[DOC]
นิทานพื้นบ้านจังหวัดชุมพร
api.ning.com/files/N7t3iEdhghkzObcMmYEAqJIy5mjH.../file.doc
รูปแบบไฟล์: Microsoft Word - มุมมองด่วนนิทานเรื่องสะพานรักนางสังข์เป็นนิทานพื้นบ้านของจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสะพานนางสังข์ ผู้เขียนเห็นว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวที่นักเรียนควรสนใจ เพราะเป็นเรื่องราวของท้องถิ่น ...
ตาม่องลาย เป็น นิทานพื้นบ้านที่เล่าขานกันในท้องถิ่นชนบทภาคกลางบริเวณที่อยู่ใกล้ทะเล เช่น เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ตราด ชุมพร เป็นต้น เป็นเรื่องที่อธิบายถึงการเกิดขึ้นของธรรมชาติ เช่น ภูเขา แหลม และเกาะต่างๆ และอธิบายถึงความเป็นมาของสาหร่ายทะเลและหอยบางชนิดด้วย มีเนื้อเรื่องดังนี้
ที่บริเวณหมู่บ้านอ่าวน้อย มีสามีภรรยา คือ ตาม่องลาย และ ยายรำพึง ทั้งสองมีลูกสาวชื่อ นางยม หน้าตาสวย เป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม โดยเฉพาะ เจ้าลาย บุตร ชายของเจ้าเมืองเพชรบุรี ที่นำสิ่งของไปให้ยายรำพึงเสมอๆ จนเป็นที่พอใจของยายรำพึง ส่วนอีกคนคือ เจ้ากรุงจีน ก็เข้าทางตาม่องลาย โดยแวะไปหาพร้อมกับของติดไม้ติดมือไปด้วย ตาม่องลายก็ชอบใจเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายนัดหมายให้มีพิธีแต่งงานในวันเดียวกัน
ต่างยกขันหมากมาพร้อมกัน
ต่อ มาเจ้าลายได้ส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอนางยม ยายรำพึงตกลงยอมยกให้ ซึ่งในขณะนั้นตาม่องลายไม่อยู่บ้าน ฝ่ายเจ้ากรุงจีนก็ติดต่อสู่ขอนางยมกับตาม่องลายเช่นกัน ตามองล่ายได้ตกลงยกให้โดยไม่ปรึกษายายรำพึง และเป็นเรื่องบังเอิญเมื่อทั้งสองฝ่ายนัดหมายให้มีพิธีแต่งงานในวันเดียวกัน
เมื่อถึงวันที่กำหนดไว้ทั้งเจ้าลายและเจ้ากรุงจีนต่างยกขันหมากมาพร้อมกัน ตาม่องลายและยายรำพึงตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร ต่างก็โทษกันไปมา และทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง หยิบของขว้างปาใส่กัน ยายรำพึงหยิบหมวกได้ก็ขว้างไปที่ตาม่องลาย หมวกลอยไปตกริมหาดประจวบฯ กลายเป็นเขาชื่อ "เขาล้อมหมวก" ส่วนตาม่องลายคว้ากระบุงขว้างยายรำพึง กระบุงลอยไปตกที่จังหวัดตราด กลายเป็น "เกาะกระบุง"ยายรำพึงฉวยได้งอบก็ขว้างไปที่ตาม่องลายอีก งอบกระเด็นไปตกเป็น "แหลมงอบ"ที่จังหวัดจันทบุรี ตาม่องลายก็คว้าสากขว้างตอบกลับไป สากปลิวไปโดนเกาะแห่งหนึ่ง ทำให้เกาะนั้นทะลุ จึงได้ชื่อว่า "เกาะทะลุ" และสากไปตกอีกเกาะหนึ่ง กลายเป็น "เกาะสาก"
ต่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร
ทั้ง ตาม่องลายและยายรำพึง ต่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร ยายรำพึงนั้นโมโหมาก ขว้างปาข้าวของจนเหนื่อยหอบ เมื่อหมดแรงก็ลงไปนอน จึงกลายเป็นเขาลูกใหญ่ชื่อ "เขาแม่รำพึง" ที่อ่าวบางสะพานใหม่ ฝ่ายตาม่องลายเองก็โกรธจัด จับนางยมลูกสาวฉีกเป็นสองซีก โยนไปทางเจ้าลายซีกหนึ่ง ไปตกเป็น "เกาะนมสาว" ที่บ้านบางปู อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบฯ อีกซีกโยนไปทางเจ้ากรุงจีน ไปตกเป็น "เกาะนมสาว" ที่จังหวัดชลบุรี
ตาม่องลายโยนข้าวของในขบวนขันหมากทั้งหมากพลูกระจัดกระจายไปตกในที่ต่างๆ โดยพลูไปตกกลายเป็นหอยพลูมวน หมากตกไปกลายเป็นเกาะหมาก ขนมจีนตกไปกลายเป็นสาหร่ายทะเล ปูทอดตกลงไปเป็นปูหิน กระจกส่องหน้าของนางยมลอยไปติดที่เขาลูกหนึ่ง เรียกกันว่า "เขาช่องกระจก" ในเวลาต่อมา ส่วนตะเกียบไปตกกลายเป็น "เขาตะเกียบ" ที่อำเภอหัวหิน จานก็ตกเป็นเกาะจาน อยู่หน้าอ่าวคลองวาฬ เครื่องเพชรเครื่องทองทั้งหลายตกลงไปเป็น หอยดาว หอยทับทิม และแมวไปตกกลางทะเลกลายเป็น "เกาะแมว" ที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
เจ้าลายรู้สึกเศร้าเสียใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้เสียชีวิตลงกลายเป็น "เขาเจ้าลาย" ส่วนตาม่องลายนั้นก็เสียใจอย่างมาก ไปนั่งดื่มเหล้าจนเมามาย สุดท้ายก็เสียชีวิตกลายเป็นภูเขาชื่อ "เขาตาม่องลาย" มาจนปัจจุบัน
ที่มาข้อมูล : มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์. สารานุกรมวัฒนธรรมไทย (ภาคกลาง) เล่ม ๕ : กรุงเทพฯ.
----------
นิทานพื้นบ้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความอกตัญญูรู้คุณผู้มีอุปการะ บิดามารดา ทำให้เกิดหายนะ เขาทะนาน ตั้งอยู่ชายฝั่งอันดามัน ที่บ้านมะหงัง ตำบลทุ่งบุหลัง อำเภอทุ่งหว้า เนินเขาสูงชั้น มีธรรมชาติสวยงดงาม มีสำนักสงฆ์และสุเหร่า สำหรับปฏิบัติธรรมของชาวไทย และชาวไทยมุสลิมภูเขา
.....ตำนาน เล่ากันมา มีตากับยาย อยู่สองคน นับถือศาสนาพุทธ ตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านพระม่วง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง มีลูกชายหนึ่งคนเป็นบุคคลที่ลักษณะดี อยู่มาวันหนึ่งมีเรือสำเภาของพ่อค่าต่างชาติ ได้นำสินค้ามาขายท่าเรือกันตัง ทั้งสามคนไปชมสินค้า ขณะชมอยู่นั้น นายสำเภาได้เห็นลูกชายตายายน่ารักและเกิดความสงสาร ขอเป็นบุตรบุญธรรม สองตายายจึงยกให้เพราะเห็นลูกชายจะได้อยู่สุขสบาย
.....เมื่อนาย สำเภาขายสินค้าหมดจึงออกเรือ พร้อมบุตรบุญธรรม จำหน่ายสินค้าไปยังที่ต่าง ๆ จนร่ำรวยเป็นเศรษฐี เด็กชายที่นำมาเลี้ยงมีความสุขในกองเงินกองทองจนลืมคิดถึงสองตายาย ไม่ได้กลับบ้านมานาน และได้เล่าเรียนหนังสือให้สมได้ดี
.....ครั้น โตขึ้นก็แต่งงานกับลูกสาวนายสำเภา อยู่กินอย่างมีความสุข ฝ่ายภรรยาคิดถึงพ่อสามี รบเร้าให้ไปหา สามีพยายามบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง แต่ทนรบเร้าของภรรยาไม่ไหว จึงส่งข่าวให้สองตายายทราบล่วงหน้าฝ่ายสองตายายทราบข่าวดีใจมาก บอกเพื่อนบ้าน ญาติมิตรให้ทราบจัดที่รับรอง พอใกล้ถึงเวลากลับ สองตายายฆ่าหมู หนึ่ง ตัว เพื่อเลี้ยงรับรอง
......สองสามีภรรยานำ เรือมาจอดท่าเรือกันตัง ส่งลูกเรือไปสืบดูว่า สองตายายมาหรือไม่ จึงชวนภรรยาขึ้นไปหา ลูกชายเห็นสองตายายยากจน ไม่ยอมรับว่าเป็นบิดามารดา จึงหันหลังกลับ ฝ่ายยายพยายามดึงแขนลูกไว้ ลูกชายดิ้นรนหนีไม่ได้
....... แม่เกิดความเสียใจมากถึงกับสาปแช่งว่า หากเป็นลูกชายของตนแล้ว ขออย่าให้ออกจากฝั่งไปได้ ขอให้มีอันเป็นไปต่าง ๆนานา "แต่ไม่ลืมหมูย่างไปวางไว้ที่เรือสำเภา" ขณะที่ชุมชนวุ่นวายอยู่นั้น เกิดพายุใหญ่พัดมา ทำให้เรือสำเภาแตก สิ่งของกระจัดกระจายลอยไปในทะเล ในที่สุดมีผู้เฒ่าเล่าว่า สายสมอเป็น "หินสายสมอ" เรือสำเภากลายเป็น "เกาะเภตรา" หมูย่างเป็นเกาะสุกร ตะบัน (ผ้าโพกหัวมุสลิม) เป็นภูเขาบัน เครื่องตวงสินค้าในเรือ เป็นภูเขาป้อย ภูเขาแล่ง ภูเขาทะนาน
เมื่อ๗๐ปีที่ผ่านมาภิกษุรูปหนึ่งมาจากพัทลุงมาปักกลดและสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นและสร้างรูปปั้นไว้รูปหนึ่ง