งา ธัญพืชต้านโรค งาดำ กินอย่างไร สรรคุณงาดำ ประโยชน์ งาขาว งาดำ


1,865 ผู้ชม


งา ธัญพืชต้านโรค

ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของ
สมุนไพรดอทคอม และ วิชาการดอทคอม
ที่มา
www.samunpri.com 


งา ธัญพืชต้านโรค งาดำ กินอย่างไร สรรคุณงาดำ ประโยชน์ งาขาว งาดำ            ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่า เมล็ดพืชเล็ก ๆ อย่าง “เมล็ดงา” น่ะ จะมีประโยชน์มากมายเกินตัวขนาดนี้ ซึ่งมิใช่แค่ความหอม หรือความอร่อยของงาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่งายังเป็นพืชที่มากไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วยมากวิตามิน
            งา เป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 และวิตามินไบโอติน โคลีน ไอโนสิตอล กรดพาราอะมิโนแบนโซอิค สารเหล่านี้จะช่วยบำรุงประสาทให้เป็นไปอย่างปกติ นอกจากนี้ในงายังมีกรดไขมันไลโนลีอิกอยู่มากด้วยเช่นกัน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและสามารถเก็บความชุ่มชื้นของ ผิวหนังได้ดี
            หากท่านที่มีอาการเกิดจากระบบประสาท เช่น นอนไม่หลับ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เป็นเหน็บชา ปวดเส้นตามตัว แขน ขา เบื่ออาหาร ท้องผูก หรือเมื่อยสายตา ควรหันมารับประทานงาเป็นประจำนะคะ เพราะสามารถป้องกันโรคเหล่านี้ได้ นอกจากนี้แล้วงายังเป็นอาหารต้านมะเร็งและช่วยชะลอความชราให้ช้าลงไปอีกด้วย
งาเป็นแหล่งโปรตีนและแร่ธาตุ
            ธาตุเหล็ก บำรุงเลือด
            ธาตุไอโอดีน ป้องกันโรคคอพอก
            ธาตุสังกะสี บำรุงผิวหนัง
            ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส บำรุงกระดูกและฟัน
            (ทางกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า งามีแคลเซียมากกว่าพืชผักชนิดอื่นถึง 20 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า พืชผักอื่น ๆ 20 เท่า ซึ่งธาตุทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นแร่ธาตุที่สำคัญมาก ๆ ในการเสริมสร้างกระดูก
ประโยชน์ที่ได้จากงา
            ทางการแพทย์ถือว่า งาเป็นอาหารที่สามารถบำรุงกำลังได้เป็นอย่างดีและยังให้ความอบอุ่นแก่ร่าง กาย ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันอาหารท้องผูก บำรุงกระดูก บำรุงรากผม รักษาอาการนอนไม่หลับ และยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดบางชนิด


งา ธัญพืชต้านโรค งาดำ กินอย่างไร สรรคุณงาดำ ประโยชน์ งาขาว งาดำ


สรรพคุณทางยา
            ปัสสาวะ อุจจาระขัด เมล็ดงา 20–25 กรัม แช่ในน้ำเดือด หรือต้มรับประทานขณะท้องว่าง
            ความดันโลหิตสูง เมล็ดงา น้ำส้ม ซีอิ๊วและน้ำผึ้งอย่างละ 30 กรัม ผสมกับไข่ขาว 1 ฟอง คนให้เข้ากันแล้วต้มด้วยไฟอ่อน ๆ จนสุก รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นประจำ
            ไอแห้ง ไม่มีเสมหะ เมล็ดงา 250 กรัม น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม บดรวมกับรับประทานครั้งละ 15–20 กรัม จากนั้นนำผงที่ได้เติมน้ำเดือดไว้สัก 2–3 นาที ดื่มขณะยังอุ่น ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น

น้ำมันงาสูตรบำรุง

            กระตุ้นการงอกของเส้นผม โดยไปเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตรอบ ๆ รูขุมขนบนหนังศีรษะ เพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวพรรณ และต้านอนุมูลอิสระบำรุงเส้นผม ป้องกันการแก่ตัวและยืดอายุเซลล์ผิวหนัง
Tricks
            เด็กที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต หากได้รับประทานงาเป็นประจำร่างกายจะมีการเจริญเติบโต และยังสามารถเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
            สุภาพสตรีวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดน้อยลงอย่างมาก ทำให้มีการดึงแคลเซียมอกจากกระดูกมาใช้แทน ดังนั้นโอกาสที่จะเป็นโรคกระดูกเสื่อมจึงมีสูง ฉะนั้นควรหันมาบริโภคงามาก ๆ เพราะจะได้ช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกายอีกทางหนึ่ง
Tips
            ใช้น้ำมันงาดิบนวดตัวในตอนเช้าก่อนอาบน้ำ ช่วยปรับระบบประสาทและระดับฮอร์โมนให้เข้าสู่สภาวะสมดุล ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายความตึงเครียด
            ใช้น้ำมันงาดิบนวดตัว เพื่อขจัดอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเข่า เคล็ดขัดยอก ทำให้กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวย่น ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ เนื่องจากน้ำมันงาดิบสามารถซึมผ่านผนังได้ทุกชั้น


ดูหัวข้ออื่นๆที่น่าสนใจ คลิกด้านล่าง


อัพเดทล่าสุด