ข้าวเกรียบกือโป๊ะของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ
ข้าวเกรียบกือโป๊ของดีปัตตานี หลังจากมาเลเซียตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมีคนจากประเทศมาเลเซียจำนวนหนึ่งได้อพยพมาตั้งรกรากในพื้นที่ประเทศไทยบริเวณบ้านดาโต๊ะ ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และได้มีคนนำต้นสาคูมาทำแป้งเป็นอาหารเช้ากินกับน้ำชา ในยุคนั้นเป็นยุคข้าวยากหมากแพงจึงนำแป้งสาคูมาผสมกับปลาและเกลือเท่าที่ชาวบ้านในหมู่บ้านประมงจะหามาได้โดยปั้นเป็นแท่งกลมยาว แล้วนำมาตัดเป็นชิ้น ๆ ย่างหรือทอดในน้ำมันใช้เป็นอาหารรับประทาน ครัวเรือนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็จะทำอาหารชนิดนี้บริโภคกันทุกครัวเรือนการทำอาหารชนิดนี้แปรผันเป็นภูมิปัญญาสืบทอดมาเป็นขุมทรัพย์ จากการที่บรรพบุรุษของชาวดาโต๊ะรู้จักวิธีทำข้าวเกรียบกือโป๊มาแต่อดีตและได้สืบทอดภูมิปัญญานี้ส่งผ่านมารุ่นแล้วรุ่นเล่า จนถึงลูกหลานยุคปัจจุบันและจากการที่คนในชุมชนบ้านดาโต๊ะประกอบอาชีพทำการประมงขนาดเล็ก เป็นอาชีพหลักของครอบครัวจึงได้นำปลาที่เหลือจากการบริโภคและจำหน่าย ซึ่งเป็นปลาตัวเล็ก ๆมาประยุกต์ผสมกับแป้งมัน (แป้งสาคูบางส่วน) ทำข้าวเกรียบกือโป๊ไว้กินกันในครัวเรือนที่เหลือก็มีการขายกันบ้างภายในหมู่บ้านปรากฏว่าขายดี จึงขยายตลาดไปยังภายนอกหมู่บ้าน เพิ่มการผลิตมากขึ้นเรื่อย ๆไปสู่ตำบล อำเภอ และจังหวัดอื่น ๆ จากการผลิตข้าวเกรียบกือโป๊ของชุมชนสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนที่เป็นผู้ผลิตข้าวเกรียบ ประมาณ 3,000– 5,000 บาท/คน/เดือนนับเป็นขุมทรัพย์ที่เกิดจากภูมิปัญญา
กือโป๊ะ ของดี จากปลายด้ามขวาน
ใครๆ ที่มาเที่ยวปัตตานี หรือ นราธิวาส
หากถามว่า...ใครเคยกินข้าวเกรียบมั๊ย?
ข้าวเกรียบที่ทำจากสัตว์ทะเล ทั้งกุ้งและปลา นำมาทำเป็นข้าวเกรียบ
หั่นแล้วนำไปตากจนแห้ง
เมื่อนำไปทอด จะฟู พองตัวอีก 2-3 เท่าตัว
กินกับน้ำจิ้ม..สุดยอดของความอร่อย
หากเป็นเช่นนี้ หลายคนจะบอกว่า
“เคยกินดิ”
“ กินเล่นๆ ก็ได้ หรือ กินเป็นกับแกล้มก็อร่อยไม่เบา”
นั่นแหละ ถูกต้อง ใช่เลย...
ข้าวเกรียบ ของดีเมืองแถบชายทะเลอ่าวไทยแห่งปลายด้ามขวาน
โดยเฉพาะข้าวเกรียบที่นับว่าขึ้นชื่อของปัตตานี
คือ ข้าวเกรียบจากปลาหลังเขียว
แต่หากจะถาม....คนที่ไม่ใช่คนสามจังหวัดชายแดนใต้ ว่า....
แล้วใครเคยกิน “กือโป๊ะ” หรือ "กรือโป๊ะ" หรือเปล่า?
หลายคนอาจอาการ “ง.งู” วิ่งชนกัน
ก็ “งง” ไงล่ะค่ะ?
“งง” ว่า มันเป็นอะไร?
“งง” ว่ามันเป็นภาษาอะไรกัน?
เพราะ เจ้ากือโป๊ะ นับเป็นข้าวเกรียบอีกชนิดหนึ่ง
ที่นิยมกินกันในแถบจังหวัดปัตตานี
หรือ จังหวัดในแถบจังหวัดชายแดนใต้
จนกลายเป็น “ของดี” แห่งปลายด้ามขวานไปเลยล่ะค่ะ
กือโป๊ะ หรือ กรือโป๊ะ เป็นของกินเล่นอีกชนิด
ที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือ ปราชญ์ชาวบ้าน
ที่สร้างสรรค์เมนูอาหารออกมาได้อย่างน่ากินโดยแท้
“กือโป๊ะ” เป็นข้าวเกรียบชนิดหนึ่ง ที่ไม่ต้องนำไปตากแห้ง
ก่อนนำไปทอด เหมือนข้าวแห้งโดยทั่วไป
หากแต่ เป็นข้าวเกรียบสด หรือ ข้าวเกรียบที่ทำจากปลาทูสดๆ นั่นเอง
ซึ่งภาษาถิ่น จะนิยม เรียกว่า “กือโป๊ะ” หรือ “กะโป๊ะ”
หรือ ใครจะเรียกแบบโหดๆ หน่อย ว่า “หนังตีน”
(ก็ดูหน้าตามันแล้ว มันคล้ายๆเลยล่ะ..ม่ายเชื่อ ลองสังเกตดีๆ)
"กือโป๊ะ" หรือ ข้าวเกรียบปลาสด (กะโป๊ะ) ทำจากปลาทูสด
(แรกเริ่มเดิมที จะใช้ปลาทูที่ไม่ได้ขนาด ขายไม่ได้ราคามาทำ)
นำมาผสมกับแป้งมันสำปะหลัง เกลือน้ำตาลทราย แค่นี้เองค่ะ
ใครอยากลองทำดูก็ไม่ว่ากันน่ะค่ะ
ส่วนผสม(มีแค่นี้เองค่ะ...ม่ายยุ่งยากเลยใช่ม๊า?)
- ปลาทู 5 กิโลกรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 1.5 กิโลกรัม
-เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ (ก็ม่ายยากๆ ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมาใช้ล้วนๆเลยล่ะค่ะ)
1. แกะเอาแต่เนื้อปลาทูแล้วนำมาผสมกับแป้งมันสำปะหลัง
เกลือ น้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. นำเข้าเครื่องบดจนละเอียด
3. นำมาแบ่งเป็นก้อนๆ แล้วกลึงให้เป็นเส้น
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 ซม. ความยาว ประมาณ 25 ซม.
4. นำลงไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที ก็จะได้ตัวข้าวเกรียบปลาสด
5. เมื่อจะกินก็หั่นเป็นแว่นๆ นำไปทอด...
จิ้มกินกับน้ำจิ้มที่ทำได้โดยนำ
พริกสด น้ำตาลทราย กระเทียม และน้ำเปล่าเข้าเครื่องปั่นพอหยาบ
เติมซอสมะเขือเทศ และน้ำส้มสายชูลงไป ชิมรสตามต้องการ
(ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.l3nr.org/posts/488442)
ปัจจุบัน...
หากใครอยากจะกินกือโป๊ะ ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาทำให้มันเสียเวลา
เพราะตอนนี้ เขามีขายทั้งที่เป็นท่อนๆ
พร้อมที่จะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ก่อนนำไปทอด
หรือ หากใครขี้คร้าน
อยากกินแบบไม่ต้องลงมือทอดให้ใบหน้าอันแฉล่มแช่มช้อย
ต้องเยิ้มไปด้วยความมันให้มันเสียสวย
ก็สามารถหาซื้อกือโป๊ะที่เขาทอดขายตามร้านค้าโดยทั่วไป
ตามจังหวัดชายแดนใต้
แถมน้ำจิ้มก็ไม่ต้องลงมือทำเองมีแถมให้พร้อม
แค่ซื้อมา แล้วเอาใส่ปาก เคี้ยวแล้วกลืน
แค่นี้ก็ไม่ยุ่งยากแล้วล่ะค่ะ
ปัจจุบัน กือโป๊ะ ที่เคยเป็นอาหารที่มีเพียงคนในท้องถิ่นกินกัน
ทำเอง ขายเอง ช่วยกันซื้อเอง
จน ณ บัดนาว กือโป๊ะ กลายเป็นอาหารว่างขึ้นห้างไปแล้วเรียบร้อยค่ะ
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- บ้านบาส เวดดิ้ง Banbas Wedding ชุดแต่งงานอิสลาม ปัตตานี
- สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่น่าไปที่สุด พลาดไม่ได้
- ร้านอาหารมุสลิมกรุงเทพ ร้านอาหารมุสลิม
- หนังสือ 6 เล่มที่เด็กไทยควรอ่าน(อิเหนา)
- ปอเนาะ และ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในปาตานี ภายใต้การปกครองของไทย
- มะละกอ ต้านอนุมูลอิสระ
- เมื่อเรือเหาะบินได้สูง10,000 ฟุต
- บ้านเรือนไทยภาคใต้ แบบบ้านเรือนไทยภาคใต้ เรือนไทยภาคใต้ โบราณ ภาพบ้านเรือนไทยภาคใต้