ปัญหาของคนมีรถ นอกจากจะต้องดูแลรักษาให้ดี ต้องตรวจเช็กระยะตามกำหนด เปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ (ยาง ผ้าเบรก ฯลฯ) ทุกครั้งที่มันหมดอายุการใช้งาน ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาจำเป็นต้องใช้เงินทั้งสิ้น...
ปัญหาของคนมีรถ นอกจากจะต้องดูแลรักษาให้ดี ต้องตรวจเช็กระยะตามกำหนด เปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ (ยาง ผ้าเบรก ฯลฯ) ทุกครั้งที่มันหมดอายุการใช้งาน ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาจำเป็นต้องใช้เงินทั้งสิ้น
หากมองดูแล้วเห็นว่ามันจำเป็น ยังไงก็ต้องเสีย ก็คงไม่เสียดายเท่าไหร่ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นเพราะสิ่งอื่น เราไม่ได้ทำมันพังเอง เช่น หนูเข้ามากัดสายไฟรถยนต์ มันก็น่าหงุดหงิด และไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมาเสียเงินซ่อมด้วยซ้ำ เผลอๆ หากอาการหนักมากๆ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือไฟไหม้รถได้ ฯลฯ
ดังนั้นหากไม่อยากให้หนูเข้ามาทำความเสียหายรถยนต์ของคุณ ลองมาดูวิธีเหล่านี้ เพราะมันอาจช่วยคุณได้
1. เลี้ยงแมว หรือสุนัข ถือเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ไม่ยาก เพื่อเอาไว้ช่วยไล่จับหนู
2. เปิดฝากระโปรงรถทิ้งไว้ เมื่อจอดในบ้าน หรือโรงรถส่วนตัว (ไม่แนะนำให้ทำในที่จอดสาธารณะ)
3. เช็ดล้าง ทำความสะอาดห้องเครื่อง จะทำเอง หรือจ้างร้านทำก็ได้
4. ใช้ลูกเหม็น หรือการบูร โดยนำมันไปไว้ในถุงตาข่าย ผ้าขาวบาง หรือขวดพลาสติกเจาะรู จากนั้นจึงนำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ
5. กับดักหนู กาวดักหนู หรือยาเบื่อ ให้นำไปวางไว้ตามทางที่หนูชอบเดินผ่าน
6. เครื่องไล่หนู หรือสเปรย์ฉีดไล่หนู
7. ใช้น้ำผสมกับพริกป่น ใส่ในกระบอกฉีดน้ำ (เช่น กระบอกฉีดน้ำยารีดผ้า) จากนั้นฉีดให้ทั่วบริเวณที่หนูชอบเข้ามา
8. ปิดใต้ท้องรถให้สนิท ไม่ให้หนูเข้าไปได้ด้วยแผ่นปิดใต้ท้องรถ มีทั้งแบบพลาสติก และแบบเหล็กให้เลือก
9. เปลี่ยนที่จอดรถ หากทุกวิธีที่กล่าวมาไม่ได้ผล การย้ายที่จอดคงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อหลีกหนีให้พ้นจากเจ้าหนูตัวปัญหา (ข้อนี้คุณต้องสะดวกในการหาที่จอดใหม่ด้วย)
หากคุณไม่อยากให้หนูกลับมารบกวน คุณต้องอดทน และหมั่นปฏิบัติตามวิธีที่คุณเลือกทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นมันอาจกลับมาสร้างความรำคาญใจให้คุณได้อีก นอกจากนี้มันอาจเป็นสาเหตุทำให้รถพัง เครื่องยนต์เสียหาย ท่อน้ำมันขาด ไฟช๊อต ฯลฯ ซึ่งมันอันตรายมาก หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกลางทาง และถ้าร้ายแรงมากๆ อาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
ที่มา sanook.com