นอนอยู่บ้านสบายๆตากแอร์อยู่ดีๆ แอร์ก็ไม่เย็นซะงั้น ยิ่งช่วงนี้เป็นฤดูร้อนด้วยแล้วอาจจะละลายกันได้เลยถ้าหากแอร์ไม่เย็น สาเหตุเกิดจากอะไรนั้นมีด้วยกันหลายองค์ประกอบที่บรรดาแม่บ้านทั้งหลายรวมไปถึงคนอยู่อาศัยในบ้านก้อต้องช่วยกันตรวจตรา
นอนอยู่บ้านสบายๆตากแอร์อยู่ดีๆ แอร์ก็ไม่เย็นซะงั้น ยิ่งช่วงนี้เป็นฤดูร้อนด้วยแล้วอาจจะละลายกันได้เลยถ้าหากแอร์ไม่เย็น สาเหตุเกิดจากอะไรนั้นมีด้วยกันหลายองค์ประกอบที่บรรดาแม่บ้านทั้งหลายรวมไปถึงคนอยู่อาศัยในบ้านก้อต้องช่วยกันตรวจตรา แต่ก่อนที่จะเรียกช่างมาดูไม่ให้เสียตังค์ไปแบบง่ายๆ เรามาดูกันก่อนว่าเกิดจากอะไร ซึ่งจะต้องดูอะไรบ้างนั้นมาดูกัน
ขั้นตอนการตรวจเช็คแอร์เมื่อแอร์ไม่เย็น
ตรวจเช็คสภาพการทำงานของระบบแอร์บ้านว่าปกติหรือไม่ เช่นเมื่อเปิดรีโมทแอร์ให้ตรวจเช็คไฟแสดงการทำงานถูกต้องไหม การทำงานของแอร์ต้องอยู่ในโหมดคูล(cool)ต้องไม่อยู่ในระบบพัดลม(Fan) รวมไปถึงไฟแสดงการทำงานของคอมเพรสเชอร์(คอยล์ร้อนหรือคอนเด็นชิ่งที่อยู่ด้านนอก)แสดงการทำงานหรือไม่ หากไฟไม่แสดงการทำงานของคอมเพรสเชอร์ปัญหาก็เกิดจากคอยล์ร้อนที่อยู่ด้านนอก นั่นคือ คอนเด็นชิ่งที่อยู่ด้านนอกไม่ทำงาน อาจเกิดจาก สายไฟขาด หนูกัดสายไฟ หรือไม่ก็ตัวคอมเพรสเชอร์มีปัญหา ปัญหานี้ต้องเรียกช่าง
แต่ถ้าไฟแสดงการทำงานของคอมเพรสเชอร์โชว์ปกติแต่แอร์ไม่เย็น เย็นไม่ฉ่ำ เมื่อตรวจสอบคอยล์ร้อนด้านนอกก็ทำงานปกติ(ให้ฟังจากเสียงการทำงานของพัดลม) สาเหตุที่แอร์ไม่เย็น เย็นไม่ฉ่ำอาจเกิดจาก แอร์สกปก น้ำยาแอร์ขาด ปัญหานี้เรียกช่างเช่นกัน
เมื่อเรียกช่างแอร์มาแล้ว ถ้าแอร์ตัวนั้นไม่ได้ล้างทำความสะอาดใหญ่มานานเกิน6เดือน ก็ควรให้ช่างแอร์ล้างใหญ่ไปพร้อมกับตรวจเช็คสภาพแอร์ไปด้วย แต่ถ้าเพิ่งล้างแอร์ไปไม่ถึง3เดือนและล้างฟิลเตอร์ทุกสองสัปดาห์ ก็ควรให้ช่างเข้ามาตรวจเช็คว่าสาเหตุเกิดจากอะไรหากช่างบอกว่า ตรวจพบแล้วแอร์สกปกติ สกปกติจริงไหม? ถ้าเรามั่นใจว่าไม่ใช่ก็ต้องบอกเขาว่าพึ่งล้างไปไม่นานนี้เอง แต่ก็อย่างว่าบางทีบางคนก็ล้างแอร์ไม่ค่อยสะอาด ถ้าช่างบอกว่ามันสกปกจริง ลองเอามืออังลมดูค่ะ ลมไม่ค่อยแรง เสียงอื้อๆ ก็ควรให้เขาล้าง ค่าล้างแอร์400-500 บาท (ก่อนจะให้ล้างแอร์ควรให้ช่างเช็คน้ำยาแอร์ด้วยนะคะว่าปกติไหม หากน้ำยาขาดก็ควรเติมให้เบ็ดเสร็จไปเลย)
นอกจากนี้หากช่างบอกว่าน้ำยาแอร์ขาด หากน้ำยาแอร์ขาดก็ต้องแสดงให้เห็นว่าขาดเท่าไหร่ โดยดูได้ที่เครื่องมือตรวจวัดของช่าง ที่เรียกว่า เกจวัดค่าแรงดัน และตัองวัดขณะที่เครื่อง(คอมเพรสเชอร์)กำลังเดินหรือทำงานอยู่ ไม่ใชตรวจวัดค่าตอนคอมเพรสเชอร์ไม่ได้ทำงาน เกจมันจะบอกค่าว่า ขณะที่คอมเพรสเชอร์ทำงานปกติระดับน้ำยามีแรงดันอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งหากตัวเลขบอกว่า 65-80 ก็ไม่ใช่สาเหตุของแอร์ไม่เย็น
และหากพบว่าน้ำยาแอร์ขาดจริงและขาดมาก ถามต่อว่าทำไมน้ำยาแอร์ขาด มันรั่วตรงไหน พบเห็นร่องรอยไหม จุดไหนที่เสี่ยงในการรั่ว หรือระบบในท่อน้ำยาอุดตัน หากพบร่องรอยการรั่วซึมก็ควรซ่อมเพราะหากเติมน้ำยาเข้าไปก็จะรั่วหายไปอีกเช่นกัน(เย็นได้ไม่นาน) หากการรั่วซึมที่ไม่พบร่องรอยก็ต้องลองให้เติมและกำชับช่างให้ปิดวาล์วลูกศรให้ดี อาจต้องเปลี่ยนหัวจุกศรใหม่ หากเติมแล้วใช้ได้ไม่กี่วันแล้วแสดงอาการไม่เย็น เย็นไม่ฉ่ำออกมา ก็ต้องเรียกช่างมาซ่อม เช็คให้ละเอียดอีกทีว่า น้ำยาที่เติมขาดหายไปไหม หากขาดหายก็ต้องหารอยรั่วให้เจอ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของช่างด้วยค่ะ