ช่วงตั้งครรภ์มีอาการไอ กินยาแก้ไอได้ไหม ตั้งครรภ์กินยาอะไรได้บ้าง


1,443 ผู้ชม

ช่วงนี้สภาพอากาศบ้านเรานั้นแปรปรวนเป็นว่าเล่น เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก จนคุณแม่ตั้งครรภ์


ช่วงนี้สภาพอากาศบ้านเรานั้นแปรปรวนเป็นว่าเล่น เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก จนคุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย ๆ บางรายมีอาการไอเจ็บคอร่วมด้วย ทำเอาคุณแม่เกิดความกังวลว่าขณะตั้งครรภ์จะสามารถกินยาแก้ไอชนิดใดได้บ้าง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ และควรกินอะไรถึงจะหายไอ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอพาทุกคนไปไขข้อข้องใจกันว่าคนท้องกินยาแก้ไอได้ไหม และควรกินยาหรือสมุนไพรแบบใด จึงจะช่วยรักษาอาการไอให้หายเป็นปลิดทิ้งได้บ้าง

เป็นที่ทราบกันดีว่าการใช้ยาในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่เหล่าว่าที่คุณแม่ควรให้ความใส่ใจ และระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงสามเดือนแรก ทั้งนี้เพราะการใช้ยาของแม่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ เพราะลูกจะรับเอาสารอาหารต่าง ๆ ผ่านรกและสายสะดือจากแม่โดยตรง ซึ่งหากคนท้องกินยาที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นอันตรายและอาจทำให้ทั้งแม่และลูกในครรภ์เสียชีวิตได้ ดังนั้นคุณแม่จึงต้องมีวิธีดูแลตนเองเมื่อเกิดอาการไอ หรือเจ็บคอในช่วงตั้งครรภ์ โดยแนะนำว่าควรดื่มน้ำอุ่นให้มาก ๆ ก่อนค่ะ แต่หากอาการไอยังไม่ดีขึ้น คุณแม่ก็สามารถกินยาแก้ไอได้ แต่ต้องเป็นกลุ่มยาดังต่อไปนี้

1. เด็กซ์โตรเมทอร์โทรเฟน (Dextromethorphan)

กลุ่มยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของ เด็กซ์โตรเมทอร์โทรเฟน (Dextromethorphan) มีฤทธิ์บรรเทาอาการไอแบบไม่มีเสมหะ (ไอแห้ง) หากคุณแม่ซื้อยาเองก็ควรสังเกตฉลากให้ชัดเจนว่าต้องเป็นยาแก้ไอที่ไม่มีส่วนผสมตัวยาชนิดอื่น ซึ่งโดยส่วนมากเภสัชกรจะจ่ายยาชนิดเม็ดที่มีตัวยา Dextromethorphan 15 มิลลิกรัม มาให้รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร

2. บรอมเฮ็กซีน (Bromhexine) และ อะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine)

แต่หากอาการไอมีเสมหะร่วมด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถกินยาละลายเสมหะช่วยได้ค่ะ ซึ่งตัวยาแก้ไอลดเสมหะที่ใช้ได้ระหว่างตั้งครรภ์ มี 2 อย่าง ได้แก่ บรอมเฮ็กซีน (Bromhexine) และ อะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine) ซึ่งจะช่วยลดความหนืดเหนียวของเสมหะ ทำให้เสมหะเหลวตัว ถูกขับออกง่ายขึ้น มีทั้งชนิดเม็ด และชนิดน้ำ ซึ่งหากซื้อยาเองก็ควรสังเกตฉลากให้ดีว่าไม่มีแอมโมเนีย หรือ แอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ค่ะ

3. กลุ่มยาอม ยาพ่นคอต่าง ๆ

หากคุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกระคายเคืองคอ ก็สามารถกินยาอม หรือใช้ยาพ่นที่ทำให้ชุ่มคอ และแก้อาการคอแห้ง ระคายคอได้ เช่น ยาอมมายบาซิน สเตร็ปซิล หรือยาพ่นคอ คามิโลซาน ซึ่งยากลุ่มนี้เป็นยาออกฤทธิ์เฉพาะที่ จึงใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ และลดอาการไอจากการระคายคอได้ดีค่ะ

นอกจากการกินยาที่มีตัวยาดังกล่าวแล้ว การกินยาสมุนไพรแก้ไอก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยรักษาอาการไอและเจ็บคอได้ แถมยังปลอดภัยกว่าการกินยาอีกด้วยนะคะ เช่น มะนาว นำมาคั้นผสมกับน้ำอุ่นและเกลือ จิบบ่อย ๆ หรือนำมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ แล้วนำมาอมก็ลดอาการไอได้ดี รวมไปถึง มะขามป้อม มะขาม มะแว้ง สับปะรด บ๊วย ขิง เป็นต้นค่ะ

วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการไอ

นอกจากการกินยา หรือการกินผัก-ผลไม้ และสมุนไพรจะช่วยบรรเทาอาการไอได้ในส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ก็คือการดูแลตัวเองนั่นเองค่ะ ซึ่งมีวิธีดังต่อไปนี้

- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

- รักษาร่างกายให้อบอุ่น ใช้ผ้าพันคอเพื่อไม่ให้ช่วงคอเย็นจนเกินไป พร้อมกับอยู่ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก

- ดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำอุ่นผสมมะนาว หรือน้ำเปล่าในอุณหภูมิห้องแทนการดื่มน้ำเย็น และควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ

- หรือดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ผสมน้ำผึ้งมะนาว ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ดี ทั้งยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการแพ้ท้องอีกด้วย

- กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เน้นกินผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีมาก ๆ

- หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด ๆ มัน ๆ หรืออาหารที่มีไขมันมาก

การดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เลยนะคะ แต่บางครั้งเราก็อาจเกิดอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ยังไงแล้วแนะนำว่าคุณแม่ควรหมั่นดูแลตัวเองด้วยกินอาหารที่มีประโยชน์ กินผัก-ผลไม้ให้มาก ๆ และออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ทั้งนี้สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ท่านใดที่มีอาการไอเป็นระยะเวลานาน รักษาอย่างไรก็ไม่หายเสียที ก็ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุ พร้อมรักษาได้อย่างตรงจุดเพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง:

อัพเดทล่าสุด