คุณรู้หรือไม่ ทำไมปิดสวิทช์ปลั๊กพ่วงแล้ว แต่ยังเหมือนมีไฟอ่อนๆไหลอยู่

คุณรู้หรือไม่ ทำไมปิดสวิทช์ปลั๊กพ่วงแล้ว แต่ยังเหมือนมีไฟอ่อนๆไหลอยู่

เคยเป็นหรือไม่ เวลาที่เราปิดสวิทช์รางปลั๊กไฟพ่วงแล้ว ไฟสีแดงบนรางปลั๊กไฟก็ดับแล้ว แต่ทำไมยังเหมือนกับว่ามีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆไหลออกมาอยู่ เวลาเอามือไปแตะอุปกรณ์ตรงที่เป็นโลหะ ก็เหมือนกับยังมีไฟออกมาช็อตเราได้อยู่ แล้วมีวิธีแก้ไขหรือไม่

ปกติแล้วสายไฟฟ้าจะมีอยู่ 2 เส้น (ไม่นับสายดิน) คือเส้นที่มีไฟฟ้า (L) และ เส้นที่ไม่มีไฟฟ้า (N) สายเส้นนี้ใช้อ้างอิงทางแรงดันกับสายเส้นอื่นๆ และใช้เป็นทางไหลกลับของกระแส
หลักการตัดไฟของรางปลั๊กไฟพ่วงแบบมีสวิทช์นั้น ส่วนมากเขาจะออกแบบมาให้ตัดไฟเพียงเส้นเดียว ซึ่งก็เพียงพอที่ทำให้ไฟฟ้าไม่ครบวงจร และทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้านำไฟฟ้าไปใช้ไม่ได้ (ดูในรูปประกอบ)
ดังนั้นถ้าจะให้ถูกต้อง เราต้องให้มันตัดไปถูกเส้น L ซึ่งมีไฟฟ้า แต่ถ้าเราเผอิญไปทำให้มันตัดเส้น N ก็จะทำให้ไฟสีแดงบนรางปลั๊กดับ และอุปกรณ์ไฟฟ้าดึงไฟฟ้าไปใช้ไม่ได้เหมือนกัน แต่จะยังมีไฟฟ้าไหลออกมาจากปลั๊กได้อยู่

สาเหตุที่ปิดสวิทช์ปลั๊กพ่วงแล้ว แต่ยังเหมือนมีไฟอ่อนๆไหลอยู่

ก็เพราะสวิทช์ของปลั๊กไฟพ่วงมันดันไปตัดสาย N ดังที่กล่าวมาข้างต้น (แทนที่จะเป็นสาย L) สาเหตุก็เพราะตอนเราเสียบหัวปลั๊กไฟของรางปลั๊กไฟพ่วง เข้ากับเต้ารับไฟฟ้าบ้านนั้น เราเสียบกลับขานั้นเอง (ขาหัวปลั๊กมี 2 ขา เราเสียบสลับขา)

วิธีแก้ไข

ก็เพียงเราถอดหัวปลั๊กของรางปลั๊กไฟพ่วงออกมาก่อน แล้วกลับข้าง แล้วเสียบลงไปใหม่ แค่นี้เองครับ

*** วิธีการตรวจสอบว่าเพื่อจะได้แน่ใจว่ารูเสียบบนเต้ารับไฟฟ้า รูไหนเป็นรูที่จ่ายไฟ (สาย L) เราควรใช้ไขควงเช็คไฟในการตรวจสอบ อันละไม่กี่สิบบาท หาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุไฟฟ้าทั่วไป