ระนาดทุ้ม เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีที่ทำด้วยไม้มีรูปลักษณะเป็นรางร้อยลูก ระนาดเป็นพื้นแขวนบนรางระนาดทุ้ม เป็นเครื่องดนตรีที่สร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประวัติ ความเป็นมาของระนาดทุ้ม
ระนาด เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี สันนิษฐานว่าแต่เดิมนั้นคงนำไม้ทำอย่างกรับหลาย ๆ อันวางเรียงกันแล้วตีให้ เกิดเสียง ต่อมาจึงคิดทำไม้รองเป็นรางแล้วจึงประดิษฐ์ดัดแปลงให้มีขนาดลดหลั่นกันวางบน รางเพื่อให้สามารถอุ้มเสียงได้ จากนั้นใช้เชือกร้อยไม้กรับขนาดต่างๆ กันนั้นให้ติดกันเป็นผืนขึงแขวนไว้บนราง และใช้ขี้ผึ้งผสมตะกั่วติดหัวท้ายเพื่อถ่วงเสียงให้เกิดความไพเราะยิ่งขึ้น โดยใช้ไม้ตีให้เกิดเสียงดังกังวานลดหลั่นกันไปตามต้องการแล้วให้ชื่อว่า “ระนาด”
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่ง เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีผู้คิดประดิษฐ์ระนาดอีกชนิดหนึ่งให้มีเสียงทุ้มนุ่มนวล ฟังไม่แกร่งกร้าวเหมือนอย่างเก่า จึงเรียกระนาดอย่างใหม่ว่า “ระนาดทุ้ม” และเรียก ระนาดอย่างเก่าว่า “ระนาดเอก” ซึ่งระนาดทุ้มนั้นคิดประดิษฐ์เลียน แบบจากระนาดเอก ลูกระนาดทำจากไม้ไผ่เช่นเดียวกัน หากแต่เหลาให้มีขนาดกว้างและยาวกว่าลูกระนาดเอก มีจำนวน ๑๗-๑๘ ลูก เทียบเสียงให้ต่ำกว่าระนาดเอกหนึ่งช่วงคู่แปด รางระนาดทุ้มทำจากไม้ที่มีความคงทนสวยงาม เช่น ไม้ขนุน ไม้ชิงชัน เป็นต้น มีรูปร่างคล้ายหีบไม้แต่เว้ากลางเป็นการโค้ง ใช้โขนปิดทางด้านหัวและด้านท้ายยาวประมาณ ๑๒๔ เซนติเมตร มีตะขอติดโขนข้างละ ๒ อัน สำหรับแขวนหรือขึงผืนระนาดทุ้ม ปากรางกว้างประมาณ ๒๒ เซนติเมตร และมีเท้าเตี้ยๆ รอง ๔มุมราง รางระนาดทุ้มมักมีการแกะสลักลวดลายต่างๆ แล้วลงรักปิดทองเรียกว่า“รางทอง” ซึ่งนิยม กันมาก ไม้ตีนั้นใช้ไม้นวม ซึ่งหัวไม้พันผ้าพอกให้โตและนุ่มเพื่อให้เสียงนุ่มนวล
เทคนิค การบรรเลงระนาดทุ้มและแบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดทุ้ม
๑. การตีไล่ เสียงขึ้น - ลง โดยใช้มือซ้ายตีที่ลูกทวน หรือลูกที่มีเสียงต่ำสุดซึ่งอยู่ทางซ้ายมือของผู้บรรเลง และตีเรียงเสียงขึ้นไปจนได้คู่แปด แล้วเปลี่ยนมาใช้มือขวาไล่ต่อไปจนถึงลูกยอดหรือลูกที่มีเสียงสูงสุดซึ่งอยู่ ทางขวามือของผู้บรรเลง และในทำนองกลับกันใช้มือขวาตีที่ลูกยอดไล่เรียงเสียงลงมาให้ได้คู่แปดกับลูก ยอด แล้วเปลี่ยนไปใช้มือซ้ายไล่เรียงเสียงลงมาจนถึงลูกทั่ง
เช่น
- - - - | - - - - | มฟซล | ทดํรํมํ | มฟซล | ทดํรํมํ | - - - - | - - - - |
รฺมฺฟฺซฺ | ลฺทฺดร | - - - - | - - - - | - - - - | - - - - | รฺมฺฟฺซฺ | ลฺทฺดร |
๒. การตีไล่ เสียงสลับมือ โดยการตีสลับมือซ้ายขวาจากเสียงต่ำสุดไปหาเสียงสูงสุด โดยใช้ มือซ้ายตีลงก่อนแล้วตามด้วยมือขวา เมื่อมือขวาตีถึงลูกยอด ให้ตีถอยลงมาโดยเริ่มด้วยมือซ้ายตีลงที่ลูกยอดก่อน ตามด้วยมือขวาตีสลับลงมาจนถึงเสียงต่ำสุด เช่น
- - ฟฺซฺ | - - ด ร | - - ซ ล | - - รํ มํ | มํ รํ - - | ล ซ - - | ร ด - - | ซฺ ฟฺ- - |
รฺ มฺ - - | ลฺ ทฺ- - | ม ฟ- - | ทดํ- - | - - ดํท | - - ฟม | - -ทฺ ลฺ | - - มฺ รฺ |
๓. การตีสอง มือพร้อมกันเป็นคู่ต่าง ๆ โดยลงน้ำหนักมือเท่ากัน ใช้มือซ้ายและมือขวาตีลงที่ ลูกฆ้องพร้อมกันทั้งสองมือ โดยใช้นำหนักมือทั้งสองมือเท่ากันและมีเสียงประมาณกัน
เช่น
- ร - ม | - ฟ- ซ | - ล - ท | - ดํ - รํ | - มํ - มํ | - รํ - ดํ | - ท - ล | - ซ- ฟ |
รฺ - มฺ - | ฟฺ - ซฺ - | ลฺ - ทฺ - | ด - ร - | ม - ม - | ร - ด - | ทฺ - ลฺ - | ซฺ - ฟฺ - |
๔. การตีกรอ คู่ต่าง ๆ โดยตีคู่เช่นคู่ ๒ , ๔ , ๘
เช่น คู่ ๒
- - - ร | - - - ม | - - - ฟ | - - - ซ |
- - - ด | - - - ร | - - - ม | - - - ฟ |
คู่ ๔
- - - ร | - - - ม | - - - ฟ | - - - ซ |
- - - ลฺ | - - - ทฺ | - - - ด | - - - ร |
คู่ ๘
- - - ซ | - - - ล | - - - ดํ | - - - รํ |
- - - ซฺ | - - - ลฺ | - - -ด | - - - ร |
๕. การตีผสม มือ และการตีแบ่งมือ
๕.๑ การตีไล่เสียงขึ้น ๓ เสียง รูปแบบการแบ่งมือคือ ซ้าย ขวา ขวา เช่น
- - มฺ ฟฺ | - - ฟฺ ซฺ | - - ซฺ ลฺ | - - ลฺ ทฺ |
- รฺ - - | - มฺ - - | - ฟฺ - - | - ซฺ - - |
๕.๒ การตีไล่เสียงลง ๓ เสียง รูปแบบการ แบ่งมือคือ ขวา ขวา ซ้าย เช่น
- มํ - - | - รํ - - | - ดํ - - | - ท - - |
- - รํ ดํ | - - ดํ ล | - - ท ล | - - ล ซ |
๕.๓ การตีไล่เสียงขึ้น ๔ เสียง รูปแบบการแบ่งมือคือ ซ้าย ซ้าย ขวา ขวา เช่น
- - ฟฺ ซฺ | - - ซฺ ลฺ | - - ลฺ ทฺ | - - ทฺ ด |
รฺ มฺ - - | มฺ ฟฺ - - | ฟฺ ซฺ - - | ซฺ |
๕.๔ การตีไล่เสียงลง ๔ เสียง รูปแบบการ แบ่งมือคือ ขวา ขวา ซ้าย ซ้าย เช่น
มํ รํ - - | รํ ดํ - - | ดํ ท - - | ท ล - - |
- - ดํ ล | - - ท ล | - - ล ซ | - - ซ ฟ |
ที่มา : https://santithaimusic.igetweb.com/index.php?mo=3&art=177113
ระนาดทุ้ม เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีที่ทำด้วยไม้มีรูปลักษณะเป็นรางร้อยลูก ระนาดเป็นพื้นแขวนบนรางระนาดทุ้ม เป็นเครื่องดนตรีที่สร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวประสมอยู่ในวงดนตรีไทยประเภทต่างๆ เช่น วงปี่พาทย์ไม้แข็ง วงปี่ พาทย์ดึกดำบรรพ์ วงปี่พาทย์ไม้นวม วงมโหรี ฯลฯ ทำหน้าที่ ดำเนินทำนองเพลง หยอก ล้อไปกับระนาดเอกทำให้เกิดความสนุกสนาน
การปฏิบัติเครื่องดนตรี
ภาพแสดงการนั่งในการ ปฏิบัติเครื่องดนตรี
ภาพ : การนั่ง
ที่มา : จิรา รัตน์ ทิพย์บำรุง : ๒๕๕๐
ระนาดทุ้ม เป็นเครื่องดนตรีที่สร้างขึ้นมาในรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นการสร้างเลียนแบบระนาดเอก ใช้ไม้ชนิดเดียว กันกับระนาดเอก ลูกระนาดทุ้มมีจำนวน 17 หรือ 18 ลูก ลูกต้นยาวประมาณ 42 ซม กว้าง 6 ซม และลดหลั่นลงมาจนถึงลูกยอด ที่มีขนาดยาว 34 ซม กว้าง 5 ซม รางระนาดทุ้มนั้นประดิษฐ์ให้มีรูปร่างคล้ายหีบไม้ แต่เว้าตรงกลางให้โค้ง โขนปิดหัวท้ายเพื่อ เป็นที่แขวนผืนระนาดนั้น ถ้าหากวัดจากโขนด้านหนึ่งไปยังโขนอีกด้านหนึ่ง รางระนาดทุ้มจะมีขนาดยาวประมาณ 124 ซม ปาก รางกว้างประมาณ 22 ซม มีเท้าเตี้ย รองไว้ 4 มุมราง
หน้าที่ในวงของระนาดทุ้มนั้น ทำหน้าที่เดินทำนองรอง ในทางของตนเองซึ่งจะมีจังหวะโยน ล้อ ขัด ที่ทำให้เกิดความไพเราะและเติมเต็มช่องว่างของเสียง อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของระนาดทุ้ม
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki
สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย - คำศัพท์
คณิต -จำนวน
สังคมศึกษา -ประวัติ
สุขศึกษาและพลศึกษา -การออกกำลังกาย
ศิลปะ -การวาดภาพระบายสี เส้น แสง สี และเงา
การงานอาชีพและเทคโนโลยี -การประดิษฐ์เครื่องดนตรี
ภาษาอังกฤษ -คำศัพท์
ตอบคำถาม
1. ระนาดทุ้ม มีมาตั้งแตสมัยใด
2.ระนาดทุ้มมีลูกระนาดกี่ลูก
3.ระนาดเอกและระนาดทุ้มมีความแตกต่างกันอย่างไร
4.ระนาดทุ้มสันิษฐานว่าดัดแปลงมาจากเครื่องดนตรีใด
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2970 |