ทำไมน้ำหอมกลิ่นถึงเปลี่ยนไป?
ทำไมน้ำหอมกลิ่นถึงเปลี่ยนไป?
โดยปกติแล้ว สูตรของน้ำหอม ในแต่ละแบรนด์ จะถูกเก็บเป็นความลับ ถ้าไม่ใช่น้ำหอม รุ่นที่ขายดีในตลาดแล้วล่ะก็ มีความเป็นไปได้ว่า ทางบริษัทผู้ผลิต จะมีการเปลี่ยนแปลง สูตรน้ำหอมเล็กๆ น้อยๆ ให้ตรงกับความต้องการ ของตลาดมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ Package ด้านนอกจะเหมือนเดิม แต่กลิ่นด้านในอาจจะไม่ใช่ก็ได้ค่ะ
1. โอ เดอ ทอยเล็ตต์ (Eau de Toilette)หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าน้ำหอมแบ่งตามความเข้มข้นได้เป็น3ระดับด้วยกัน คือ โอเดอ เพอร์ฟูม(Eau de Parfum) โอ เดอ ทอยเล็ตต์ (Eau de Toilette) และโอ เดอ โคโลญจน์ (Eau de Colonge) เรียงจากความเข้มข้นมากไปน้อย เพราะฉะนั้นถึงแม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน แต่ความเข้มข้นต่างกันก็จะได้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไป
2. ซื้อมาจากคนละที่กันแน่นอนว่าน้ำหอมที่มีขายอยู่ทั่วทุกมุมโลก ก็มียอดขายที่แตกต่างกัน สมมติว่าซื้อน้ำหอมมาจากประเทศในแถบเอเชีย กลิ่นก็อาจมีความแตกต่างกับซื้อที่ประเทศในแถบยุโรป เพราะฉะนั้นก่อนที่จะซื้อฝากใครซื้อน้ำหอมจากดิวตี้ฟรี ก็ต้องระบุให้ชัดเจนซักหน่อยนะคะ
3. รุ่นลิมิเต็ด (Limited Edition)หลายคนคงลืมสังเกตจุดนี้ไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อของผ่านทางเวปไซต์ หรือ Online shopping ร้านค้าออนไลน์เองก็อาจไม่ได้คำนึงถึงสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น น้ำหอมที่ออกมาในช่วงเทศกาลต่างๆก็มักจะมีความแตกต่าง แต่คนส่วนใหญ่จะสนใจแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามแปลกตาจนไม่ได้สนใจว่าด้านในจะมีกลิ่นเหมือนเดิมรึเปล่า
4. น้ำหอมเก่า
ถ้าเดินไปเจอน้ำหอมที่มีป้ายลดราคาอยู่ อย่าเพิ่งรีบซื้อจนกว่าจะตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าน้ำหอมที่วางขายอยู่นั้นผลิตตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ามั่นใจในประสาทรับกลิ่นที่แม่นยำของตัวเอง เมื่อตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่าน้ำหอมที่ซื้อมานั้นมีกลิ่นไม่เหมือนที่เคยซื้อ ก็อย่างมัวลังเลให้รีบเอาไปคืนคนขายเลยนะคะ
5. ไม่อยู่ในสถาพที่ดีเมื่อซื้อน้ำหอมมาแล้วพบว่าขวดน้ำหอมอยู่ในสภาพที่รู้สึกว่าเคยถูกเปิดมาก่อน ให้รีบเอาไปคืนที่เคาเตอร์ทันที
6. น้ำหอมปลอมนี่ก็เป็นอีกปัญหาที่เรามักจะพบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร้านค้าออนไลน์ที่ไม่มีที่ตั้งที่แน่นอน ถ้าพบน้ำหอมที่คุณต้องการในราคาที่ถูกผิดปกติ ก็อย่าเพิ่งรีบดีใจไปนะคะ เพราะนั่นอาจจะเป็นน้ำหอมปลอมก็ได้ แต่ถ้าหลวมตัวซื้อมาแล้วก็อย่านิ่งเฉยไป ควรจะออกมาตำหนิร้านค้านั้นๆ ถือว่าเป็นการช่วยเตือนลูกค้าท่านอื่นๆไม่ให้หลงซื้อของปลอมแบบนี้อีกค่ะ
7. สินค้าไม่ได้มาตรฐานแน่นอนว่าแบรนด์ชั้นนำก็ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่เข้มงวด ก่อนส่งออกจำหน่ายในตลาด แต่ก็ใช่ว่าความผิดพลาดจะเกิดขึ้นไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีการรั่วซึมหรือรอยแตกร้าว ถ้าเจอเมื่อไหร่ก็อย่าลืมเอาไปคืนที่เคาเตอร์ของบริษัทนะคะ เพื่อให้ทางบริษัทเข้มงวดกับสินค้าที่ปล่อยออกมาในตลาดมากยิ่งขึ้น