งา ธัญพืชต้านโรค
ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของ
สมุนไพรดอทคอม และ วิชาการดอทคอม
ที่มา www.samunpri.com
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่า เมล็ดพืชเล็ก ๆ อย่าง “เมล็ดงา” น่ะ จะมีประโยชน์มากมายเกินตัวขนาดนี้ ซึ่งมิใช่แค่ความหอม หรือความอร่อยของงาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่งายังเป็นพืชที่มากไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วยมากวิตามิน
งา เป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 และวิตามินไบโอติน โคลีน ไอโนสิตอล กรดพาราอะมิโนแบนโซอิค สารเหล่านี้จะช่วยบำรุงประสาทให้เป็นไปอย่างปกติ นอกจากนี้ในงายังมีกรดไขมันไลโนลีอิกอยู่มากด้วยเช่นกัน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและสามารถเก็บความชุ่มชื้นของ ผิวหนังได้ดี
หากท่านที่มีอาการเกิดจากระบบประสาท เช่น นอนไม่หลับ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เป็นเหน็บชา ปวดเส้นตามตัว แขน ขา เบื่ออาหาร ท้องผูก หรือเมื่อยสายตา ควรหันมารับประทานงาเป็นประจำนะคะ เพราะสามารถป้องกันโรคเหล่านี้ได้ นอกจากนี้แล้วงายังเป็นอาหารต้านมะเร็งและช่วยชะลอความชราให้ช้าลงไปอีกด้วย
งาเป็นแหล่งโปรตีนและแร่ธาตุ
ธาตุเหล็ก บำรุงเลือด
ธาตุไอโอดีน ป้องกันโรคคอพอก
ธาตุสังกะสี บำรุงผิวหนัง
ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส บำรุงกระดูกและฟัน
(ทางกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า งามีแคลเซียมากกว่าพืชผักชนิดอื่นถึง 20 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า พืชผักอื่น ๆ 20 เท่า ซึ่งธาตุทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นแร่ธาตุที่สำคัญมาก ๆ ในการเสริมสร้างกระดูก
ประโยชน์ที่ได้จากงา
ทางการแพทย์ถือว่า งาเป็นอาหารที่สามารถบำรุงกำลังได้เป็นอย่างดีและยังให้ความอบอุ่นแก่ร่าง กาย ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันอาหารท้องผูก บำรุงกระดูก บำรุงรากผม รักษาอาการนอนไม่หลับ และยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดบางชนิด
สรรพคุณทางยา
ปัสสาวะ อุจจาระขัด เมล็ดงา 20–25 กรัม แช่ในน้ำเดือด หรือต้มรับประทานขณะท้องว่าง
ความดันโลหิตสูง เมล็ดงา น้ำส้ม ซีอิ๊วและน้ำผึ้งอย่างละ 30 กรัม ผสมกับไข่ขาว 1 ฟอง คนให้เข้ากันแล้วต้มด้วยไฟอ่อน ๆ จนสุก รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นประจำ
ไอแห้ง ไม่มีเสมหะ เมล็ดงา 250 กรัม น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม บดรวมกับรับประทานครั้งละ 15–20 กรัม จากนั้นนำผงที่ได้เติมน้ำเดือดไว้สัก 2–3 นาที ดื่มขณะยังอุ่น ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
น้ำมันงาสูตรบำรุง
กระตุ้นการงอกของเส้นผม โดยไปเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตรอบ ๆ รูขุมขนบนหนังศีรษะ เพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวพรรณ และต้านอนุมูลอิสระบำรุงเส้นผม ป้องกันการแก่ตัวและยืดอายุเซลล์ผิวหนัง
Tricks
เด็กที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต หากได้รับประทานงาเป็นประจำร่างกายจะมีการเจริญเติบโต และยังสามารถเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
สุภาพสตรีวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดน้อยลงอย่างมาก ทำให้มีการดึงแคลเซียมอกจากกระดูกมาใช้แทน ดังนั้นโอกาสที่จะเป็นโรคกระดูกเสื่อมจึงมีสูง ฉะนั้นควรหันมาบริโภคงามาก ๆ เพราะจะได้ช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกายอีกทางหนึ่ง
Tips
ใช้น้ำมันงาดิบนวดตัวในตอนเช้าก่อนอาบน้ำ ช่วยปรับระบบประสาทและระดับฮอร์โมนให้เข้าสู่สภาวะสมดุล ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายความตึงเครียด
ใช้น้ำมันงาดิบนวดตัว เพื่อขจัดอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเข่า เคล็ดขัดยอก ทำให้กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวย่น ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ เนื่องจากน้ำมันงาดิบสามารถซึมผ่านผนังได้ทุกชั้น
ดูหัวข้ออื่นๆที่น่าสนใจ คลิกด้านล่าง
- เห็ด อาหารมหัศจรรย์
- มังคุด” ราชินีผลไม้ไทยอุดมประโยชน์
- ผักบุ้ง
- มะเขือขื่น : ความเขียวขื่นที่เปี่ยมรสชาติและคุณประโยชน์
- "มะนาว" มีประโยชน์มากกว่าความเปรี้ยว
- งา ธัญพืชต้านโรค
- "กุยช่าย"บำรุงน้ำนมแม่
- มะเขือเทศผักผลแนวหน้าระดับโลก
- แตงกวา สมุนไพรใช้เสริมสวย
- หัวผักกาดขาว: อาหารช่วยย่อยที่ดี