แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล


838 ผู้ชม


แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล
แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล
แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล หมวดหมู่ : สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล
อังคาร ที่ 11 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2553

[อ่านสาระการเรียนรู้ทั้งหมด]  

แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล
 
มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล เป็นมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่พบหลักฐานในยุโรปรอให้มนุษย์เราในยุคปัจจุบันมาเปิดเผยความลับกัน   

เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม   ช่วงชั้นที่ 3 , 4 

          ได้มีกลุ่มนักสำรวจที่เข้าไปสำรวจถ้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งชื่อเอลซีดรอนทางเหนือของสเปนในเดือนมีนาคม ปี คศ.1994  พบกระดูกขากรรไกรล่างสองชิ้นของมนุษย์โผล่ขึ้นมาจากดินปนทราย ตอนแรกคิดว่าเป็นกระดูกของทหารที่มาซ่อนตัวอยู่สมัยสงครามกลางเมืองสเปนในช่วงปลายทศวรรษ 1930    แต่เมื่อส่งไปตรวจสอบโดยสถาบันนิติพยาธิวิทยาในกรุงมาดริดพบว่าเป็นฟอสซิลของมนุษย์ นีแอนเดอร์ทัล(Neanderthal)กลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่และอาจจบชีวิตลงอย่างโหดร้ายเมื่อราว43,000  ปีก่อน  เมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่นั่นตรวจวิเคราะห์เสร็จสิ้น และเวลาเกิดเหตุก็สอดรับกับช่วงแห่งความลึกลับช่วงหนึ่งในวิวัฒนาการมนุษย์พอดี  มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลหรือญาติใกล้ชิดกับเราที่สุดในยุคก่อนประวัติศาสตร์ครอบครองยูเรเชียเป็นเวลาเกือบ 200,000  ปี   พวกเขาไปทั่วยุโรปและมุ่งหน้าลงใต้สู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากช่องแคบยิบรอลตาร์ไปจนถึงกรีซและอิรัก  ขึ้นเหนือไปถึงรัสเซียทาง    ตะวันตกก็ไปจนถึงอังกฤษ ส่วนทางตะวันออกก็ไปจนเกือบถึงมองโกเลีย 

แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล 

ที่มา  : https://www.google.co.th

 
       นักวิทยาศาสตร์ประมาณว่าแม้ในยุคที่นีแอนเดอร์ทัลรุ่งเรืองที่สุดในยุโรปตะวันตกพวกเขาก็น่าจะมีจำนวนรวมกันไม่เกิน 15,000 คน  แต่ไม่สามารถเอาตัวรอดแม้อากาศอันเหน็บหนาวได้เปลี่ยนถิ่นอาศัยส่วนใหญ่ของพวกเขาให้มีสภาพไม่ต่างจากทางเหนือของสแกนดิเนเวียในปัจจุบัน นั่นคือเขตทุนดาอันแห้งแล้งและหนาวเย็น ครั้นพอถึงช่วงเวลาที่โศกนาฏกรรมในถ้ำเอลซีดรอนเกิดขึ้น  มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลกลับตกอยู่ในสภาพดิ้นรนหนีตาย  และดูเหมือนจะไปจนมุมในไอบีเรียพื้นที่เล็กๆในยุโรปตอนกลางและชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนทางใต้   เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายลง และต่อมายังถูกจำกัดวงให้แคบเข้าจากการรุกคืบสู่ตะวันตกของมนุษย์ที่มีลักษณะทางกายวิภาคคล้ายมนุษย์สมัยใหม่  ซึ่งเดินทางจากแอฟริกาสู่ตะวันออกกลางและไกลออกไป ภายในอีกราวๆ 15,000 ปี  นับจากนั้นมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลก็สิ้นสุดเผ่าพันธุ์ลงเหลือเพียงกระดูกจำนวนหนึ่งกับคำถามมากมายไว้เบื้องหลัง   พวกเขาเป็นมนุษย์ที่รู้จักเอาตัวรอดชาญฉลาดและมุ่งมั่นเหมือนเรา   หรือจะเป็นมนุษย์ที่งุ่มง่ามไม่สามารถปรับตัวได้จนต้องตายกันหมดเมื่อประมาณ 45,000 ปี ถึง 30,000 ปีที่แล้ว   เมื่อมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลต้องแบ่งปันดินแดนยูเรเชียที่พวกเขาครอบครองอยู่แก่มนุษย์สมัยใหม่ที่อพยพมาจากแอฟริกา  แล้วทำไมมนุษย์เผ่าพันธุ์หนึ่งถึงอยู่รอดขณะที่อีกเผ่าพันธุ์กลับสาบสูญไป  นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา  มีการขุดพบชิ้นส่วนกระดูกราว 1,500 ชิ้นจากบริเวณที่เรียกว่า กาเลเรียเดลโอซารีโอ  หรือ “อุโมงค์แห่งกระดูก” ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่พบกระดูกปริศนาเมื่อปี 1994  โดยเป็นกระดูกจากร่างของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลอย่างน้อยเก้าคน  ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ใหญ่ห้าคน  วัยรุ่นสองคนเด็กอายุราวแปดขวบหนึ่งคนและเด็กวัยหัดเดินอายุสามขวบอีกหนึ่งคน กระดูกทั้งสองชิ้นมีขอบหยักๆ กระดูกพวกนี้ถูกตัดด้วยเครื่องมือหินนั่นแปลว่าคนที่ลงมือต้องการสมองและไขกระดูกจากกระดูกแขน 

 แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล

ที่มา :  https://www.google.co.th/


       นอกจากนี้บนกระดูกยังชี้ชัดว่าพวกเขาถูกฆ่ากินเนื้อจะเป็นเพราะความหิวโหยหรือเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมกันก็ไม่ทราบแน่  และซากเหล่านี้เป็นอมตะได้อย่างน่าอัศจรรย์ มีดินโคลนและทรายเป็นเกราะป้องกันและอุณหภูมิคงที่ของถ้ำช่วยรักษาสภาพ  อีกทั้งมีกระดูกซึ่งกลายเป็นหินทำหน้าที่คล้ายกล่องเก็บโมเลกุลรหัสพันธุกรรมของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลให้ปลอดภัย รอเวลาเพื่อให้เราค้นหาเบาะแสว่ามนุษย์เหล่านี้ใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไรและเพราะเหตุใดพวกเขาจึงสาบสูญไป   

แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล

ที่มา : https://www.google.co.th


        เมื่อปี 1856 ในเยอรมนีพบชิ้นส่วนกะโหลกส่วนบนที่มีสันคิ้วโค้งนูนออกมาและกระดูกแขนท่อนโตๆ แสดงว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ถ้ำที่ไม่ฉลาดและป่าเถื่อน ขนาดและรูปร่างของกระดูกบ่งบอกลักษณะทางกายภาพที่เตี้ยล่ำเป็นมะขามข้อเดียว เพศชายสูงเฉลี่ย 160 เซนติเมตร  หนัก 84 กิโลกรัม มีกล้ามเนื้อกำยำล่ำสันและซี่โครงผายกว้างซึ่งน่าจะมีไว้รองรับปอดขนาดใหญ่ สตีเฟน   อี.เชอร์ชิลล์             นักมานุษยบรรพกาลวิทยาจากมหาวิทยาลัยดุ๊กคำนวณว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทัลต้องการพลังงานไม่ต่ำกว่าวันละ 5,000  แคลอรีจึงจะสามารถรักษามวลร่างกายขนาดนี้ในสภาพอากาศอันหนาวเย็นได้  สันคิ้วโหนกนูนกะโหลกทรงโค้งต่ำของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลกลับบรรจุสมองที่มีปริมาตรเฉลี่ยมากกว่าสมองของมนุษย์ปัจจุบันเล็กน้อยจากการถอดรหัสพันธุกรรมเหล่านั้นและพบว่า          จากกระดูกแขนมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล  ดีเอ็นเอดังกล่าวแตกต่างจากของมนุษย์ในปัจจุบัน  แสดงว่าตระกูลของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลและมนุษย์สมัยใหม่แยกจากกันเนิ่นนานก่อนที่มนุษย์สมัยใหม่จะอพยพออกจากแอฟริกาเสียอีก  

แกะรอย...มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล

ที่มา : https://www.google.co.th


       เมื่อไม่นานมานี้เองที่นักโบราณคดีออกมาระบุถึงการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ40,000 ปีก่อนในยุโรป   เมื่อการสร้างเครื่องมือหินอันแสนยากเย็นของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลที่เรียกว่า  “มูสตีเรียน” ตามชื่อแหล่งขุดค้นเลอมูสตีเยร์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส  ถูกแทนที่ด้วยเครื่องมืออันหลากหลายที่ทำจากหินและกระดูก  เครื่องประดับร่างกาย และร่องรอยของการแสดงออกทางสัญลักษณ์อื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับการปรากฏตัวของมนุษย์สมัยใหม่           นักวิทยาศาสตร์บางคนอย่างเช่น  ริชาร์ด ไคลน์  นักมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดยังเชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมอย่างใหญ่หลวงในสมองซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางภาษาที่ช่วยให้มนุษย์สมัยใหม่ยุคแรกๆสามารถแผ่อิทธิพลทางวัฒนธรรมได้ขณะที่บรรพบุรุษคิ้วยื่นต้องเป็นฝ่ายจากไป  


ประเด็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายในห้องเรียน
       1.  มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลเป็นใครอยู่ที่ไหน
       2.  มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลต่างจากเผ่าพันธ์มนุษย์ปัจจุบันอย่างไร
       3.  มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลทำไมถึงหายสาบสูญไป

กิจกรรมเสนอแนะ
       1.  ค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล
       2.  จัดป้านนิเทศ
   

การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
 สามารถบูรณาการกับกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์   คณิตศาสตร์   

อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล  / ภาพประกอบ

https://www.ngthai.com/ngm/0810/feature.asp?featureno=1

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2447

อัพเดทล่าสุด