แทบร้องไห้!! เมื่อสองแม่ลูกยากจนอุตส่าเก็บเงินไปกินบะหมี่ แต่สิ่งที่เจ้าของร้านทำกลับมา ทำให้พวกเขาไม่มีวันลืมเรื่องนี้
ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
แทบร้องไห้!! เมื่อสองแม่ลูกยากจนอุตส่าเก็บเงินไปกินบะหมี่ แต่สิ่งที่เจ้าของร้านทำกลับมา ทำให้พวกเขาไม่มีวันลืมเรื่องนี้
เมื่อสองแม่ลูกยากจนอุตส่าเก็บเงินไปกินบะหมี่ แต่สิ่งที่เจ้าของร้านทำกลับมา
คนเราเกิดมาด้วยพื้นฐานที่ไม่เท่าเทียมกัน บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง มีทรัพย์สมบัติให้ความสุขสบาย บางคนเกิดมาบนความยากลำบาก ทุกข์เข็ญ ไม่มีแม้แต่โอกาสดีๆในหลายๆเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคน ทุกฐานะควรมี คือความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ดังเช่นเรื่องราวนี้
สองแม่ลูกที่น่าสงสารคู่นี้พากันมากินบะหมี่ที่ร้านข้างทาง พวกเขามีเงินพอแค่สั่งบะหมี่ชามเดียวมาแบ่งกันกิน ด้วยความที่แต่งตัวสกปรก ทำให้คนในร้านพากันรังเกียจ
ลูก : แม่ครับ แม่กินก่อนสิครับ
แม่ : ลูกกินก่อนเลย แม่ไม่หิว
ลูกจึงตักบะหมี่ในชามกิน
แม่ : ลูกกินเส้นให้หมดเลยไม่ต้องเหลือให้แม่ แม่แค่คอแห้งเท่านั้น
ลูก : งั้นแม่กินซุปที่เหลือนี้นะครับ
หลังจากแม่ซดน้ำซุปในชามจนหมด สองแม่ลูกหยิบเอาเศษเหรียญในห่อผ้าเดินไปจ่ายเงินกับเจ้าของร้าน
เจ้าของร้าน : ยินดีด้วย คุณคือผู้โชคดี วันนี้ร้านเรามีกิจกรรมพิเศษ จับฉลากกินฟรี
เจ้าของร้านทำบะหมี่แล้วยื่นให้สองแม่ลูก ทั้งสองดีใจมาก รีบขอบคุณแล้วรับชามบะหมี่มา ลูกชายกินอิ่มแล้วจึงบอกให้แม่กินเถอะ แม่กินบะหมี่จนหมดชาม จากนั้นสองแม่ลูกก็พากันกลับบ้านอย่างมีความสุข
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเด็กชายคนนี้กลับมาที่ร้าน เดินเข้ามาถามเจ้าของร้าน
เด็กชาย : ลุงครับ วันนี้ที่ร้านมีจับฉลากไหมครับ
เจ้าของร้าน : อ้อ เจ้าหนูนี่เอง มีสิๆ กำลังจะจับฉลากอยู่พอดีเลย
สักพักเจ้าของร้านเดินไปหาหญิงสาวคนหนึ่งที่มากินคนเดียว บอกให้เธอช่วยทำเป็นถูกรางวัลแล้วเอาบะหมี่ให้เด็กชายกิน เพราะเขาไม่อยากทำให้เด็กชายรู้
เจ้าของร้าน : ผู้โชคดีวันนี้คือ โต๊ะห้า หญิงสาวคนนี้รับไปเลยบะหมี่หนึ่งชาม !
หญิงสาว : ดีจริงๆเลย แต่ว่าฉันอิ่มแล้ว ฉันขอเอาชามใหม่ให้กับหนูคนนี้แทนได้ไหม หนูจ้ะ พี่อิ่มแล้วช่วยกินแทนพี่หน่อยนะคะ
เด็กชายยิ้มดีใจ แล้วรีบขอบคุณยกใหญ่ที่พี่สาวใจดียกบะหมี่ให้กิน เจ้าของร้านเห็นก็เข้าไปคุยกับเด็กชาย
เจ้าของร้าน : แม่ไปไหนหนู วันนี้ทำไมมาคนเดียว
เด็กชาย : แม่ไม่สบาย นอนอยู่ที่บ้าน
เจ้าของร้าน : แล้วใครดูแลแม่จ้ะ
เด็กชาย : ไม่มีครับ ผมอยู่กับแม่สองคน ตอนนี้แม่ไม่สบายทำงานไม่ไหว ผมเลยออกมาหางานทำ
เจ้าของร้าน : แล้วแม่ทำงานไหม
เด็กชาย : ตอนนี้แม่ไม่สบายทำงานไม่ไหว ผมเลยออกมาหางานทำ
เจ้าของร้าน : หนูจะหางานอะไรทำ อายุก็แค่นี้
เด็กชาย : ก็ทำทุกอย่างครับ ผมรับจ้างเฝ้าร้านขายของริมถนนอยู่ครับ
เจ้าของร้าน : งั้นมาช่วยงานที่ร้านบะหมี่ไหม งานไม่หนัก แล้วมีบะหมี่ให้หนูกิน และยังเอากลับไปฝากแม่ได้ด้วย
เด็กชาย : จริงหรือครับ ผมจะตั้งใจทำงานนะครับ สั่งมาเลยผมทำได้ทุกอย่าง
จากวันนั้นร้านบะหมี่ของลุงก็จะมีเด็กชายวัยแปดขวบ คอยเฝ้าเช็ดถูทำความสะอาด เก็บจานชามอย่างขยันขันแข็งตลอด ทำเอาคนผ่านไปมาต่างก็ชื่นชมในความขยันและกตัญญูของเด็กชายคนนี้
เชื่อว่าน้องมีจิตใจที่ดี มีความกตัญญูและยังเป็นคนขยัน หนักเอาเบาสู้ตั้งแต่เด็กแบบนี้ โตไปไม่ลำบากแน่นอน ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยคนดีๆแบบนี้ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นในเร็ววัน !
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :siamdrama.com