ซื้อ ยาปฏิชีวนะ กินเอง เสี่ยงดื้อยา แพ้ยารุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต


1,381 ผู้ชม

อภ.เตือนคนไทย ที่นิยมซื้อ ยาปฏิชีวนะ มากินเอง เกินจำเป็น เสี่ยงต่อการดื้อยาสูง หรืออาจแพ้ยา  ขั้นรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ 


อภ.เตือนคนไทย ที่นิยมซื้อ ยาปฏิชีวนะ มากินเอง เกินจำเป็น เสี่ยงต่อการดื้อยาสูง หรืออาจแพ้ยา  ขั้นรุนแรงถึงเสียชีวิตได้  และยังเป็นการเพิ่ม ยาปฏิชีวนะ เข้าสู่ร่างกายโดยเปล่าประโยชน์ แถมโรคที่เป็นก็ไม่หาย แนะต้องกินยาอย่างถูกวิธี ต่อเนื่องจนครบและซื้อยาจากร้านที่มีเภสัชกรประจำร้านที่ให้คำแนะนำเท่านั้น

เภสัชกรหญิงนิภาพร ชาตะวิริยะพันธ์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ประชาชนไทยนิยมซื้อยาเกินเองร้อยละ 15 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยกิน ยาปฏิชีวนะ มากถึง 20% ของยาทั้งหมด  การใช้ ยาปฏิชีวนะ ของคนไทยในปัจจุบันนี้พบว่านิยมซื้อยากินเองจากร้านขายยาใกล้บ้าน  เพื่อหลีกเลี่ยงการไปพบแพทย์ และผู้ป่วยมักหาซื้อ ยาปฏิชีวนะ ได้ง่าย ทั้งที่ตามพระราชบัญญัติยาได้กำหนดไว้ว่า ยาปฏิชีวนะ ถือเป็นยาอันตรายที่จะจำหน่ายได้เฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันภายใต้การควบคุมของเภสัชกรและเป็นผู้จ่ายยาให้เท่านั้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่ทราบถึงความจำเป็นในการใช้ยา หรืออันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้อง อาจเป็นเพราะไม่ได้รับคำแนะนำหรือการซักถามอาการเบื้องต้นจากเภสัชกรประจำร้านยา  เนื่องจากไม่มีเภสัชกรประจำร้านในขณะที่ซื้อยาหรือไม่มีเภสัชกรประจำร้านยานั้นๆ อยู่เลย

รองผู้อำนวยการ กล่าวต่อไปว่า  ถ้าผู้ป่วยกิน ยาปฏิชีวนะ ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบตามขนาดและจำนวนที่กำหนดไว้ จะส่งผลทำให้มีเชื้อแบคทีเรียหลงเหลืออยู่และเพิ่มจำนวนขึ้นจนกลับมาเป็นใหม่ได้ ส่งผลให้เชื้อดื้อยาได้ ทำให้ต้องกินยาที่มีความแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสุดท้าย อาจจะไม่มียาชนิดใดฆ่าหรือต้านเชื้อได้ และที่อันตรายที่สุดของ ยาปฏิชีวนะ คือการแพ้ยา อาการแพ้ยาที่พบผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการใจสั่น แน่นหน้าอก หายใจติดขัด บางรายอาจเกิดผื่นแพ้ที่ผิวหนังถึงขั้นรุนแรงหรือที่เรียกว่า สตีเว้น จอนสัน ซินโดรม (Stevens-Johnson Syndrome)  ซึ่งถ้าส่งแพทย์ทำการรักษาไม่ทันอาจอันตรายถึงเสียชีวิตได้

ซื้อ ยาปฏิชีวนะ กินเอง เสี่ยงดื้อยา แพ้ยารุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ยาปฏิชีวนะ เป็นยาที่ใช้ยับยั้ง ฆ่า และหรือต้านทานเชื้อแบคทีเรีย ปัจจุบันมีอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน อาทิ  ยากลุ่มเพนิซิลลิน ยากลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ เตตราไซคลีน หรือยากลุ่มซัลฟา เป็นต้น หลักสำคัญของการใช้ ยาปฏิชีวนะ คือ ต้องมีการคัดกรองประวัติการแพ้ยาของผู้ป่วย และต้องเลือกใช้ยาให้เหมาะสม ตรงกับชนิดของโรคที่จะรักษา  เช่น กรณีที่ป่วยเป็นไข้หวัด มีอาการปวดหัว ตัวร้อน น้ำมูกไหล และเจ็บคอ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคิดว่าคออักเสบติดเชื้อ แล้วไปหาซื้อยาแก้อักเสบมากินเอง  แต่การกินยาแก้อักเสบนี้กลับเป็นการเพิ่ม ยาปฏิชีวนะ เข้าสู่ร่างกายโดยเปล่าประโยชน์ เพราะการเจ็บคอจากไข้หวัดนั้นมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสไม่ใช่เชื้อแบคทีเรียอย่างที่สรรพคุณยาสามารถฆ่าเชื้อได้ ต่างจากอาการเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย  อาทิ  โรคทอนซิลอักเสบเป็นหนอง มีเสมหะสีเขียวข้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ ยาปฏิชีวนะ

ดังนั้นหากคิดจะใช้ ยาปฏิชีวนะ ทางที่ดีก็ควรจะปรึกษาแพทย์ ไม่ควรซื้อยากินเองอย่างพร่ำเพรื่อ  ที่สำคัญถ้าจำเป็นจะต้องซื้อ ยาปฏิชีวนะ กินเองควรซื้อยาจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรประจำร้านคอยให้คำแนะนำต่างๆแก่ท่าน  นอกจากนั้นเภสัชกรจะยังทำหน้าที่ช่วยคัดกรองผู้ป่วยในกรณีที่เห็นว่าไม่สามารถรักษาอาการเบื้องต้นได้ เภสัชกร จะส่งผู้ป่วยให้แพทย์ทำการรักษาต่อไป

 

อัพเดทล่าสุด