วิธีทาน “พืชกระท่อม” อย่างถูกต้อง ได้สรรพคุณทางยาแก้ปวดเมื่อย รักษาเบาหวาน


1,594 ผู้ชม

หลายคนก็เริ่มที่จะมีการปลูกพืชกระท่อม อยู่พอสมควร ซึ่งอาจจะมีความเข้าใจ


หลายคนก็เริ่มที่จะมีการปลูก “พืชกระท่อม” อยู่พอสมควร ซึ่งอาจจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับ“พืชกระท่อม” ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในแง่สุขภาพนั้น เพื่อทำความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับพื้ชชนิดนี้ เรามาดูสรรพคุณของ “พืชกระท่อม” ในแง่สุขภาพกันว่าจะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของ “พืชกระท่อม” ต่อสุขภาพ

-แก้ไอ

ให้ใช้ใบสด 1-2 ใบ แล้วต้มกับน้ำตาลทรายแดง แล้วดื่มแก้ไอ หรือนำมาเคี้ยวใบสด คายกาก และดื่มน้ำตามให้มาก เพื่อป้องกันท้องผูก

-แก้ปวดเมื่อย

ให้นำสมุนไพรดังต่อไปนี้ คือ เถาวัลย์เปรียง, มะคําไก่, มะแว้งต้น, มะแว้งเครือ, เถาโคคลาน, เถาสังวาล, พระอินทร์, หญ้าหนู, ต้นผักเสี้ยนผี, แก่นขี้เหล็ก กับ ใบมะกา อย่างละ 1 ส่วน และนำพืชดังต่อไปนี้ ได้แก่ เนื้อในฝักราชพฤกษ์ 5 ฝัก, ใบกระท่อม 2 ส่วน เถากําแพงเจ็ดชั้น 3 ส่วน จากนั้นก็นำไปต้มใช้รับประทาน ในช่วงก่อนอาหาร เช้า-เย็น ครั้งละ ครึ่ง-1 ถ้วยกาแฟ

-ใช้ในการแก้ท้องร่วง หรือ ปวดท้อง

สำหรับการใช้ในการรักษานั้น ให้เลือกทำดังนี้

-เคี้ยวใบประท่อมแล้วดื่มน้ำตาม

-ให้ต้มใบกระท่อม จากนั้นเติมเกลือและน้ําตาลทรายแดงเล็กน้อย

-นำส่วนผสมต่างๆ ดังนี้ เปลือกต้นกระท่อม เปลือกต้นสะเดา เปลือกต้นมะขาม หนักอย่างละ 50 กรัม, หัวขมิ้นชัน (แก่) หัวกระทือ (แก่) อย่างละ 1 หัว เผาไฟพอสุก ต้มรวมกับน้ําปูนใส น้ํา ธรรมดาอย่างละเท่าๆ กัน รับประทานครั้งละ 2-3 ช้อนแกง เมื่อหายจึงหยุดทาน

-รักษาโรคเบาหวาน

สำหรับการใช้ในการรักษานั้น ให้เลือกทำดังนี้

-ใช้ส่วนผสมของกระท่อมทั้ง 5 (ใบ กิ่ง เปลือกต้น รากเนื้อไม้ หรือใช้ต้นกระท่อมต้นเล็ก สูงประมาณ 1 ศอก 1 ต้น) แล้วนำมาสับใส่หม้อต้ม รับประทานครั้งละ 3-5 ซ้อนแกง เช้า-เย็น

-เคี้ยวใบกระท่อม วันละ 1 ใบ นาน 41 วัน

-ต้มใบกระท่อม หญ้าหนวดแมว ไม้ค้อนตีนหมา อย่างละเท่ากัน ต้มน้ํา 3 เอา 1 ดื่มครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ เช้า-เย็น

-ต้มใบกระท่อม ผสม อินทนินน้ํา กระเทียมต้น และ กระเทียมเถา

ขณะเดียวกัน ทีมนักวิจัยจากทางคณะวิทยาศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ ได้มีการศึกษาเพิ่มเติม โดยพบว่าพืชกระท่อมนั้น สามารถช่วยต้านอาการซึมเศร้า จากการทดสอบและบันทึกคลื่นสมองในหนูทดลอง ซึ่งพบว่าหนูที่ได้รับสารจากพืชกระท่อมนั้น จะมีการเคลื่อนไหวแบบแอคทีฟ ไม่เซื่องซึมหรือหยุดนิ่ง เมื่อเทียบกับหนูทั่วไป และนอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการของโรคพาร์กินสันได้ด้วย ซึ่งคณะทีมวิจัยจะทำการศึกษาในมนุษย์ รวมถึงจะทำการศึกษาเพื่อบำบัดอาการเสพติด เฮโรอีน และ ยาบ้า ต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการนำไปใช้ในแบบผิดวัตถุประสงค์ อาทิ มีการทำการผสมกับสิ่งเสพติดชนิดอื่น, มีการขายน้ำต้มกระท่อมในหอพัก สถานศึกษา รวมถึงจำหน่ายอาหารที่มีส่วนผสมของใบกระท่อมแก่สตรีมีครรภ์ และผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ยังถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ไม่สามารถทำได้อยู่ดี

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

บทความที่น่าสนใจ

อัพเดทล่าสุด