เผย ยาสมุนไพรไทยรักษาโรคโรคเอดส์ ได้ถ้าทำตามนะ!


2,401 ผู้ชม


โรคเอดส์และวิถีการรักษาแบบไทย

เป็นโรคเอดส์อย่าท้อแท้ หนทางแก้ยังพอมี

สมุนไพรไทยใช้ดี ต่อชีวีให้ยืดยาว

โรคเอดส์ เป็นกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส เอส ไอ วี ไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันให้บกพร่อง การจะรู้ว่าใครติดเชื้อนี้หรือไม่ก็โดยการตรวจเลือดหาแอนติบอดี้ คือภูมิคุ้มกัน หรือการนับเม็ดเลือดขาว เมื่อผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่ำและไปรับเอาเชื้อโรคอะไรเข้ามาก็พร้อมจะเกิด โรคชนิดนั้น ๆ ได้ง่ายที่สุด เช่นวรรณโรค ตุ่มผื่นคันตามร่างกาย(อาการภูมิแพ้) ท้องร่วง เป็นต้น ถ้าติดเชื้ออันตรายก็ทำให้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ภูมิคุ้มกันตกต่ำลงเรื่อย ๆ จะมีอาการเหนื่อยง่าย ปวดเมื่อยอ่อนเพลีย กินอาหารผิดนิดหน่อยก็ท้องเสีย ยุงกัดก็เกิดแผลพุพอง นอนหลับไม่สนิท มักมีอาการท้องอืดเฟ้อจุกเสียด อาการทางท้องนับเป็นอาการป่วยที่สำคัญที่สุดในผู้ป่วย เพราะมักทำให้เบื่ออาหารและอาเจียน ถ้าเป็นเรื้อรังจะทำให้สุขภาพทรุดต่ำลงเรื่อย พลอยทำให้การรักษาอาการอื่นเป็นไปด้วยความลำบาก การจะรักษาโรคเอดส์นั้นต้องพิจารณาไปตามอาการป่วย แต่ขอแนะนำไว้พอเป็นตัวอย่าง เพื่อสะดวกต่อการปฏิบัติ

สร้างกำลังใจ ต้องทำความเข้าใจและมั่นใจให้ได้ว่ามันเป็นได้ก็หายได้ อย่าเชื่อตามลมปากของใครว่าเป็นแล้วต้องตายแน่ มีชีวิตอยู่เท่านั้นปีเท่านี้เดือน ต้องเข้าใจว่ามันมีสมุนไพรที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ เมื่อเรากินสมุนไพรแล้วทำให้กินได้ นอนหลับ ร่างกายแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาการเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียที่เคยเป็นก็ค่อย ๆ หายไป อาการแพ้นั่นแพ้นี่ที่เคยเป็นก็หายไป นั่นหมายถึงภูมิคุ้มกันของเราค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อยโดยไม่ต้องไปตรวจเลือดก็รู้ด้วยตัวของเราเอง เราต้องมั่นใจในยา

มั่นใจในหมอ ตัดความวิตกหวาดกลัวทิ้งให้หมด เพราะมันคือต้นเหตุของความเครียด ซึ่งเป็นต้นเหตุของท้องไส้ปั่นป่วน ก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะมากเกินไป พลอยทำให้เบื่ออาหารและอาเจียน นั่นแหละคือต้นตอของภูมิคุ้มกันตก การได้สวดมนต์ภาวนา ทำจิตให้สงบ รู้จักปล่อยวาง เจริญมรณสติตลอดเวลา นับเป็นวิถีทางหนึ่งที่ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ถ้าไม่กลัวตายเสียอย่างจิตใจก็กล้าแข็ง สามารถต่อสู้กับโรคร้ายได้

งดอาหารแสลง มีผู่ป่วยจำนวนมากที่ร่างกายทรุดเนื่องเพราะกินของแสลงมากเกินไป ของแสลงทำให้ร่างกายขาดความสมดุลย์ ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน บางชนิดก็ทำลายสรรพคุณยา การงดอาหารแสลงจึงเป็นหัวใจของการรักษา

ของต้องห้ามมีดังนี้ หน่อไม้ ของหมักดองทุกชนิด ปลาไร้เกล็ดทุกชนิด ปลาทะเล (มักมีสารฟอร์มารีน) เนื้อวัว เนื้อสุนัข เนื้อแพะ เต่า ตะพาบน้ำ ปลาไหล ทุเรียน ละมุด ขนุน กล้วยหอม อาหารสำเร็จรูปทุกชนิด(มักมีสารกันบูด) สุรา ยาเสพติดทุกชนิด เมื่อกินอาหารทุกครั้งให้พิจารณาดูว่าทำให้ร่างกายผิดปกติหรือไม่ ถ้าทำให้ลมขึ้น ท้องร่วงอ่อนเพลีย ต่อไปอย่ากินอีก ผักแต่ละชนิดต้องมั่นใจว่าไม่มีสารพิษเจือปน เพราะพิษจะซ้ำเติมให้ภูมิคุ้มกันตกต่ำอย่างรวดเร็ว อย่ากินอาหารรสเผ็ดร้อนโดยเฉพาะที่ใส่พริกไทย เพราะทำให้ธาตุไฟกำเริบ

กินสมุนไพรรักษาตามอาการ

ถ้าท้องร่วง ให้กินว่านรางจืดหรือฟ้าทะลายโจร ถ้าเป็นผื่นคัน หาเสลดพังพอนทั้งตัวผู้และตัวเมีย กระดูกไก่ดำ(สมุนไพร) เหงือกปลาหมอ ทองพันชั่ง นำมาต้มอาบและกิน ถ้าเป็นเริม งูสวัด ให้หาเสลดพังพอนทั้งสอง ว่านน้ำดับไฟ ฝิ่นต้น นำมาตำแช่เหล้าขาว ใส่พิมเสนพอสมควร ใช้ทาไม่กี่วันก็หาย ถ้าเป็นโรคปอดให้รักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ให้ดื่มน้ำต้มสมุนไพรกระดูกดำและหนุมานประสานกายควบคู่ไปด้วย จะทำให้หายเร็วขึ้น

ถ้ามีอาการไอ ให้หาผงบรเพ็ดนำมาคลุกน้ำผึ้งกิน ให้ละลายผ่านลิ้นผ่านคอเข้าไป ชั่วครู่เดียวอาการไอจะหายทันที ทั้งรักษาอาการติดเชื้อได้ด้วย

ถ้าท้องอืดเฟ้อ

ให้เอาตะไคร้แกงสัก 5 ต้น ขิงสัก นิ้วหัวแม่มือ ทุบใส่หม้อต้มให้เดือด ดื่มบ่อย ๆ จะขับลมจากท้องไส้ได้ อย่ากินยาหอม เพราะมักผสมของร้อน จะทำให้อาการกำเริบ อาการทางท้องมีอันตรายที่สุดในผู้ป่วยโรคเอดส์ คนป่วยส่วนมากตายเพราะท้องอืดเฟ้อ เมื่อลมตีขึ้นก็หัวใจวายตายอย่างง่าย ๆ

กินสมุนไพรอายุวัฒนะ

ยาอายุวัฒนะของไทยเรามี หลายขนาน พึงระวังอย่ากินยาที่ผสมด้วยของเผ็ดร้อน จะทำให้ธาตุกำเริบ และเสียชีวิตได้ง่าย ๆ เพราะยาร้อน ยาที่ควรกินคือ ถ้าผอมแห้งแรงน้อย กินไม่ได้นอน ไม่หลับ ควรกินสมุนไพรกวาวเครือขาวผสมน้ำผึ้ง ครั้งละ 2 เม็ด เช้า-เย็น ถ้าร่างกายดูปกติดี ยังกินได้นอนหลับพอควร ให้ใช้กวาวเครือแดงหรือกวาวเครือดำก็ได้ ผสมน้ำผึ้ง ครั้งละ 2 เม็ด เช้า-เย็น ยานี้จะสร้างภูมิคุ้มกันอย่ารวดเร็ว

หรือกินว่านสบู่ เลือด(ชนิดเถา) ผสมน้ำผึ้ง ครั้ง 2 เม็ดเช้า-เย็น ถ้ามีอาการตุ่มผื่นคันบางคนก็หายได้ง่าย ๆทั้งบำรุงร่างกายและรักษาตุ่มผื่นคันไปในตัว สมุนไพรพวกนี้บำรุงร่างกาย บำรุง ประสาท บำรุงสมอง บำรุงไขกระดูกซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกัน(สร้างเม็ดเลือดขาว)

กินสมุนไพรที่มีฤทธิต้า เชื้อไวรัส และแก้น้ำเลือดน้ำเหลือง เช่น หัวยาข้าวเย็นเหนือ-ใต้ หัวหนอนตายอยาก หัวยั้ง ช้าพลู พลูคาว เป็นต้น สมุนไพรพวกนี้สร้างภูมิคุ้มกันในระบบน้ำเหลือง และยังทำให้เชื้อไวรัสอ่อนกำลังลงด้วย เมื่อเชื้ออ่อนกำลัง ในขณะที่ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยจะมีร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว

พักผ่อนให้เพียงพอ นอนอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง ออกกำลังกายพอสมควร แต่อย่าหักโหม กินให้อิ่มนอนให้หลับ กินสมุนไพรให้ถูกต้อง งดอาหารแสลง ไม่นานร่างกายก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ สักวันก็อาจแปลกใจเมื่อตรวจเลือดแล้วไม่พบว่ามีเชื้อแต่ประการใด

ที่มา  /www.sanyasi.org

อัพเดทล่าสุด