6 ข้อต้องห้ามในการซักผ้าปูที่นอน ที่ไม่ควรทำอย่างแรง !


4,488 ผู้ชม


6 ข้อต้องห้ามในการซักผ้าปูที่นอน ที่ไม่ควรทำอย่างแรง !


           มาเปิดโปงการซักผ้าปูที่นอนแบบผิด ๆ ให้แม่บ้านได้กระจ่างแจ้งกันไปเลย พร้อมกับวิธีแก้ไขที่ถูกต้องและควรทำมากกว่า จะเป็นอย่างไรนั้นต้องไปดูกันเลย

           ล้านคำอ้างต่าง ๆ นานา ที่เขาว่าทำอย่างนั้นถึงจะสะอาดจริง อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป และอย่าหลงเชื่อจนเกินพอดี ถ้ายังไม่แน่ใจว่าการซักผ้าปูที่นอนแบบไหนถึงจะถูกต้องอย่างแท้จริง แต่ก่อนจะเรียนรู้วิธีที่ถูกต้อง ก็มาดูความเชื่อผิด ๆ ที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดกันก่อน พร้อมกับวิธีซักผ้าปูที่นอนที่ถูกต้อง ให้คุณแม่บ้านที่เคยหลงทำผิดไปได้แก้ตัวใหม่กันด้วยค่ะ

1. แช่ผ้าปูที่นอนในน้ำผงซักฟอกไว้นานเกิน
          แม้ว่าผ้าปูที่นอนจะไม่มีคราบหนัก ๆ เท่ากับชุดออกกำลังกาย แต่ก่อนที่จะซักผ้าปูที่นอนในแต่ละสัปดาห์นั้น เราจึงต้องแช่ผ้าปูในน้ำผงซักฟอกประมาณ 5-10 นาที ก่อนซักทุกครั้ง เพื่อให้คราบอ่อนตัวและง่ายต่อการซัก ที่สำคัญไม่ควรแช่ทิ้งไว้ข้ามวันข้ามคืน เพราะถ้าแช่ผ้านานเกินไป เนื้อผ้าที่เคยมีสัมผัสนุ่มเบาสบาย ก็จะโดนทำลายไปพร้อมกับคราบนั่นเอง
2. ลืมซักคราบหนักเฉพาะจุดก่อน
          ทั้งผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือผ้าห่มที่ใช้มาเกิน 1 สัปดาห์ ล้วนแต่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งคราบน้ำลายบูด ดังนั้นก่อนลงมือซักอย่างจริงจัง ควรตรวจหาจุดคราบหนักเพื่อซักส่วนนั้นให้ออกซะก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าซักรวมไปเลย คราบที่ว่าสกปรกสุด ๆ ก็จะหลุดไปเพียงนิดเดียว

3. ปั่นผ้าปูที่นอนรวมกับผ้ากองโต
          ขอออกตัวแรง ๆ เลยว่า ห้ามโดยเด็ดขาด เพราะการนำผ้าปูที่นอนไปซักรวมกับผ้ากองโตนั้นจะทำให้ผ้าไม่สะอาดแบบหมดจด แถมยังทำลายเนื้อผ้าปูที่นอนให้เสียหายจากบรรดาซิป ตะขอ และกระดุมที่ไปขีดข่วน ให้แยกชุดเครื่องนอนออกไปซักต่างหากจะดีกว่า
4. ปรับระดับการซักให้แรงสุด
          ถึงผ้าปูที่นอนจะสกปรกขนาดไหน ก็ไม่จำเป็นจะต้องตั้งค่าระดับการซักแบบแรงสุด เพราะเนื้อผ้าปูที่นอนไม่ได้หนาเหมือนผ้ายีนส์ ถ้าขืนซักไปผ้าจะต้องสูญเสียความอ่อนนุ่มไปแน่ ๆ ดังนั้นแนะนำให้ตั้งค่าเครื่องซักในระดับปานกลางหรือต่ำกว่านั้น และใช้น้ำร้อนในการซัก เพื่อฆ่าเชื้อโรคไปในคราวเดียวกัน แล้วผ้าก็จะสะอาดกว่าการปั่นผ้าแรง ๆ เยอะเลย

5. ปั่นแห้งนาน ๆ เพราะผ้าปูที่นอนผืนใหญ่
          ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของผ้าปูที่นอน ทำให้แม่บ้านหลายท่านคิดผิดในการตั้งเวลาปั่นแห้งนาน เพราะอยากให้ผ้าแห้งทั้งผืน แต่หารู้ไม่ว่าผ้าจะหดตัวเอาได้ แค่ปั่นแห้งไม่ให้น้ำหยดก็พอแล้ว จากนั้นนำไปตาก แต่อย่าให้โดนแดดโดยตรงเท่านั้นเอง

6. ปั่นแห้งผ้าปูที่นอนรวมกับผ้าขนหนูเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ขอยืนยันคำเดิมว่า ควรซักชุดเครื่องนอนแยกจากผ้าทุกชนิด ยิ่งผ้าขนหนูด้วยแล้วยิ่งไม่ควรเข้าไปใหญ่ เพราะผ้าปูที่นอนจะแห้งเร็วกว่า แต่ผ้าขนหนูแห้งช้า จึงทำให้ต้องใช้เวลานานในการปั่น ถ้าจำเป็นต้องปั่นรวมให้โยนผ้าคอตตอนเนื้อบางเบาลงไปปั่นด้วย แต่ถ้าจะให้ดีจริง ๆ ก็ไม่ควรซักรวมโดยเด็ดขาดค่ะ
          สำหรับใครที่เคยทำผิดพลาดไปแล้วก็ไม่ต้องตกใจไป แค่ลงมือแก้ไขซะใหม่ ทำตามคำแนะนำดี ๆ ที่เราเอามาฝากไว้ เท่านี้คุณก็จะได้ซุกตัวนอนอยู่บนผ้าปูนุ่ม ๆ ไปอีกนานแสนนาน

อัพเดทล่าสุด