เราจะเห็นได้ว่ามีร่องระหว่างแผ่นกระเบื้อง ส่วนที่ปิดร่องนี้เองคือยาแนวกระเบื้อง ซึ่งเป็นซีเมนต์ที่ใช้เติมเต็มช่องว่าง
“ยาแนวกระเบื้อง” ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่มาคู่กับกระเบื้องและมีความสำคัญต่อความสวยงาม ความทนทาน และความน่าอยู่ของบ้าน แต่ทราบหรือไม่ว่า ยาแนวกระเบื้องเป็นวัสดุอะไร ใช้ทำอะไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง มาทำความรู้จักกับวัสดุที่สำคัญนี้กันเลย
ยาแนวกระเบื้องคืออะไร
เราจะเห็นได้ว่ามีร่องระหว่างแผ่นกระเบื้อง ส่วนที่ปิดร่องนี้เองคือยาแนวกระเบื้อง ซึ่งเป็นซีเมนต์ที่ใช้เติมเต็มช่องว่างระหว่างกระเบื้อง บางคนเรียกว่า “กาวยาแนวกระเบื้อง” “ปูนยาแนวกระเบื้อง” หรือ “ยาแนว” มีลักษณะเป็นผงและมีหลายสี เมื่อจะใช้งาน ต้องนำมาผสมน้ำ หรือบางยี่ห้อกำหนดให้ต้องผสมทรายด้วย
ความสำคัญของยาแนวกระเบื้อง
นอกจากอุดรอยต่อระหว่างแผ่นกระเบื้องแล้ว ยาแนวกระเบื้องยังใช้สำหรับเชื่อมแผ่นกระเบื้องเข้าด้วยกัน และมีประโยชน์หลายอย่างดังนี้
- จัดแต่งกระเบื้องให้เรียงกันอย่างสวยงาม กระเบื้องบางแผ่นอาจมีขนาดที่คลาดเคลื่อนเล็กน้อย เมื่อนำมาวางต่อกัน จะสามารถเห็นขนาดที่ไม่เท่ากันและไม่ตรงเป็นแนวตามที่ต้องการได้ การใช้ยาแนวกระเบื้องเชื่อมระหว่างกระเบื้องจะช่วยปรับให้ดูเรียงกันเป็นแนวเรียบร้อยและสวยงาม
- ป้องกันฝุ่น น้ำ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก รวมถึงเชื้อโรคไม่ให้เข้าไปร่องระหว่างกระเบื้อง
- ปกป้องพื้นปูนซีเมนต์ที่อยู่ใต้กระเบื้องจากการผุกร่อนอันเนื่องมาจากตัวกระตุ้นทางสภาพแวดล้อม เช่น น้ำ ฝุ่น สารเคมี
ประเภทยาแนวกระเบื้อง
1. ยาแนวกระเบื้องธรรมดา
เหมาะสำหรับใช้กับงานพื้นและผนังกระเบื้องทั่วไป มีราคาถูกกว่าประเภทอื่น แต่มีข้อเสียคือ ไม่ป้องกันเชื้อราดำ จึงไม่เหมาะกับพื้นหรือผนังนอกอาคาร รวมถึงห้องที่มักเปียกชื้นหรืออยู่ใกล้ความชื้น เช่น ห้องน้ำ บ่อน้ำ สระน้ำ
2. ยาแนวกระเบื้องกันเชื้อรา
เหมาะสำหรับใช้งานกับพื้นและผนังทั่วไปเช่นกัน แต่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ยับยั้งการเกิดเชื้อรา เช่น สารไมโครแบน แม้มีราคาแพงกว่ายาแนวกระเบื้องประเภทแรก แต่เพื่อสุขอนามัยและการดูแลรักษาความสะอาดที่ง่ายขึ้น ก็นับว่าคุ้มค่าที่จะใช้ โดยเฉพาะกับพื้นที่ภายนอกอาคารและห้องที่มักเปียกชื้น
3. ยาแนวกระเบื้องร่องเล็ก
มีลักษณะเหลวมากเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถไหลตัวเข้าไปตามร่องขนาดเล็กระหว่างกระเบื้องได้ดี จึงเหมาะกับงานปูกระเบื้องที่จำเป็นต้องให้ชิดกันมาก เช่น กระเบื้องแผ่นใหญ่ กระเบื้องที่ทำจากหินธรรมชาติ
4. ยาแนวกระเบื้องร่องใหญ่
มีลักษณะเป็นเนื้อหยาบ เพื่อเติมเต็มพื้นที่ได้มากขึ้น โดยเหมาะกับงานปูกระเบื้องที่มีร่องยาแนวขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกระเบื้องที่หดตัวมากอย่างกระเบื้องหินเผา
5. ยาแนวกระเบื้องทนแรงอัดแรงดันน้ำ
มีคุณสมบัติทนแรงดันน้ำได้ดี พร้อมทนคลอรีน เพื่อใช้กับสระว่ายน้ำ บ่อน้ำ สปา และซาวน่า
6. ยาแนวกระเบื้องอีพ็อกซี่
เป็นยาแนวกระเบื้องคุณภาพสูงที่สุดและราคาแพง เพราะกันฝุ่นและน้ำได้ดีเยี่ยม ตลอดจนทนทานแรงดันน้ำและสารเคมีทั้งกรดและด่าง จึงเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความคงทนและความสะอาดมากเป็นพิเศษ เช่น สระว่ายน้ำ โรงงาน
7. ยาแนวกระเบื้องสำเร็จรูป
หรือยาแนวกระเบื้องแบบหลอด มีลักษณะเนื้อเหลวและสามารถบีบยาแนวมาใช้ได้ทันที นับว่าสะดวกในการใช้งานสำหรับผู้ใช้งานตามบ้าน ซึ่งนิยมนำมาใช้ซ่อมแซมร่องยาแนวกระเบื้องเก่าที่ดำหรือหลุดล่อน แต่เนื่องจากไม่ทนน้ำและหดตัวสูง จึงไม่สามารถใช้ทำแนวกระเบื้องใหม่ได้ หมายความว่า งานปูกระเบื้องใหม่นั้นต้องใช้ยาแนวกระเบื้องประเภทในข้างต้นที่มีลักษณะเป็นผงและต้องผสมน้ำก่อนใช้งาน
การเลือกสียาแนวกระเบื้อง
- เน้นความสะอาด ควรเลือกสีขาวเพื่อให้สามารถเห็นสิ่งสกปรกได้ง่ายและรีบทำความสะอาด
- เน้นสวยเรียบและกลมกลืน ควรเลือกสีโทนเดียวกับกระเบื้อง ซึ่งจะช่วยทำให้สบายตา
- เน้นสวยมีมิติ ควรเลือกสีที่ตัดกับสีกระเบื้อง ซึ่งจะทำให้เส้นแนวกระเบื้องดูโดดเด่นและพื้นดูมีลูกเล่น
- เน้นความโมเดิร์น คลาสสิก ควรเลือกยาแนวกระเบื้องสีดำ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเช่นเดียวกับกระเบื้องสีดำ และยังนิยมใช้ตัดกับกระเบื้องสีขาว เพื่อเพิ่มลวดลายและเส้นสายให้มีมิติสวยงาม