนเก่งของเราด้วยนะค่ะ ... แล้วนักเรียนไทยที่อยากประสบความเร็จเช่น "สิงโต" หากจะนำ "สิงโต" เป็นแบบอย่างในการร้องเพลง ควรใช้เทคนิคในการร้องเพลงอย่างไร จึงจะประสบความสำเร็จเช่นนั้น

เหมาะสำหรับนักเรียนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4  - 6  ช่วงชั้นที่  4 
ครอบคลุมสาระที่ 2 ดนตรี 
มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ   ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

เทคนิคการร้องเพลง 
       การร้องเพลงให้ไพเราะ  ข้อสำคัญจะต้องมีอารมณ์สอดแทรกความรู้สึกให้ได้กับเนื้อหาของเพลง  มีใจรัก  ปล่อยใจ  ปล่อยอารมณ์ ให้ตัวเบา  การออกเสียงจะต้องสบาย ๆ ถ่ายทอดความรู้สึก  สอดแทรกและสื่อความหมายของเพลงให้แก่ผู้ฟัง  ถ้าเราปล่อยความรู้สึกตามความหมายของเสียงเพลง ผู้ฟังจะเข้าใจ  เช่น  เพลงเศร้า  จะต้องให้เศร้า  เสียใจ  นั่นแหละจึงจะประสบความสำเร็จ  ถ้าร้องไปโดยไม่คำนึงถึงความหมาย ก็จะไม่สามารถเข้าถึงหัวใจผู้ฟังได้   นอกจากนี้จะต้องรักษาระดับเสียงสูงต่ำขึ้นลงให้ได้อีกด้วย  ก่อนอื่นต้องฝึกเสียงให้ผ่านจากลำคอไปถึงท้อง  ต้องร้องแบบเปิดลำคอ  จุดนี้ต้องให้ความรู้สึกโล่งที่สุด เหมือนกับโทรโข่งที่รับเสียงแล้วก้อง ไม่มีสิ่งใดมากีดขวาง ร้องเพลงอย่างมีความสุข สบาย ๆ ไม่ใช่ว่ารู้สึกเหนื่อยเวลาขึ้นเสียงสูง  เพราะคนฟังก็จะรู้สึกอย่างนั้นไปด้วย  ทักษะในการร้องเพลงต้องสูดหายใจลึก ๆ การออกเสียงเสมือนกับการดื่มน้ำหรือการรับประทานอาหาร  ซึ่งต้องผ่านลำคอลงไปโดยไม่ติดคอ  จึงจะเป็นการร้องเพลงที่ถูกต้อง การออกเสียงเหมือนการทวนกระแส  เสียงสูงเราต้องทิ้งเสียงให้ลงไปข้างล่าง   เช่น การตะโกนเรียกคนที่อยู่ไกล ๆ หรือตะโกนข้ามภูเขาของชาวเขา  เป็นต้น  
       ส่วนเสียงต่ำจะเป็นการเกร็งและตะเบ็งออกให้ขึ้นที่สูง  แต่จะต้องมีพลังและก้องกังวาลแบบเสียงระฆัง  ดังนั้นเสียงสูงจึงเปรียบได้กับเสียงระฆัง  และเสียงต่ำเปรียบเหมือนเสียงกลอง  การร้องเพลงเป็นการฝึกการพูดของเราเหมือนกัน  บางคนพูดแล้วจะรู้สึกเหนื่อย  ผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลอดลมหรือปอด  หายใจไม่ทัน  ถ้าได้ฝึกร้องเพลงแล้วฝึกให้ถูกต้อง  จะเป็นการช่วยให้สุขภาพดีขึ้น  เป็นการฝึกการบริหาร  แต่ต้องฝึกให้ถูกวิธี  จึงต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย  ลักษณะของการออกกำลังกายจะมีการหายใจเข้าและหายใจออกเหมือนกับการร้องเพลง  ดังนั้นผู้ที่ร้องเพลงได้ดีส่วนมากจึงออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย  ผลพลอยได้คือ  สุขภาพร่างกายแข็งแรง  ชะลอความแก่ได้  ดังสุภาษิต  ที่ว่า  "ยิงปืนนัดเดียวได้ นกสองตัว"  เพราะร้องเพลงได้ดีขึ้น  และสุขภาพยังแข็งแรง  (ที่มา : www.jobpub.com) 
  
เคล็ดลับการร้องเพลง
       เคล็ดลับการร้องเพลง ที่น่าจะเป็นแนวทางที่ดีสำหรับผู้ที่อยากประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับ"สิงโต"มีดังนี้
การดูแลเส้นเสียงให้แข็งแรง
        1.ต้องฝึกการใช้เส้นเสียงที่เหมาะสมกับปริมาณลมอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับการออกกำลังกายทีละนิด ทีละหน่อย จนกว่าร่างกายคุ้นเคย 
        2.ฝึกวิธีการใช้เสียงตั้งแต่ตอนพูด ใช้ความกังวานของเสียงช่วยเพิ่มความดังแทนการตะโกน ตะเบ็ง / ไม่พูดเสียงสูง-ต่ำเกินความเป็นจริงของธรรมชาติเสียงตัวเอง (ระดับเสียงที่พูดแล้วสบาย คือ ธรรมชาติ) หรือไม่พูดเสียงที่เป็นลมจนเกินไป
        3.ออกกำลังกาย (กีฬาทุกประเภทใช้ได้ทั้งหมด ขอให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย) เพื่อช่วยเพิ่มพลังและผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้ร่างกายโดยรวม และเพื่อช่วยความแข็งแรงให้ระบบหายใจ
       4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (สังเกตตัวเองด้วยว่าต้องการกี่ชั่วโมงเพราะร่างกายแต่ละคนต้องการแตกต่างกัน)
       5.ทานอาหารให้ครบหมู่ /ดื่มน้ำให้เพียงพอ หรือเกินต่อความต้องการของร่างกายเสมอ 
       6.หลีกเลี่ยงคาเฟอีน แอลกออล์ทั้งหลาย /หากเกิดอาการดื่มน้ำน้อยไป หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน-แอลกออล์มากเกินไป เส้นเสียงก็จะพลอยแห้ง อ่อนแอไปด้วย / ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจะดีที่สุด /การดื่มน้ำเย็นไม่ได้มีผลต่อการใช้เสียงมากจนเกินควร หากไม่ป่วยหรือ มีน้ำมูก /แต่น้ำอุ่น-ร้อนเกิน จะทำให้คอรู้สึกแห้งผาก ไม่ดี โดยเฉพาะก่อนใช้เสียง
       7.ไม่เสพสารเสพติด เช่นบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้เส้นเสียงอ่อนแอ เวลาใช้งาน จะเหนื่อย ต้องออกแรงมากกว่าปกติ
       8.หลีกเลี่ยงสภาวะอากาศที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายคอ หรือหายใจลำบาก เช่น มีความชื้นมากเกินไป ฝุ่นมากไป 
(ที่มา : www.bloggang.com)

การขับร้องเพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพ
        การขับร้องให้ได้เสียงที่มีคุณภาพนั้น หมายถึง การขับร้องให้ได้เสียงที่ชัดเจน ทั้งระดับเสียงที่คงที่ไม่แกว่ง ระดับความสูง-ต่ำของโน้ตที่ถูกต้องตามเมโลดี้  การควบคุมจังหวะในการร้องเพลง  ความหมายที่ถ่ายทอดออกมา ฯลฯ การสร้างเสียงให้ได้คุณภาพนั้นเราสามารถทำได้โดย เน้นให้เสียงแต่ละเสียงที่ถูกเปล่งออกมา เป็นไปตามขั้นตอนดังนี้
        1.ขณะที่เราร้องเพลง ควรรู้สึกว่าเสียงที่เปล่งออกมานั้น ให้ความรู้สึกที่พุ่งออกไปข้างหน้า (Projection) และมีจุดรวมกันอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งบนบริเวณใบหน้า หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย (Registration) แล้วแต่ Tone ของเสียงที่เราจะเปล่งออกมา Registration ของเสียงจะเปลี่ยนไปตาม Tone ของเสียงนั้นๆ แต่ควรระวังไม่ให้ Registration ของเสียงไปตกอยู่ที่ลำคอหรือจมูก เพราะจะทำให้เกิดอาการเกร็งไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เสียงที่ได้เกิดความกระด้าง ไม่น่าฟัง
        2.ควรยืนให้ลำตัวตรง (Hold body) หลังตรง ยืดอก ไหล่ผาย หน้าตรง ไม่เกร็งส่วนใดส่วนหนึ่ง เพื่อให้ปอด กระบังลม 
ลำคอ ปาก ลิ้น ขากรรไกร ทำงานได้อย่างสะดวก ปกติ และเต็มประสิทธิภาพ และนอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมให้เรา เป็นนักร้องที่มีบุคลิกภาพที่ดีอีกด้วย
        3.คิดถึงบรรยากาศ สร้างจินตนาการ (Imagination) ตามความหมายของเนื้อเพลงเพื่อให้เสียงที่เปล่งออกมา สามารถสื่ออารมณ์ได้อย่างมีชีวิตชีวา
        4.ถ่ายทอดอารมณ์ตามบทเพลง เพลงแต่ละเพลง จะแสดงออกถึงความรู้สึกของผู้ประพันธ์เพลงต่างกัน ผู้ขับร้องจึงควรถ่ายทอดอารมณ์จากบทเพลงให้ถูกต้อง ตามความหมายของบทเพลงแต่ละเพลง เพลงรักก็ต้องร้องให้อยู่ในอารมณ์รัก สามารถใช้น้ำเสียงสื่อถึงความหมาย และอารมณ์ของบทเพลง ทำให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกคล้อยตามได้ ดังนั้นก่อนที่นักร้องจะเริ่มทำการขับร้อง จึงควรศึกษาความหมายของบทเพลง ให้เกิดความเข้าใจแจ่มแจ้ง เพื่อที่จะสามารถขับร้องออกมาได้ตามความหมายของบทเพลง( ที่มา : www.art2bempire.com ) 

       
        เทคนิคการร้องเพลงนั้น ควรทำความเข้าใจในทฤษฎีดนตรีเบื้องต้นด้วย และลองฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง อย่าคิดว่าการร้องเพลงเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ทำได้เหมือนการพูดคุย  หลายคนคิดว่านักร้องจะต้องเก่งเสมอไป ร้องได้ทุกเพลงทุกสถานการณ์  แต่ที่จริงแล้วการเป็นนักร้องที่ดีนั้น จะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเสมือนนักดนตรีที่ต้องฝึกซ้อมดนตรี การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอนั้นจะเป็นการช่วยพัฒนาคุณภาพของเสียงและวิธีการเปล่งเสียงของเราให้ดีอยู่เสมอ รวมทั้งยังเป็นการสะสมประสบการณ์ในการร้องเพลง ทำให้เรารู้จักเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมในการร้องเพลง   เพื่อช่วยให้เสียงของเรามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตัวเราได้เป็นอย่างดี  การเคลื่อนไหวตัวตามจังหวะของดนตรีเป็นการสร้างอารมณ์ร่วมกับเพลงที่เราจะร้อง ทั้งยังเป็นการสื่อสารอารมณ์ของบทเพลงไปยังผู้ฟังได้อีกด้วย  การร้องเพลงไม่ใช่การท่องอาขยาน ดังนั้นนอกจากการท่องจำเนื้อเพลงให้ขึ้นใจแล้วยังควรศึกษารายละเอียดของบทเพลงนั้น ๆ ด้วย ทั้งในด้านดนตรีประกอบความหมาย ฯลฯ เพื่อให้การร้องเพลงของเรานั้นเป็นการร้องที่ออกมาจากภายในใจ   ถ้าลองนำเทคนิคและเคล็ดลับข้างต้นนำมาฝึกปฏิบ้ติ  และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การพัฒนาความสามารถของตนเองทางด้านการร้องเพลง  เส้นทางแห่งฝันคงไม่ไกลเกินจริง

คำถามชวนคิด
        1. นักเรียนมีหลักการในการร้องเพลงให้ไพเราะได้อย่างไร
        2. เทคนิคในการร้องเพลงอย่างมีคุณภาพ มีปัจจัยสำคัญใดบ้าง
        3. การที่สิงโต  เดอะสตาร์คนที่ 5 เป็นผู้ชนะการประกวดครั้งนี้ นักเรียนคิดว่าสิงโต มีทักษะดนตรีด้านใดบ้าง

กิจกรรมเสนอแนะ
        ฝึกปฏิบัติร้องเพลงที่ถนัดและสนใจอย่างสม่ำเสมอ  เพื่อเพิ่มทักษะการร้องเพลง

บูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้
   1. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  เรื่อง การอ่านจับใจความ การคิดวิเคราะห์
   2. กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง  การดูแลสุขภาพ
   3.  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง  การอยู่ร่วมกันในสังคม

แหล่งข้อมูล
ที่มา : www.jobpub.com 
ที่มา :www.bloggang.com 
ที่มา : www.art2bempire.com 

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=259