กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
ผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ไชยเชษฐสุริยวงศ์
ชื่อเล่น “เจ้าฟ้ากุ้ง”
ประสูติ พ.ศ. ๒๒๔๘
สิ้นพระชนม์ พ.ศ.๒๒๙๘ (สาเหตุถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้กับเจ้าฟ้านิ่มหรือเจ้าฟ้าสังวาล ซึ่งพระสนมของพระราชบิดา จึงถูกพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์)
ผลงานที่ทรงพระนิพนธ์
เพลงยาวบางบท บทเห่เรือกากี ๓ ตอน กาพย์เห่เรือ
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง พระมาลัยคำหลวง
กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก นันโทปนันสูตรคำหลวง
บทเห่สังวาสและบทเห่ครวญ อย่างละบท
ลักษณะการแต่ง
แต่งด้วยกาพย์ห่อโคลง ประกอบด้วยกาพย์ยานี ๑๑ มี ๑๐๘ บทและโคลงสี่สุภาพ ๑๑๓ บท ปิดท้ายด้วยโคลงสี่สุภาพ ๒ บท
ลักษณะของกาพย์ห่อโคลงคือขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ๑ บท ตามด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท ใจความเหมือนกัน
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
เพื่อความเพลิดเพลินในการชมธรรมชาติระหว่างการเดินทางไปพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี
สาระสำคัญของเรื่อง
ตอนต้นกล่าวถึงกระบวนเสด็จ พรรณนาสัตว์ป่าตามสภาพของมัน พรรณนาพวกนก พรรณนาพันธุ์ไม้ พรรณนาลำธารและปลา และพรรณนาความสนุกรื่นรมย์ที่ธารทองแดง
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
เที่ยวเล่นเป็นเกษมสุข แสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง
เร่ร่ายผายผาดผัง หัวริกรื่นชื่นชมไพร
สนุกเกษมเปรมหน้าเหลือบ ลืมหลัง
แสนสนุกปลุกใจหวัง วิ่งหรี้
เดินร่ายผายผันยัง ชายป่า
หัวร่อรื่นชื่นชี้ ส่องนิ้วชวนแล
ถอดความ : การเที่ยวเล่นในครั้งนี้ช่างมีความสุข สนุกสนานเหลือเกิน เดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในป่า หัวเราะกระซิกกันอย่างสดชื่นรื่นเริง โดยการชี้ชวนให้ชมธรรมชาติต่างๆ
เลียงผาอยู่ภูเขา หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
รูปร่างอย่างแพะหมาย ขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน
เลียงผาอยู่พ่างพื้น ภูเขา
หนวดพู่ดูเพราเขา ไปล่ท้าย
รูปร่างอย่างแพะเอา มาเปรียบ
ขนเหม็นสาบหยาบร้าย กลิ่นกล้าเหมือนกัน
ถอดความ : เลียงผาอยู่บนภูเขา มีรูปร่างคล้ายแพะ มีหนวดงาม ปลายเขาโค้งไปข้างหลัง ขนหยาบและมีกลิ่นเหม็นสาบ เช่นเดียวกับแพะ
กระจงกระจิดเตี้ย วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู
เหมือนกวางอย่างตาหู มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง
กระจงกระจิดหน้า เอ็นดู
เดินร่อยเรี่ยงามตรู กระจ้อย
เหมือนกวางอย่างตาหู ตีนกีบ
มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย แนบข้างเคียงสอง
ถอดความ : กระจงเป็นสัตว์ที่มีตัวขนาดเล็ก มองดูน่ารักน่าเอ็นดู มีตาหูและตีนกีบเหมือนกวาง มีเขี้ยวน้อยสีขาว ๒ เขี้ยว แต่ไม่มีเขา
ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย ชะนีอุ่ยอุ้ยร้องหา
ฝูงค่างหว่างพฤกษา ค่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง
ฝูงลิงยวบยาบต้น พวาหนา
ฝูงชะนีมี่กู่หา เปล่าข้าง
ฝูงค่างหว่างพฤกษา มาสู่
ครอกแครกไล่ไขว่คว้าง โลดเลี้ยวโจนปลิว
ถอดความ : ฝูงลิงขย่มต้นมะม่วงอยู่ยวบยาบ ฝูงชะนีร้องกู่หาคู่ของมัน ฝูงค่างกระโดดไปมาระหว่างต้นไม้ ฝูงลิงต่างพากันร้องขู่ตะคอก พร้อมทั้งกระโดดไล่ไขว่คว้ากัน
งูเขียวรัดตุ๊กแก ตุ๊กแกแก่คางแข็งขยัน
กัดงูงูยิ่งพัน อ้าปากง่วงล้วงตับกิน
งูเขียวแลเหลื้อมพ่น พิษพลัน
ตุ๊กแกคางแข็งขยัน คาบไว้
กัดงูงูเร่งพัน ขนดเครียด
ปากอ้างูจึงได้ ลากล้วงตับกิน
ถอดความ : งูเขียวตัวเป็นเงามันแต่ไม่มีพิษ ถูกตุ๊กแกคาบไว้ ในขณะเดียวกันงูเขียวก็รัดตุ๊กแกจนต้องอ้าปาก และเข้าไปล้วงตับตุ๊กแกกินเป็นอาหาร
ยูงทองย่องเยื้องย่าง รำรางชางช่างฟ่ายหาง
ปากหงอนอ่อนสำอาง ช่างรำเล่นเต้นตามกัน
ยูงทองย่องย่างเยื้อง รำฉวาง
รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง เฉิดหน้า
ปากหงอนอ่อนสำอาง ลายเลิศ
รำเล่นเต้นงามหง้า ปีกป้องเป็นเพลง
ถอดความ : นกยูงทองย่องเยื้องย่าง แล้วรำแพนหางเชิดหน้าขึ้น เห็นปากงอนอ่อนช้อย แสดงอาการรำเล่นด้วยการยกปีกขึ้นป้องตามเพลง
ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุกแดงแทงเดือยแนม
ปีกหางต่างสีแกม สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน
ไก่ฟ้าหน้าก่ำกล้า ปากแหลม
หัวแดงเดือยแนม เนื่องแข้ง
ปีกหางต่างสีแกม ลายลวด
ตัวด่างอย่างคนแกล้ง แต่งแต้มขีดเขียน
ถอดความ : ไก่ฟ้าหน้าสุกใสมีปากแหลม หัวมีสีแดง กำลังแทงเดือยขึ้นมา ปีกหางและลำตัวมีลวดลายงามเหมือนอย่างคนแกล้งแต่งสีให้มัน
ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู
หนูงูสู้ดูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู
ดูงูขู่ฝูดฝู้ พรูพรู
หนูสู่รูงูงู สุดสู้
งูสู้หนูหนูสู้ งูอยู่
หนูรู้งูงูรู้ รูปถู้มูทู
ถอดความ : งูขู่หนูฟู่ๆ เพราะหนูจะเข้าไปในรูงู งูจึงสู้กับหนู หนูก็สู้กับงู สัตว์ทั้งสองต่างก็รู้เชิงซึ่งกันและกัน โดยทำเป็นมู่ทู่ใส่กัน
นกแก้วแจ้วเสียงใส คลอไคล้คู่หมู่สาลิกา
นกตั้วผัวเมียคลา ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรี
นกแก้วแจ้วรี่ร้อง เร่หา
ใกล้คู่หมู่สาลิกา แวดเคล้า
นกตั้วผัวเมียมา สมสู่
สัตวาฝ่าแขกเต้า พวกพ้องโนรี
ถอดความ : นกแก้วร้องแจ้วๆ เร่ หาคู่ โดยเข้าไปใกล้หมู่นกสาลิกา ส่วนนกกระตั้ว ๒ ตัวผัวเมียกำลังสมสู่กันอยู่ ในขณะที่นกสัตวาจะต้องฝ่านกแขกเต้าเข้าไปหานกโนรี ซึ่งเป็นพวกพ้องของมัน
กระจายสยายซร้องนาง ผ้าสไบบางนางสีดา
ห่อห้อยย้อยลงมา แต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม
กระจายสยายคลี่ซร้อง นงพงา
สไบบางนางสีดา ห่อห้อย
ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมา โบยโบก
แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย แกว่งเยื้องไปมา
ถอดความ : ต้นซ้องนางคลี่ และสไบนางสีดา ต่างก็ยื่นเลื้อยห้อยลงมา แต่ค่าคบไม้น้อยใหญ่ เมื่อยามลมพัดจะแกว่งไปมาดูสวยงามนัก
หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง
ลิงไต่กระไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง
หัวลิงหมากเรียกไม้ ลางลิง
ลางลิงหูลิงลิง หลอกขู้
ลิงไต่กระไดลิง ลิงห่ม
ลิงโลดฉวยชมผู้ ฉีกคว้าประสาลิง
ถอดความ : เถาหัวลิง ต้นหมากลิง และลิงบางตัวก็ขั้นต้นหูลิงทำหน้าหลอกคู่ของมัน บ้างก็ขึ้นไต่กระไดลิงขย่มเล่น บ้างก็ตะโกนฉวยชมพู่คว้ามาฉีกเล่นตามภาษาลิง
ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา
หวั่นว่ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว
ธารไหลใสสะอาดน้ำ รินมา
มัจฉาชาตินานา หวั่นหว้าย
จอกสร่ายกินไคลคลา เชยหมู่
ตามคู่มาคล้ายคล้าย ผุดให้เห็นตัว
ถอดความ : น้ำในลำธารใสสะอาดไหลรินมา หมู่ปลานานาชนิด ต่างหากันว่ายไปมา กินจอกและสาหร่าย โดยว่ายตามกันมาเป็นคู่ๆ และผุดให้เห็นตัวด้วย