สุริยุปราคากับขลุ่ย อะไรเกิดก่อนกัน


734 ผู้ชม


การศึกษาประวัติสุริยุปราคา กับประวัติของขลุ่ย เครื่องดนตรีของไทยมี่มานานแสนนาน......   

สุริยุปราคากับขลุ่ย อะไรเกิดก่อนกัน

                     สุริยุปราคา เป็นปรากฏการณ์ ตามธรรมชาติ ที่ดวงจันทร์ โลก และดวงอาทิตย์ โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรง ทำให้ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์  และเงาของดวงจันทร์จึงตกมาบน บริเวณ ต่างๆ บนโลก   สุริยุปราคาคืออะไร (ข้อมูลเพิ่มเติม)

ประเด็นจากข่าว ประวัติที่มาของเครื่องดนตรีประเภทเครื่อเป่า (ขลุ่ยเพียงออ)

เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ  วิชา ดนตรี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5       

ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน
ศ 2.2  เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของดนตรีที่ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล

ตัวชี้วัด เล่าประวัติความเป็นมาของเครื่องดนตรีไทยสำหรับฝึกปฏิบัติได้
เนื้อหา

สุริยุปราคากับขลุ่ย อะไรเกิดก่อนกัน

                       ประวัติดนตรีเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับมนุษยชาติ     และมีวิวัฒนาการควบคู่มากับการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรมของมนุษย์สืบเนื่องมาทุกยุคทุกสมัย เมื่อกล่าวถึงการกำเนิดเครื่องดนตรีไม่ว่าของชาติใด ๆ ในโลก  สามารถแยกแยะเครื่องดนตรีตามวิธีการบรรเลงได้  4  ประเภท  คือ  ดีด  สี  ตี  และเป่า  ทั้งนี้โดยธรรมชาติได้สร้างให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์  มนุษย์จึงได้คิดประดิษฐ์เครื่องมือเพื่อเลียนเสียงธรรมชาติต่าง ๆ  ที่อยู่รอบกาย  เช่น  เสียงฟ้าร้อง  ฟ้าผ่า  ลมพัด  กอไผ่เสียดสี  น้ำตก  หรือเสียงจากการใช้เครื่องมือล่าสัตว์  เช่น  การยิงธนู  การเป่าลูกดอก  เป่าไม้ซาง  เป็นต้น  จากความพยายามที่จึงสร้างเครื่องมือเพื่อเลียนเสียงธรรมชาติเหล่านั้น   และมนุษย์มีความต้องการในเสียงที่ไพเราะซาบซึ้งใจ  หรือเสียงที่ทำให้เกิดความสุนทรีย์  จึงได้พัฒนารูปแบบเครื่องมือที่ทำให้เกิดเสียงเหล่านั้นมาตามลำดับ  จากเครื่องมือที่มีเสียงเดียวจนกลายเป็นเครื่องดนตรีที่มีหลายเสียง  จนสามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ตามที่เห็นอยู่ในปัจจุบันขึ้น  ตามข้อสันนิษฐานว่า  เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี  น่าจะเกิดมาเป็นอันดับแรก  และตามมาด้วยเครื่องเป่า  เครื่องดีด  และเครื่องสี  ที่ว่าเครื่องตีน่าจะเกิดขึ้นก่อน  ทั้งนี้เพราะดนตรีเป็นสิ่งที่เกิดมาพร้อมกับมนุษย์  ธรรมชาติได้สร้างให้มนุษย์มีมือสองข้าง  ซึ่งสามารถปรบจังหวะได้  ต่อมาจึงได้ใช้วัตถุต่าง ๆ แทนมือ  เช่น  ไม้  หิน  โลหะ  เครื่องหนัง   และเกิดการวิวัฒนาการจนกลายเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีที่สามารถบรรเลงทำนองเพลงได้  เครื่องดนตรีที่วิววัฒนาการตามมา  คือ  เครื่องเป่า  โดยสันนิษฐานว่าวิวัฒนาการมาจากการเป่าใบไม้  เป่าเขาสัตว์  เป่าไม้ซาง  และได้พัฒนาการมาเป็นเครื่องเป่าชนิดต่าง ๆ  ส่วนเครื่องดีดและเครื่องสีนั้นสันนิษฐานว่าวิวัฒนาการมาจาก  การยิงธนู  เป็นต้น            
(ชิ้น  ศิลปบรรเลง, 2521: 20-22)

วิวัฒนาการของขลุ่ย
สุริยุปราคากับขลุ่ย อะไรเกิดก่อนกัน

 ขลุ่ย  เป็นเครื่องดนตรีของไทยที่จัดอยู่ในประเภทเครื่องเป่าที่ไม่มีลิ้น  (เครื่องเป่าของไทยแบ่งได้  2 ประเภทใหญ่ ๆ   คือ เครื่องเป่าที่มีลิ้น  ได้แก่ ปี่ชนิดต่าง ๆ  และเครื่องเป่าที่ไม่มีลิ้น  ได้แก่ขลุ่ยชนิดต่าง ๆ)  ตามข้อสันนิษฐานที่กล่าวมาแล้วว่า  ขลุ่ยอาจจะมีวิวัฒนาการมาจากการเป่าใบไม้  การเป่าไม้ซาง   เป่าเขาสัตว์ หรือการผิวปาก  การประดิษฐ์ขลุ่ยนั้นแต่แรกเริ่มจะเป็นคนไทยคิดทำขึ้นเองหรือจากชาติอื่นไม่ปรากฏชัด เพราะชาติอื่น ๆ หลายชาติ ก็มีเครื่องเป่าเช่นเดียวกับขลุ่ยไทย   เช่น  อินเดียมี  “มุราลี”  ญี่ปุ่นมี  “ซาฮุกาชิ” (Shaku-hachi) จีนมี “โถ่งเซียว” และ “ฮวยเต็ก”  ดนตรีตะวันตกมี  “คาริเน็ต”  (Carinet)  และ “ปิคโคโล”  (Piccolo)   เครื่องเป่า เหล่านี้มีรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกัน  แต่จะต่างกันที่วิธีการเป่า   คือ  ขลุ่ย   ซาฮุกาชิ   และโถ่งเซียว       ใช้เป่าลงตรง ๆ  เช่นเดียวกับ  คาริเน็ต  ส่วน  มุราลี ฮวยเต็ก  ใช้เป่าโดยหันเครื่องดนตรีไปด้านข้าง เช่นเดียวกับ  ปิคโคโล  (ธนิต อยู่โพธิ์ 2523 : 56) ประวัติความเป็นมาของขลุ่ยไทยนั้น  จะนับว่าเป็นเครื่องดนตรีที่โบราณที่สุดชนิดหนึ่งก็ย่อมได้  ทั้งนี้จากหลักฐานที่มีการขุดพบหีบศพภรรยาเจ้าเมืองไทยที่ริมฝั่งแม้น้ำฮวงโห  ในหีบศพนั้น มีเครื่องดนตรีอยู่  3  ชิ้น  คือ  แคน  ขลุ่ย  และขิม      นอกจากนี้ยังมีอักษรจารึกศักราชไว้ที่หีบศพ จึงทำให้ทราบว่า  มีขลุ่ยเกิดขึ้นมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว  (อุทิศ นาคสวัสดิ์  2521: 1)  ในยุคก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย  ก็ยังไม่ปรากฏเรื่องราวเกี่ยวกับขลุ่ย   จะมีก็แต่ปี่พาทย์ไม้นวม และมโหรีหญิงเครื่องสี่ จนในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย  ขลุ่ยเริ่มเข้ามามีบทบาทในวงดนตรีไทย โดยผสมอยู่ในวงมโหรีหญิงเครื่องหก ซึ่งประกอบด้วยเครื่องดนตรีที่อยู่ในวงมโหรีหญิงเครื่องสี่  ได้แก่  ซอสามสาย  กระจับปี่  ทับหรือโทน  กรับพวง  และได้เพิ่มรำมะนากับขลุ่ยเข้าไป จึงกลายเป็นวงมโหรีเครื่องหกขึ้นมา  ในสมัยนี้คงนิยมเล่นดนตรีกันอย่างแพร่หลาย  แม้ในเขตพระราชฐาน  และคงเป็นที่รำคาญในเบื้องพระยุคลบาท ดังนั้นในสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ    (พ.ศ. 1991-2031)  จึงได้มีข้อห้ามในกฎมณเฑียรบาล ว่า  “ห้ามร้องเพลง  เป่าขลุ่ย  เป่าปี่  สีซอ  ดีดจะเข้  กระจับปี่  ตีโทนทับ  ในเขตพระราชฐาน”  แสดงว่าขลุ่ยเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่นิยมเล่นกันมากในสมัยนั้น ในสมัยกรุงธนบุรี  บ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะหลังสงครามกู้ชาติ การดนตรีจึงยังซบเซาจึงไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับขลุ่ยเท่าใดนัก  ขลุ่ยเริ่มมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งเมื่อเข้าสู่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์  นั่นคือ  ได้เข้าผสมอยู่ในวงดนตรีไทยหลายประเภท  โดยเฉพาะที่สำคัญคือเป็นตัวคุมเสียงของวงเครื่องสาย วงมโหรี วงปี่พาทย์ไม้นวม  และวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ นอกจากขลุ่ยจะมีบทบาทสำคัญในวงดนตรีต่าง ๆ  แล้ว  ขลุ่ยยังเป็นเครื่องดนตรีที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย  เพราะสามารถเป่าคนเดียวได้  การเล่นก็ไม่พิถีพิถันเหมือนกับเล่นร่วมอยู่ในวงดนตรี  จะนั่งเป่า นอนเป่า เดินเป่า ขี่หลังควายเป่าก็ย่อมทำได้ตามถนัด  นอกจากนนี้ขลุ่ยยังมีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย รูปร่างและขนาดก็เหมาะสำหรับที่จะพกติดตัวไปไหนมาไหนได้สะดวกโดยเฉพาะในการเดินทางไปต่างประเทศ  เสียงของขลุ่ยก็มีความโหยหวนไพเราะอ่อนหวาน สามารถสะท้อนความรู้สึก  หรืออารมณ์อันสุนทรีย์ทั้งของผู้เป่าและผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้ง ช่วยแก้เหงาได้อย่างดียิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ขลุ่ยเป็นเครื่องดนตรีที่ใกล้ชิดกับคนไทยมากที่สุด    ในปัจจุบัน  ขลุ่ยก็ได้มีบาบาทสำคัญในด้านการศึกษาทางด้านดนตรี เพราะได้มีการเปิดสอนวิชาเกี่ยวกับการปฏิบัติเครื่องดนตรีไทยที่หลากหลายในทุกระดับชั้น โดยเฉพาะวิชาการปฏิบัติเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่า   ซึ่งนิยมเปิดสอนการปฏิบัติขลุ่ยกันโดยทั่วไป จึงเป็นผลทำให้เกิดผลผลิตเกี่ยวข้องกับขลุ่ยขึ้นมากมาย  ทั้งในด้านบุคลากร  เครื่องดนตรี  สื่อ  เอกสาร  งานวรรณกรรม  และงานวิจัย   เป็นต้น 
 
ประเด็นคำถาม
1.  เครื่องดนตรีแบ่งตามวิธีการบรรเลงได้ประเภท  เรียงตามลำดับการเกิด ก่อนหลัง ดังนี้   
2.  ตามหลักฐานการพบเครื่องดนตรีในหีบศพภรรยาเจ้าเมืองไทยที่แม่น้ำฮวงโห   เมื่อสมัย 2,000 ปี       
     มาแล้ว มีเครื่องดนตรี  3  ชนิด  คือ
3.  ขลุ่ย จัดเป็นเครื่องดนตรีประเภท ………………สันนิษฐานว่ามีวิวัฒนาการมาจาก

กิจกรรมเสนอแนะ
อาจใช้ข้อมูลจากบทความนี้ ไปประยุกต์ใช้ฝึกกับเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆได้เช่นกัน
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล /ภาพประกอบ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
https://www.thaigoodview.com/library/teachershow/phichit/apichat_p/sec03p01.html
https://school.obec.go.th/lamnam/suriyu.jpg


ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1269  

อัพเดทล่าสุด