โอบามาเผยเครียด


639 ผู้ชม


โอบามาเผยเครียดแผนฆ่า 'บิน ลาดิน' เสี่ยง55เปอร์เซ็นต์   

                                   

โอบามาเผยเครียด

ที่มา : https://i748.photobucket.com/albums/xx125/narkasit09/554000005756602.jpg

      โอบามาเผยเครียดแผนฆ่า 'บิน ลาดิน' เสี่ยง55เปอร์เซ็นต์
                      “บารัค โอบามา” เครียดยอมรับการตัดสินใจสั่งฆ่า "บิน ลาดิน" ในครั้งนี้ แม้แต่คนในทำเนียบขาวก็รู้แค่ 2 - 3 คน เท่านั้น เพราะความเสี่ยงที่จะปฏิบัติการสำเร็จในครั้งนี้มีเพียงแค่ 55 % เท่านั้น เพราะข้อมูลไม่ชัดเจนว่าบิน ลาดิน จะกบดานอยู่ในบ้านเป้าหมายหรือไม่ กรณีหน่วยรบพิเศษ "ซีล" ของกองทัพเรือสหรัฐฯ บุกจุมโจมสังหารนายโอซามา บิน ลาดิน พร้อมลูกชายและสมุน ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในเขตชุมชนเมืองแอ็บบอตตาบัดของปากีสถานพร้อมกับนำร่างไปทำพิธีฝังกลางทะเล สร้างกระแสความไม่พอใจให้แก่ชาวมุสลิมทั่วโลก
                        จากข่าวนี้จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติการล่าสังหาร "บิน ลาดิน" ของหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่สำคัญต่อการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐฯอีกครั้งหนึ่งในชีวิตเพราะมีผลกระทบในหลายด้าน
                        เนื้อหาของข่าวเหมาะสมสำหรับนำไปสอนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3
                        จากกรณีที่หน่วยรบพิเศษ "ซีล" ของกอบทัพเรือสหรัฐฯ บุกจู่โจมสังหาร นายโซามา บิน ลาดิน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย อัล เคดา พร้อมลูกชายและสมุน ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในเขตชุมชนเมืองแอ็บบอตตาบัดของปากีสถาน พร้อมกับนำร่างไปทำพิธีฝังกลางทะเลที่ไม่เปิดเผยทันที สร้างกระแสความไม่พอใจให้แก่ชาวมุสลิมทั่วโลก ออกมากล่าวหาทางการสหรัฐฯ ไม่ให้ความเคารพต่อพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม โดยมีกลุ่มอัล เคดา เป็นหัวหอกออกมาเรียกร้องให้ทำสงครามศาสนากับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร  ขณะที่ชาวอเมริกันและชาติพันธมิตร ต่างออกมาชุมนุมแสดงความยินดีกับการสังหารชายที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เขย่าโลก 9/11 ล่าสุดทางการสหรัฐฯ         นำคลิปวิดีโอของ บิน ลาดิน จำนวน 5 ตอน ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญหลายอย่างที่ยึดมาได้จากเซฟเฮาส์ ที่เชื่อว่าถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการของ บิน ลาดิน มาหลายปี 
                        ผู้นำสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจนี้ครั้งแรกผ่านรายการโทรทัศน์ “60 มินิตส์” ทางโทรทัศน์ซีบีเอสออกอากาศเมื่อคืนวันอาทิตย์ 8 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐฯ ระบุยอมรับเครียดอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจสั่งดำเนินการภารกิจลับครั้งนี้ เพราะสหรัฐไม่มีข้อมูลหลักฐานชัดเจนยืนยันว่าบิน ลาดิน หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ภารกิจครั้งนี้มีความเสี่ยงสูง คือสถานการณ์วัดความเสี่ยงประสบความสำเร็จแค่ 55 เปอร์เซ็นต์ โอกาสผิดพลาดล้มเหลว 45 เปอร์เซ็นต์ หากผลที่ตามมาเกิดความผิดพลาด ตนจำเป็นต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน เพราะการส่งหน่วยเฉพาะกิจเข้าไปในดินแดนปากีสถานโดยไม่แจ้งให้รัฐบาลปากีสถานรับทราบ ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่ผู้นำสหรัฐฯจำเป็นต้องตัดสินใจ โดยตัดสินใจเรื่องนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 28 เม.ย. ก่อนปฏิบัติการบุกปากีสถานในคืนวันอาทิตย์ 1 พ.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ก่อนปฏิบัติการบุกปากีสถาน ตนเล่นกอล์ฟอยู่ในสหรัฐฯรอเวลาในปากีสถานให้พระอาทิตย์ตกดิน ก่อนย้ายไปนั่งเฝ้าติดตามดูภารกิจของหน่วยปฏิบัติ การพิเศษจากปากีสถานที่ “ห้องติดตามสถานการณ์” ภายในทำเนียบขาว ซึ่งฉายภาพการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วย เฉพาะกิจทุกขั้นตอน การปฏิบัติงานจริงนานราว 40 นาที กระทั่งได้รับรายงานคำพูดจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษระบุ “เจอโรนิโม” หมายถึงศัตรูคือบิน ลาดิน ถูกสังหารแล้ว 
                        ช่วงเวลา 40 นาทีดังกล่าว ถือได้ว่าผู้นำสหรัฐเครียดมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต รองจากเหตุการณ์เมื่อครั้ง “ซาชา” ลูกสาวป่วยด้วยไข้สมองอักเสบตอนอายุ 3 ขวบและตนต้องรอฟังคำตอบจากแพทย์ว่าลูกสาวอาการป่วยดีขึ้นหรือไม่ นอกจากนั้นการตัดสินใจสั่งดำเนินการภารกิจครั้งนี้ ตนไม่ได้บอกแม้กระทั่งคนในครอบครัว เฉพาะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังรับรู้เรื่องแค่ 2-3 คนแม้แต่ที่ปรึกษาอาวุโสส่วนใหญ่ของตนก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ แผนปฏิบัติการลับดังกล่าวทำให้ตนนอนไม่หลับ แต่ก็คิดได้ว่าความยุติธรรมเกิดขึ้นแล้ว หากเปรียบเทียบการเสียชีวิตของชาวอเมริกันจำนวนมากบนแผ่นดินบ้านเกิดจากเหตุการณ์เมื่อ 11 ก.ย.ปี 2544 กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบิน ลาดิน  ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯยืนยันให้รัฐบาลปากีสถานเร่งสอบสวนถึงเหตุที่บิน ลาดิน สามารถกบดานอยู่ในปากีสถานใต้จมูกกองทัพปากีสถานได้นานหลายปี แต่ผู้นำสหรัฐไม่ระบุชัดเจนว่า รัฐบาลปากีสถานรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของบิน ลาดิน หรือไม่ พร้อมกันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯยังแสดงท่าทีต้องการสอบสวนภริยา 3 คน ของบิน ลาดิน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของรัฐบาลปากีสถานด้วย  เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายก่อการร้ายอัล เคดา
                       ส่วนนายทอม โดนิลอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งทำเนียบขาว กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ “มีท เดอะ เพรสส์” ทางเอ็นบีซี ระบุถึงหลักฐานต่างๆที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯยึดได้จากบ้านแหล่งกบดานของบิน ลาดิน ซึ่งมีทั้งวีดิโอเทป อุปกรณ์สื่อสารและเอกสารข้อมูลต่างๆมากมายเหมือนห้องสมุดขนาดย่อมๆของวิทยาลัยการศึกษา นอกจากนั้น วีดิโอเทปม้วนหนึ่งซึ่งบิน ลาดิน บันทึกไม่นานก่อนถูกสังหาร กล่าวเตือนถึงสหรัฐฯจะไม่มีความมั่นคงเกิดขึ้นได้ตราบใดที่ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่กาซายังไม่มีความมั่นคงปลอดภัยเพียงพอ พ้องกับสารเตือนจากบิน ลาดิน ส่งผ่านเว็บไซต์ “Shamikh1.net” ก่อนหน้านี้ระบุว่า “ไม่ยุติธรรมถ้าพวกคุณ         (หมายถึงสหรัฐฯ) อยู่กันอย่างมีสุขสันติขณะที่พี่น้องมุสลิมในกาซาอยู่กันอย่างไม่มีเสถียรภาพความมั่นคง เราจำเป็นต้องโจมตีพวกคุณอย่างต่อเนื่องตราบใด ที่พวกคุณสนับสนุนอิสราเอล
                      ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งทำเนียบขาว เผยอีกว่า สหรัฐฯมองเป้าหมายต่อไปหลังสิ้นบิน ลาดิน คือนายอายมาน อัล-ซาวาฮิรี ชาวอียิปต์ ผู้ช่วยนายบิน ลาดิน มายาวนาน คือผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัล เคดาคนต่อไป โดยนายอัล-ซาวาฮิรี ถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายทางภาคตะวันออกอัฟกานิสถานเมื่อเดือน ต.ค.ปี 2544 นอกเหนือจากการส่งเทปวีดิโอปลุกระดมชาวมุสลิมร่วมก่อสงครามต่อต้านชาติตะวันตกแล้วหลายครั้ง
                     ส่วนความเคลื่อนไหวในปากีสถาน พรรคฝ่ายค้านสันนิบาตมุสลิมปากีสถานเรียกร้องให้ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง กรณีปล่อยให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯล่วงล้ำดินแดนปากีสถานเข้ามาปฏิบัติการสังหารบิน ลาดิน ถึงในปากีสถาน นอกจากนั้น พรรคฝ่ายค้านยังเรียกร้องให้สอบสวนหน่วยงานด้านข่าวกรองของปากีสถานที่ล้มเหลวปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวก่อการร้ายใต้ดิน ขณะที่นายเราะห์มาน มาลิค รมว.มหาดไทยปากีสถาน เผยผ่านโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอาหรับทีวี ระบุรัฐบาลปากีสถานรู้ข่าวปฏิบัติการลับของสหรัฐฯมุ่งปลิดชีพบิน ลาดิน ในปากีสถานหลังเริ่มปฏิบัติการไปแล้วนาน 15 นาที ทั้งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯมีเป้าหมายอยู่ที่ใคร จนมารู้ชัดต่อเมื่อเฮลิคอปเตอร์ของสหรัฐฯนำร่างบิน ลาดิน ออกจากบ้านพักมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของบิน ลาดิน ใกล้กรุงอิสลามาบัดที่
                    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) ฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ เผยในการสัมมนาเชิงรุกปฏิบัติการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมคนร้ายข้ามชาติว่า เรื่องของบิน ลาดิน เป็นข้อข่าวสำคัญและยังมีความเคลื่อนไหว เราได้ติดตามสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องของบิน ลาดิน ที่บอกว่าคนร้ายข้ามชาติยังมีความเคลื่อนไหวอย่างไร พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในการติดตามข้อมูลข่าวสารเราประสานงานผ่านศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติตั้งแต่แรกจนถึงขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มเหตุร้ายหรือว่ามีสิ่งใดที่จะบ่งบอกว่าจะเกิดเหตุในประเทศไทย อย่างไรก็ตามยังต้องเฝ้าระวังทั้งข้อมูลข่าวสารที่มาจากต่างประเทศและข้อมูลข่าวสารที่แลกเปลี่ยนกันกับผู้ที่ทำงานในประเทศ หวังว่าสิ่งต่างๆที่กำลังดำเนินการเชิงป้องกันและเรียนรู้ ทั้งเขาและเราทำให้การป้องกันดูแลด้านความมั่งคงมีประสิทธิภาพสูงสุด ถึงขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือแนวโน้มว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นในประเทศไทย

                   ประเด็นคำถาม  หลังจากมีภาพข่าวการตายของบินลาดินออกเผยแพร่สู่สายตาประชาชนทั่วโลกก็มีการเปรียบเทียบใบหน้าของบิน ลาดิน ใช่ตัวจริงไหม

                   กิจกรรมเสนอแนะ ให้นักเรียนค้นคว้าหาข่าวและคลิปภาพเกี่ยวกับการสังหารบิน ลาดินเพิ่มเติม

                   สามารถบูรณาการกับวิชาวัทยาศาสตร์เกี่ยวกับการชันสุตรศพ การตรวจสอบการตายของบิน ลาดิน ว่าจริงหรือไม่

        
ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ     โดยไทยรัฐฉบับพิมพ์ 10 พฤษภาคม 2554, 07:14 น.
tags:,บารัค โอบามา,สหรัฐอเมริกา,บิน ลาดิน,

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3820

               

อัพเดทล่าสุด