ขับรถช้าๆ ไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมัน จริงหรือ?


946 ผู้ชม

ในยุคน้ำมันแพง เห็นหลายคนบนถนนขับรถช้าๆ คิดว่า ขับรถช้าๆ แล้วกัน จะได้ประหยัดน้ำมัน


ในยุคน้ำมันแพง เห็นหลายคนบนถนนขับรถช้าๆ คิดว่าขับรถช้าๆ แล้วกัน จะได้ประหยัดน้ำมัน ซึ่งไม่เป็นความจริงครับ

จากข้อมูลการใช้นำมันของเครื่องยนต์ ในการขับรถช้าจะใช้เกียร์ต่ำ ซึ่งสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า เกียร์สูง เพราะ เกียร์สูง การใช้พลังงานในการหมุนแกนของเครื่องยนต์ที่เท่ากัน จะหมุนวงรอบของเพลาล้อได้จำนวนรอบมากกกว่า จึงได้ระยะทางมากกว่า ด้วยพลังงานหรือน้ำมันที่ใช้เท่ากัน จากรูป จะเห็นว่า ในขณะที่ความเร็วต่ำๆ (ใช้เกียร์ต่ำ) เปลืองน้ำมันมากกว่า และ อีกอย่าง เมื่อความเร็วต่ำ ก็ใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า กว่าจะไปถึงที่หมาย นั่นหมายถึง ระหว่างนั้น รถก็ใช้น้ำมันไปตลอดเวลาที่ติดเครื่องอยู่ จะเห็นว่า รถติด เปลืองน้ำมันมากกว่า

ขับรถช้าๆ ไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมัน จริงหรือ?

การขับรถเร็ว ก็เปลืองน้ำมัน เพราะ หากต้องพยายามทำรอบให้ได้ความเร็วสูงๆ ก็จะต้องเร่งน้ำมัน และใช้น้ำมันมากขึ้น สิ่งที่ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันมากคือ การเปลี่ยนความเร็วอย่างรวดเร็ว เร่งความเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว จะใช้น้ำมันมากขึ้นในการสู้กับความเฉี่อย และ หากต้องเบรค หรือ ลดความเร็ว อย่างรวดเร็ว ก็เสียพลังงานที่เราใช้ในการทำความเร็วก่อนหน้านั้น ไปโดยไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้น การขับรถที่เปลืองน้ำมันที่สุด คือ การเร่ง และ เบรค ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยง การเร่ง และเบรคบ่อยๆ ถ้าขับรถทางตรง ก็ควรค่อยๆเพิ่มความเร็วรถขึ้นเรื่อยๆ จนใช้เกียร์สูง และ ความเร็วค่อนข้างคงที่ เมื่อถึงเวลาต้องชลอรถ จะได้ไม่ต้องสูญเสียพลังงานไปโดยไม่เกิดประโยชน์

ขับรถช้าๆ ไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมัน จริงหรือ?

รถแต่ละคัน ความเร็วที่เหมาะสม ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับกำลังของรถ ถ้ารถกำลังน้อย ความเร็วที่พอเหมาะจะอยู่ที่ 50-90 กม ต่อชั่วโมง แต่ถ้ารถ กำลังสูง ใช้เกียรสูง ที่รอบต่ำๆ ได้ ความเร็วที่พอเหมาะ ก็อาจจะอยู่ที่ 90-120 กม ต่อชั่วโมง รถที่มีมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ให้ดู ก็ช่วยได้ครับ เพราะ รอบเครื่องยนต์ช่วงที่ประหยัดน้ำมัน จะอยู่ที่ 2,000 – 3,000 รอบต่อนาที (ยกเว้น hybrid นะครับ ดูแบบนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการผสานระหว่างเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันและ มอเตอร์ไฟฟ้า)

ขับรถช้า ไม่ช่วยประหยัดน้ำมัน ขับรถเร็วเกิน เร่งและหยุด ก็เปลืองน้ำมันมาก

credit: บันทึกเรื่องน่ารู้ by Dr.Adune

อัพเดทล่าสุด