การส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังจีนได้โดยผ่านคู่ค้าชาวจีนช่วยดำเนินการยื่นเรื่องของเครื่องหมายรับรองสินค้าฮาลาลของจีน
แข่งขันในตลาดจีนก็อยู่ในขั้นที่สูงจากความซับซ้อนของอาหารฮาลาลที่มีความเฉพาะตัว และมีลักษณะจำเพาะที่มีเรื่องศาสนา ความเชื่อ และวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะสินค้าของทานเล่นและอาหาร Ready to Eat ที่เป็นฮาลาล ในการเข้าสู่ตลาดจีนตะวันตก ที่เป็นเขตปกครองตนเองหนิงเซียะ
รวมถึงปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลามในจีน สำหรับกฎหมายที่กำลังจะแนะนำผู้ประกอบชาวไทยนั้น ถูกบังคับใช้ที่ศุลกากรในเขตปกครองตนเองหนิงเซียะ และสินค้าส่งออกที่ผลิตในเขตปกครองตนเองหนิงเซียะ เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 15 ม.ค. 2558 ครอบคลุมอาหารที่มีการผลิต แปรรูป เก็บรักษา และจำหน่ายตามวิถีชนกลุ่มน้อย และนิสัยการรับประทานอาหารฮาลาลของชาวมุสลิม หรือผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในนามอาหารฮาลาลและมีสัญลักษณ์แสดงเป็นอาหารฮาลาล เช่น เครื่องหมาย อักษร และรูปภาพ หนิงเซียะเป็นมณฑลมุสลิม
เป็นเขตปกครองตนเองระดับมณฑลของชาวหุยแห่งเดียวในจีน โดยมีชาวหุยที่นับถือศาสนาอิสลามคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35.31 ของประชากรทั้งหมด
นอกจากนี้ หนิงเซียะยังมีหน่วยงานรับรองอาหารฮาลาลที่มีเพียงแห่งเดียวในจีน คือ ศูนย์รับรองอาหารฮาลาลนานาชาติหนิงเซียะ โดยได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีน เมื่อปี 2552 ทำหน้าที่ออกใบรับรองคุณภาพอาหารฮาลาลที่ผ่านมาตรฐาน
การค้าระหว่างหนิงเซียะ-ไทย มูลค่าการค้าระหว่างหนิงเซียะ – ไทย รวม 71.83 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 99 โดยมีมูลค่าส่งออกรวม 45.13 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 53 มูลค่านำเข้ารวม 26.70 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 335
ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำนครเฉินตู เปิดเผยว่า สำหรับผู้ประกอบการที่มีเครื่องหมายฮาลาลของไทยแล้วสามารถยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองอาหารฮาลาลได้ที่ ศูนย์รับรองอาหารฮาลาลนานาชาติเขตปกครองตนเองหนิงเซียะ ซึ่งเป็นศูนย์รับรองเพียงแห่งเดียวในปัจจุบันของจีน โดยประเทศไทยยังไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือการรับรองเครื่องหมายฮาลาลกับศูนย์ฯ ดังกล่าว
โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือการรับรองเครื่องหมายฮาลาลแล้วกับ 9 ประเทศทั่วโลก คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รัสเซีย อินเดีย อียิปต์ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ดังนั้น หน่วยงาน The Central Islamic Council of Thailand (CICOT) ของไทยจึงควรจะมาร่วมทำข้อตกลงความร่วมมือการรับรองเครื่องหมายอาหารฮาลาลระหว่างไทยและจีน เพื่อสินค้าอาหารฮาลาลไทยจะได้สามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้สะดวกเช่นประเทศอื่น ๆ
แม้ว่าไทยยังไม่ได้ลงนามความตกลงฯ ดังกล่าว แต่ก็ยังสามารถส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังจีนได้โดยผ่านตัวแทนผู้นำเข้าหรือคู่ค้าชาวจีนช่วยดำเนินการยื่นเรื่องของเครื่องหมายรับรองสินค้าฮาลาลของจีนที่ศูนย์รับรองฮาลาลนานาชาติหนิงเซียะ ตามขั้นตอนดังนี้
1. ยื่นแบบฟอร์มสมัครขอรับรองเครื่องหมายฮาลาล
2. ใบจดทะเบียนธุรกิจในไทย ใบรับรองตรวจสอบคุณภาพสินค้า และความปลอดภัยด้านอาหาร ใบรับรองเครื่องหมายฮาลาลที่ได้รับจากไทย ใบอนุญาตส่งออก โดยเอกสารทั้งหมดต้องแปลเป็นจีน หรืออังกฤษ พร้อมต้องรับรองคำแปลที่ถูกต้องโดยสถาบันที่เชื่อถือได้
3. รายชื่อสินค้าฮาลาลของไทยที่ต้องการให้จีนรับรอง
4. ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการออกเครื่องหมายประมาณ 6,000 – 8,000 หยวน หรือ 30,000 – 40,000 บาท
5. ทางศูนย์รับรองอาหารฮาลาลนานาชาติหนิงเซียะ จะตั้งคณะกรรมการไปตรวจสอบขั้นตอนการผลิตที่ประเทศไทยว่าเป็นตามบทบัญญัติหรือหลักศาสนาหรือไม่ (ค่าใช้จ่ายบริษัทฝ่ายไทยเป็นผู้รับผิดชอบ)
อนึ่ง หากผ่านขั้นตอนการตรวจสอบว่าถูกต้องตามข้อกำหนดและบทบัญญัติทางศาสนาอิสลาม ผู้ผลิตผู้ส่งออกที่ยื่นเรื่องขอสมัครจะได้รับเครื่องหมายฮาลาลจีน และผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลไม่ว่าจะเป็นสินค้าอาหาร หรือสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ก็จะสามารถขยายโอกาสทางการค้าโดยเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างมั่นคง
ที่มา ธนาคารกรุงเทพ
--
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ฮาลาล100% รับสั่งทำ ข้าวกล่องอาหารกล่อง รับจัดอาหารกล่อง
- แต่งงานมา 20 ปี ไม่เคยทะเลาะกัน เพราะคำสอนของปู่ที่จำจนขึ้นใจ
- คู่ครองที่ฮาลาล
- มุสลิมกินปูแบบไหนได้ ปูไม่ได้ฮาลาลทุกชนิดนะจ้า!
- จัดไป!! มุสลิม รับทำข้าวกล่อง ข้าวหมกไก่ 3 สี ราคาถูก ฮาลาล 100%
- ประวัติความเป็นมามุสลิมในเอเซีย - มุสลิมในประเทศไทย
- เรียนสูงมาแค่ไหน ไม่ใช่ประเด็น ทำงานให้เป็น คือประเด็นที่สำคัญ