มนุษย์ปักกิ่งเป็นมนุษย์ Homo erectus ซึ่งได้แยกเส้นทางการวิวัฒนาการจากลิงไพรเมต (primate) เมื่อ 35 ล้านปีก่อน และสัตว์ไพรเมตที่เดิน 4 ขา ชอบกินเมล็ดพืชและผลไม้เป็นอาหาร
เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และผู้ที่สนใจทั่วไป
ที่มีการพบมนุษย์ปักกิ่งนั้นเป็นถ้ำหินปูน ในสมัยโบราณชาวบ้านเคยเล่าลือกันว่าเป็นที่อยู่ของพญามังกร เพราะภายในมีซากกระดูกมากมาย แต่แท้ที่จริงมันเป็นกระดูกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และชาวบ้านที่เก็บกระดูก มังกร ไป หารู้ไม่ว่านั่นคือกระดูกมนุษย์ดึกดำบรรพ์
ที่มา : https://www.oknation.net/blog/print.php?id=151642
มนุษย์ปักกิ่งเป็นมนุษย์ Homo erectus (erectus เป็นคำที่ Eugene Dubois ตั้งในปี 2435 แปลว่า ยืนตรง) ซึ่งได้แยกเส้นทางการวิวัฒนาการจากลิงไพรเมต (primate) เมื่อ 35 ล้านปีก่อน และสัตว์ไพรเมตที่เดิน 4 ขา ชอบกินเมล็ดพืชและผลไม้เป็นอาหาร แล้วได้แยกเส้นทางการวิวัฒนาการจากลิงชิมแปนซีและกอริลลาเมื่อ 8-10ล้านปีก่อน มาเป็นสัตว์ที่เดิน 2 ขา มีสมอง cranium ขนาดเล็กที่มีปริมาตรประมาณ 350 ลูกบาศก์เซนติเมตร อนึ่ง ในเวลาเดิน มนุษย์ลิงใช้มือ 2 มือที่ว่างจับถือวัตถุได้ ครั้นถึงเมื่อ 4 ล้านปีก่อนมนุษย์ Australopithecus ก็ได้ถือกำเนิดที่หุบเขา Awash ในประเทศ Ethiopia และมีสมองใหญ่ขึ้นคือมีปริมาตรประมาณ 500 ลูกบาศก์เซนติเมตร และเดิน 2 ขาได้ดี จนกระทั่งถึงเมื่อ 2.0 ล้านปีก่อนในแอฟริกา มนุษย์ Homo erectus ที่สามารถเดินตัวตรงได้และสูง 145-150 เซนติเมตรก็ถือกำเนิด มนุษย์นี้มีกะโหลกใหญ่ คือมีปริมาตรตั้งแต่ 650-1,250 ลูกบาศก์เซนติเมตร ตัวอย่างของ Homo erectus ได้แก่ มนุษย์ปักกิ่ง และ Homo erectus ก็ได้วิวัฒนาการเป็นมนุษย์ปัจจุบัน Homo sapiens ซึ่งกะโหลกของมนุษย์พันธุ์นี้มีปริมาตร 1,100-1,800 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ที่มา : https://www.oknation.net/blog/print.php?id=151642
โฮโม อิเรคตัส (Homo Erectus) คือสิ่งมีชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนมมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับมนุษย์เกือบทุกประการ อาจจะเป็นบรรพบุรุษโดยตรงของโฮโม ซาเปี้ยน ( Homo Sapiens ) ที่เป็นมนุษย์เช่นเราในปัจจุบัน หรืออาจจะเพียงเป็นสายวิวัฒนาการที่คู่ขนานกันมา แต่ไม่ใช่บรรพบุรุษของเราโดยตรง มีชีวิตอยู่ในช่วงยุคน้ำแข็งไพลสโตซีน มีอายุตั้งแต่ 3 แสนปีเรียกว่า โฮโม อิเรคตัสที่ทันสมัย ไปจนถึงอายุ 1.9 ล้านปี เรียกว่าโฮโม อิเรคตัสที่ล้าหลัง ( พบในทวีปแอฟริกา ) โฮโม อิเรคตัส มีร่างกายขนาดใหญ่กว่า 5 – 6 ฟุต (มากกว่า1.5 เมตร ) เพศหญิงจะเตี้ยกว่า เป็นมนุษย์ที่มีขายาวและยืนตัวตรง กระดูกขาที่พบจากแหล่งขุดค้นต่าง ๆ ทั่วโลกไม่แตกต่างจากมนุษย์ในปัจจุบันเท่าใดนัก ยังไม่พบกระดูกมือที่สมบูรณ์ แต่จากร่องรอยเครื่องมือหิน ทำให้สันนิษฐานว่า โฮโม อิเรคตัส มีมือที่วิวัฒนาการได้ดีเท่ากับมนุษย์ในปัจจุบัน
ที่มา : https://www.oknation.net/blog/print.php?id=151642
โฮโม อิเรคตัส มีขนาดปริมาตรความจุของมันสมอง (Cranial Capacity)อยู่ระหว่าง 700 – 1,200 ลบ.ซม. ซึ่งมนุษย์ในปัจจุบันมีขนาดมันสมองระหว่าง 1,000 – 2,000 ลบ.ซม. ขนาดสมองที่ใหญ่ขึ้นนี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้โฮโม อิเรคตัส มีพฤติกรรมที่ซับซ้อนขึ้น ฉลาดมากขึ้น สามารถสร้างและใช้เครื่องมือจากหิน กระดูก และไม้ ได้ดีกว่าบรรพบุรุษเดิม นั่นคือโฮโม แฮบิลิส (Homo habilis : อายุ1.6 – 2.3 ล้านปี พบในทวีปแอฟริกา มีขนาดความจุมันสมอง 600 – 700 ลบ.ซม. ) จนสามารถอพยพขึ้นไปสู่บริเวณทางเหนือที่ไกลจากเส้นศูนย์สูตร และเผชิญกับปัญหาการเอาชีวิตให้รอดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ช่วยกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการทางวัฒนธรรมและภาษา ทางกายภาพ เกิดการปรับตัวที่บริเวณผิวหนัง มีขนยาวลดลงและมีต่อมเหงื่อมากขึ้น เพื่อปรับรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่
ที่มา : https://www.oknation.net/blog/print.php?id=151642
โฮโม อิเรคตัสที่ทันสมัย หรือมนุษย์ปักกิ่ง ( Peking Man) ถูกพบเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2464 ที่หมู่ถ้ำแห่งหนึ่ง ชื่อ "จูกูเทียน" ( Zhoukoudian or Choukoutain) ผาถ้ำแห่งนี้อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 25 ไมล์ หน้าผาหินปูนที่พูดกันอยู่ในหมู่ของหมอยาแผนโบราณชาวจีนว่า เป็นที่สถิตของ "กระดูกมังกร" ส่วนผสมสำคัญของยาอายุวัฒนะชั้นเลิศที่เชื่อถือสืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในครั้งแรกนักโบราณชีววิทยาชาวเยอรมันชื่อฮีเบอเรอร์ ( K.A. Heberer ) ได้มาพบฟอสซิลของฟันสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ในร้านขายยาแห่งหนึ่งในนครปักกิ่ง นำไปสู่การติดตามต้นตอของฟันซี่นั้นไปจนถึงหมู่บ้านจูกูเทียน เขาได้รวบรวมตัวอย่างกว่า 100 ชิ้นจากร้านขายยา ส่งไปให้นักโบราณชีววิทยาตรวจสอบ จึงพบว่าฟอลซิลที่ส่งมาตรวจสอบนั้น ชิ้นหนึ่งคือฟันกรามซี่ที่ 3 ด้านซ้ายสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์ หรืออาจจะเป็นฟันของ.......มนุษย์ แฮเบอเรอร์เชื่อมั่นว่าจะต้องมีมนุษย์โบราณอาศัยอยู่ที่บริเวณผาถ้ำที่หมู่บ้านจูกูเทียนอย่างแน่นอน
ที่มา : https://www.oknation.net/blog/print.php?id=151642
จอนห์น กันเนอร์ แอนเดอร์สัน (J.Gunnar Andersson) นักธรณีวิทยาชาวสวีเดน เดินทางไปที่จูกูเทียนเพื่อสำรวจแหล่งแร่ธาตุให้กับรัฐบาลจีน ในปี พ.ศ. 2464 เขาได้พบกับฟอสซิลกระดูกสัตว์ที่มีร่องรอยการล่าของมนุษย์ ในหมู่บ้านจูกูเทียนบริเวณที่เรียกว่าเนินกระดูกมังกร (Dragon-Bone Hill) สถานที่แห่งนี้หมอยาชาวจีนมาขุดหาฟอสซิลไปทำยาอายุ วัฒนะเป็นเวลานานกว่า 100 ปีมาแล้ว
คนที่ขุดเล่าว่า เคยพบหินควอท์ซไซท์ (Quartzite) ที่แตกกะเทาะอย่างแปลกประหลาด เป็นแง่คมด้านหนึ่งบ้าง ทั้งสองด้านบ้าง ไม่น่าเป็นการกระทำของธรรมชาติ คงมีคนนำมาทิ้งไว้ที่นี่ แอนเดอร์สันและทีมงานจึงได้เริ่มขุดค้นที่เนินกระดูกมังกร และพบซากฟอสซิลมากมาย ทั้งหมดถูกส่งกลับไปที่สวีเดนเพื่อการศึกษาและวิเคราะห์ ผลสรุปออกมาว่า ฟอสซิลที่ส่งไปตรวจสอบ เป็นของสิ่งมีชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 20 สายพันธุ์ บางชนิดสูญพันธุ์ไปแล้ว ในปีพ.ศ. 2469 เขาจึงได้ค้นพบฟันของสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ เป็นฟันกรามใหญ่ 1 ซี่ และฟันธรรมดา 1 ซี่ ซึ่งทำให้เขาเชื่ออย่างมากว่า จะต้องพบกับฟอสซิลของมนุษย์ ในเวลาอันใกล้นี้
ที่มา : https://www.oknation.net/blog/print.php?id=151642
เดวิดสัน แบล็ค (Davidson Black) นายแพทย์ชาวแคนนาดาผู้เดินทางค้นหาซากฟอสซิลของมนุษย์โบราณไปทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2470 การขุดค้นที่เนินเขากระดูกมังกรเริ่มขึ้นอีกครั้ง เบอเกอร์ โบหลิน (Birger Bohlin) นักโบราณชีววิทยา ผู้อำนวยการขุดค้นชาวสวีเดนได้ส่งซากฟอสซิลมาให้แบล็คตรวจสอบที่ปักกิ่ง มันเป็นกรามและฟันของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาอย่างแน่นอน แบล็คจึงรีบเขียนโครงการขอทุนวิจัยจากมูลนิธิร็อคกี้ เฟลเลอร์เพื่อนำมาใช้จ่ายในการขุดค้น และประกาศการค้นพบจีนัสและสปีชีส์ใหม่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ ให้ชื่อฟันและกรามใหญ่ที่ค้นพบนั้นว่า ไซแนนโธรปัส พีคินเอนซิส (Sinanthropus Pekinensis) หรือ คนจีนแห่งปักกิ่ง แต่หลักฐานเพียงน้อยนิดนี้ ยังไม่เป็นที่ยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกในเวลานั้นมากนัก
แบล็คกลับมาปักกิ่งในปีพ.ศ. 2471 หลักฐานของไซแนนโธรปัสหรือมนุษย์ปักกิ่ง มีมากขึ้นกว่าเดิม ทีมงานของเขาขุดพบกระดูกขากรรไกร ที่แตกหัก และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ในปีพ.ศ. 2472 ดร.ไป เวง จุง (Pei Wen Chung) นักโบราณชีววิทยาชาวจีนที่ทำงานร่วมกับแบล็ค ได้ค้นพบกะโหลกศีรษะชิ้นแรกของไซแนนโธรปัสขณะที่ขยายพื้นที่ขุดออกมาอีก 2 ถ้ำ กะโหลกนั้นสมบูรณ์ติดอยู่กับผนังหิน แบล็คนำมาให้ รอย ซี แอนดรู เพื่อนนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันตรวจสอบ แอนดรูให้ความเห็นเกี่ยวกับไซแนนโธรปัสนั้นในทันทีว่า ....มันเป็นศีรษะของปัจเจกบุคคลที่มีอายุกว่าครึ่งล้านปีมาแล้ว นับว่าเป็นการค้นพบที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษยชาติโดยตรง
แบล็ค ใช้เวลากว่า 4 เดือนในการแยกฟอสซิลกระโหลกออกจากหิน ทำแม่พิมพ์ของแต่ละชิ้นส่วนไว้ จากนั้นก็ประกอบหัวกะโหลก เพื่อวัดปริมาตรสมอง เขาค้นพบว่า กะโหลกดังกล่าวมีปริมาตรสมองประมาณ 1,000 ลบ.ซม.(1 ลิตร) นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเริ่มยอมรับความเป็นมนุษย์ของไซแนนโธรปัสหรือหรือมนุษย์ปักกิ่งมากขึ้น ตรงขนาดความจุของสมองนี้เอง
มูลนิธิร็อคกี้ เฟลเลอร์ ให้ฟรานซ์ ไวเดนริช (Franz Weidenreich) เข้าดำเนินงานต่อจากแบล็ค งานของเขาเน้นไปที่การเก็บข้อมูลให้เป็นระบบระเบียบ การวาดภาพ การถ่ายรูป การปั้นและทำแม่แบบต่าง ๆ เก็บไว้ รวมทั้งงานเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับฟอสซิลมนุษย์ปักกิ่ง การศึกษาวิจัยเรื่องกระดูก และโครงสร้างร่างกายมนุษย์ปักกิ่งของเขา จากหลักฐาน ขากรรไกรล่าง ฟัน กระดูกส่วนต่าง ๆ และกะโหลก ทำให้ไซแนนโธรปัสกลายมาเป็นมนุษย์ขึ้นจริง ๆ ในสายวิวัฒนาการของมนุษย์ เป็นมนุษย์ที่ล้าหลังและเก่าที่สุด ไม่ใช่ตัวเชื่อมระหว่างเอป(ลิง)กับมนุษย์อย่างที่เคยเข้าใจกัน เพราะไซแนนโธรปัส มีตำแหน่งต้นคอที่ตั้งตรงขนาดกับพื้นโลกและเดินตัวตรงบนสองขาเช่นเดียวกับมนุษย์ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ฟันและเพดานเหงือกรูปโค้งของไซแนนโธรปัส มีส่วนสำคัญที่ทำให้ฟอสซิลเหล่านี้ได้สถานภาพของความเป็นมนุษย์ เพราะฟันเขี้ยวไม่ยื่นออกมาเหมือนของเอป(ลิงโลกเก่า) เหงือกเป็นรูปโค้งไม่ใช่สี่เหลี่ยมเหมือนลิง มีโครงร่างของกะโหลกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่เท่าหลักฐานแวดล้อมอื่น ๆ และหลักฐานทาง"วัฒนธรรม" ที่ค้นพบในพื้นที่ขุดค้นของจูกูเทียน ที่ย้ำและยืนยันในความเป็นมนุษย์ของไซแนนโธรปัสหรือมนุษย์ปักกิ่งได้อย่างสมบูรณ์ครับ
ที่มา : https://www.oknation.net/blog/print.php?id=151642
ประเด็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายในห้องเรียน
1. ลักษณะของมนุษย์ปักกิ่งที่สำคัญมีลักษณะอย่างไร
2. จงอธิบายวิวัฒนาการทางร่างกายที่มนุษย์ปักกิ่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
3. ข้อพิสูจน์ที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเชื่อถือเรื่องมนุษย์ปักกิ่งนั้นคืออะไร
กิจกรรมเสนอแนะ
1. อภิอปรายวิวัฒนาการของมนุษย์
2. อภิปรายการค้นพบมนุษย์ปักกิ่ง
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ
สามารถบูรณาการกับกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สุขศึกษาพลศึกษา
อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล / ภาพประกอบ
https://www.vcharkarn.com/vblog/47490
https://www.electron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=913&Itemid=4
https://www.oknation.net/blog/print.php?id=151642
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2957