10 ฟังก์ชั่นยอดเยี่ยมบนรถยนต์ปัจจุบัน
ทุกวันนี้ รถยนต์กลายเป็นปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงชีวิตไปแล้ว แต่รถยนต์ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะที่พาเราไปไหนต่อไหนได้เท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราสะดวกสบาย รวมถึงเสริมความปลอดภัยในการเดินทางมากขึ้นด้วย ซึ่งหากถามว่า มีฟังก์ชั่นหรือุปกรณ์ที่น่าสนใจบ้าง ก็ต้องมาดู10 ฟังก์ชั่นบนรถยนต์ที่ใช้งานได้จริงและมีประโยชน์สุด ๆ ที่คัดเลือกโดยเว็บไซต์ kbb.com มาให้คนรักรถได้ทราบกันครับ
ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth

เมื่อเอ่ยถึงบลูทูธ ส่วนมากจะนึกถึงบรรดาแฮนด์ฟรีหรือหูฟังที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน แต่ในรถยนต์นั้น บลูทูธกลับทำงานได้หลากหลายกว่าที่คุณคิด โดยรถยนต์หลาย ๆ รุ่นสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ โดยสั่งการได้ทั้งจากเสียงและปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยได้ ทั้งการส่งข้อความ โทรศัพท์ติดต่อ หรือแม้แต่ควบคุมเพลงโดยไม่ต้องจับโทรศัพท์แม้แต่น้อย ถือว่าปลอดภัยและสะดวกสบายไม่น้อยเลย
ช่องต่อ USB

หากคุณชอบฟังเพลงด้วยคุณภาพเสียงแบบจัดเต็ม ช่องต่อ USB นั้นเหมาะกับคุณเป็นที่สุด เพราะมันสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ได้หลากหลายกว่าบลูทูธ ทั้งเครื่องเล่นเพลงเอ็มพี3 คุณภาพเยี่ยมและสมาร์ทโฟนที่คุ้นเคย แถมยังให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายและช่องต่อ AUX แบบเดิม ๆ ด้วย
ระบบ Smart Entry และ Push Start

2 ฟังก์ชั่นนี้มักมาคู่กันเสมอในรถยนต์ยุคปัจจุบัน โดยช่วยให้คุณสามารถเปิดปิดประตูรถและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจ แถมยังเลือกเปิดประตูรถทุกบานหรือปลดล็อกเฉพาะประตูคนขับก็ได้จากการกดปุ่มบนประตู ช่วยเสริมความปลอดภัยได้มากทีเดียว
แอพพลิเคชั่นบริการข้อมูล

เนื่องจากรถยนต์สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ และสมาร์ทโฟนก็สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา จึงได้คิดค้นระบบอินโฟเทนเมนต์แบบใหม่ที่มาพร้อมแอพพลิเคชั่นบริการด้านข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขับขี่รถยนต์ทั้งข้อมูลสภาพอากาศ ข้อมูลการจราจร วิทยุออนไลน์ ข้อมูลสถานที่ แผนที่ และอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีค่ายรถยนต์อีกมากที่เลือกจะทำระบบเชื่อมต่อข้อมูลบนรถยนต์โดยไม่ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งได้ข้อมูลที่รวดเร็วและมีบริการพิเศษเหนือกว่าสมาร์ทโฟน โดยผู้ใช้จะต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนด้วย
ระบบคำสั่งเสียงที่ง่ายขึ้น

ระบบคำสั่งเสียงมีมานานแล้วในรถยนต์ ซึ่งยังมีข้อเสียทั้งขั้นตอนการใช้งานที่ยุ่งยากและการจับสำเนียงการพูดที่ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน แต่ปัจจุบัน ระบบคำสั่งเสียงถูกพัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก แถมยังไม่แคร์เรื่องสำเนียงการพูดอีกต่อไป อีกทั้งยังเข้าใจคำสั่งในรูปของคำพูดด้วย เช่น จากเดิมอาจต้องสั่งว่า เปิดวิทยุคลื่นหมายเลข 1 แต่ทุกวันนี้ สามารถพูดว่า กลับไปเปิดช่อง 1, เอาวิทยุช่อง 1 หรือ วิทยุช่อง 1 ก็ได้ และในอนาคต ระบบคำสั่งเสียงจะรองรับการทำงานสั่งการแผนที่และฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในรถยนต์ด้วย
รีโมทควบคุมรถยนต์

กุญแจรีโมทซึ่งทำหน้าที่เพียงแค่เปิด-ปิดประตูและสตาร์ทเครื่องยนต์อาจไม่เพียงพอแล้วในปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์จึงได้พัฒนากุญแจรีโมทในรูปแบบแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ซึ่งนอกจากจะใช้เปิดปิดประตูรถได้แล้ว ใช้ควบคุมรถได้มากกว่า ทั้งสั่งสตาร์ทเครื่องจากระยะไกล เปิดและปิดไฟส่องสว่าง เปิดระบบปรับอากาศ แถมสามารถบอกข้อมูลที่จำเป็นได้ ระยะทางที่ขับไป คำนวณน้ำมันที่เหลือ เตือนการเช็กระยะ และทำงานร่วมกับอินโฟเทนเมนต์ได้เป็นอย่างดี
ระบบจับจุดบอดและระบบเตือนสิ่งกีดขวาง

จุดบอดในมุมต่าง ๆ ของรถยนต์เป็นปัจจัยให้เกิดอุบัติเหตุนับร้อย ๆ ครั้งในแต่ละปี บริษัทรถยนต์จึงพัฒนาระบบเตือนที่ใช้เซนเซอร์ตรวจจับรอบคันรถ เกิดเป็นระบบจับจุดบอดที่สามารถเตือนเมื่อมีคนหรือวัตถุเข้ามาในตำแหน่งที่อาจมองได้ไม่ถนัด อย่างตำแหน่งด้านข้างและด้านหลังของรถ ระบบตรวจจับจุดบอดมักมาคู่กับระบบเตือนสิ่งกีดขวาง เพราะใช้เทคโนโลยีเดียวกัน และในบางรุ่นยังมาพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชนด้วย
ระบบรักษาช่องทาง

เป็นเทคโนโลยีตรวจจับช่องทางด้วยสีแบ่งช่องทางบนพื้นถนน ซึ่งจะคอยเตือนเมื่อผู้ขับขี่ขับออกนอกช่องทาง และในรถยนต์หรูบางรุ่น หากผู้ขับขี่พารถออกนอกช่องทางโดยไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวใด ๆ ตัวรถก็จะค่อย ๆ ฝืนพวงมาลัยกลับสู่กลางช่องทางได้เองอัตโนมัติ
ระบบ Telemetics

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนอาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากพอ บริษัทรถยนต์จึงพัฒนาระบบที่เรียกว่า Telemetics ซึ่งเป็นระบบสื่อสารทางไกลที่ออกแบบเพื่อรถยนต์โดยเฉพาะ ระบบ Telemetics จะทำงานร่วมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ทำหน้าที่เชื่อมต่อเพื่อขอดูข้อมูลต่าง ๆ ได้โดยไม่ผ่านระบบสัญญาณจากสมาร์ทโฟน ทำให้มีความสามารถมากกว่าและเป็นอิสระกว่า ทั้งแจ้งข้อมูลอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แจ้งตำแหน่งเมื่อรถยนต์ถูกขโมยหรือใช้งานโดยไม่พึงประสงค์ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้มากทีเดียว
Adaptive Cruise Control กับ Pre-Collision System

ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือ Cruise Control เป็นระบบที่อยู่คู่รถยนต์นานกว่า 10 ปี แต่กลับเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบติเหตุอย่างไม่คาดคิด จึงได้ทำการปรับปรุงระบบดังกล่าวให้สามารถปรับความเร็วได้โดยมากขึ้น พร้อมกับเสริมระบบป้องกันการชนเข้าไปด้วย โดยระบบนี้จะทำงานร่วมกับเรดาร์และกล้องส่องรถคอยเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีวัตถุหรือคนเข้ามาในระยะ และอาจเบรกรถอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าฉุกเฉิน ช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับฟังก์ชั่นการทำงานเด็ด ๆ ทั้งหมดที่มีในรถยนต์ปัจจุบันซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรถระดับไฮเอนด์ แต่ในอนาคตจะทำให้เทคโนโลยีถูกลงและอาจกลายอุปกณ์พื้นฐานที่มีอยู่ในรถยนต์ทุกรุ่น เพื่อเสริมความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งานครับ