อ่าน สิวอุดตัน pantip วิธีรักษาสิวอุดตัน รักษาสิวอุดตัน เป็นสิวอุดตันทําไงดี ทำ เลเซอร์สิวอุดตัน ดีไม่
เพื่อนๆ ทราบไหมค่ะ บนในหน้าใสๆ ของเรานั้นมีบริเวณไหนที่มักจะก่อให้เกิดสิวอุดตันได้ง่าย วันนี้เรามีคำตอบมาบอกเพื่อนๆ ให้ได้ทราบกันแล้วค่ะ และนอกจากจะเป็นบริเวณที่สิวอุดตันเกิดขึ้นได้ง่าย การเกิดสิวตามบริเวณต่างๆ นี้ยังสามารถบอกความผิดปกติของร่างกายในส่วนต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ
บริเวณสำคัญที่มักสร้างปัญหากวนใจ และเกิดสิวอุดตันได้ง่ายนั้นมีอยู่ 5 จุดด้วยกันค่ะ ทั้งนี้ยังบ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกายอีกด้วย มาเริ่มกันที่
จุดที่ 1. บริเวณหน้าผาก บ่งบอกถึงการทำงานของระบบการย่อยอาหาร และกระเพาะปัสสาวะ
จุดที่ 2. บริเวณคิ้ว บ่งบอกถึงการทำงานของตับ
จุดที่ 3. บริเวณแก้ม ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดสิวได้ง่ายที่สุดของใบหน้า บ่งบอกถึงการทำงานของระบบทางเดินหายใจ
จุดที่ 4. บริเวณจมูก และริมฝีปาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดของการเกิดสิว ทั้งสิวอุดตัน และสิ้วเสี้ยน บ่งบอกถึงการทำงานของความดันโลหิต และจุดสุดท้าย
จุดที่ 5. บริเวณคาง ที่มักอาการแดง และสิวอุดตัน บ่งบอกถึงการทำงานของลำไส้เล็ก และระบบย่อยอาหาร
หลังจากที่เพื่อนๆ ได้ทราบกันไปแล้วทั้ง 5 จุดสำคัญบนใบหน้าที่กล่าวมานี้เป็นจุดที่มักก่อให้เกิดสิวอุดตัน รวมทั้งสิวอักเสบ และยังเป็นจุดที่บ่งบอกถึงการทำงานทีผิดปกติของร่างกายด้วย จึงควรดูแลรักษาผิวหน้า และร่างกายให้มีความแข็งแรง และสุขภาพดีอย่างสม่ำเสมอนะคะ
วิธีรักษาสิว
สิวแบ่งเป็น 2 ชนิด
1.สิวไม่อักเสบ เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน (COMEDONE) แบ่งเป็น 2 ชนิด
1.1 สิวหัวปิด เห็นเป็นตุ่มเล็ก ๆ หัวขาว ๆ
1.2 สิวหัวเปิด หรือ สิวหัวดำ
2.สิวอักเสบ คือสิวที่หัวแดง ๆ หรือ เป็นหนอง พวกนี้ก็คือ (COMEDONE) ที่มีการติดเชื้อ(BACTERIA) แทรกซ้อน ดังนั้น ถ้าเป็นสิวอักเสบ การทำความสะอาด ใบหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ และการป้องกันไม่ให้มีการอุดตันที่รูขุมขน (COMEDONE) โดยการใช้น้ำเปล่าล้างหน้าในตอนกลางวัน ก็พอจะช่วยให้สิวลดลงหรือป้องกันไม่ให้สิวใหม่เกิดขึ้น แต่ถ้าเป็นสิวอักเสบ คงต้องปรึกษาแพทย์ เพราะต้องใช้ปฏิชีวนะ (กินหรือทาแล้วแต่ความรุนแรงของสิว)
สิวอักเสบควรจะต้องรีบรักษา ถ้าไปแกะหรือบีบหนองออก จะเป็นรอยแผลเป็น บุ๋มตลอดไป รักษายากมาก
การนอนดึกทำให้สิวเพิ่มขึ้น ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นสิวอักเสบ อาจเป็นเพราะ
1.ร่างกายอ่อนแอ เชื้อ Becteria ในสิวทำให้มีการอักเสบมากขึ้น
2.Hormone เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะใน ผู้หญิง ตัวอย่างเช่น บางคนประจำเดือน หรือขณะตั้งครรภ์ จะมีสิวเพิ่มขึ้น
การรักษาสิวมีหลักง่ายๆ 2 วิธี คือ
1. ถ้าเป็นสิวเม็ดเล็กๆ จำนวนไม่มาก ก็ทำความสะอาดผิวหนังและใช้ยาทารักษาสิวบ้างเป็นบางครั้ง
2. ถ้าเป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ หลายๆเม็ด ก็ต้องรับประทานยาแก้อักเสบร่วมด้วย
" เรียนผู้ที่มีปัญหากับเรื่องของสิว ! "
(ถ้าท่านทำตามที่ผมบอกแล้วท่านจะหายได้ หรือก็ บรรเทาทุเลาลงได้บ้างไม่มากก็น้อย)
1. ห้ามทานช็อกโกเล็ต เพราะ จะทำให้เกิดไขมันที่ใบหน้า ซึ่งไขมันจะไปอุดตันบริเวณใบหน้า และส่วนอื่น ๆ ทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
2. ห้ามทานน้ำอัดลม เพราะ ในน้ำอัดลมจะมีกรดจะทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
3. ห้ามทานอาหารเผ็ด เพราะ อาหารเผ็ดจะไปสร้างปฏิกริยาต่อต้านทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
4. ห้ามนอนดึก เพราะ ร่างกายของคนเราจะต้องใช้พลังงานในตอนเช้าจึงจำเป็นที่จะต้องการพักผ่อนมาก ๆ ถ้าร่างกายขาดส่วนนี้ก็จะทำให้เสียสมดุล และจะทำให้เลือดในร่างกายเสียอีกด้วย และจะเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
5. ห้ามเครียด เพราะ การที่เราเครียดนั้นจะส่งผลกระทบต่อร่างกายทุกส่วน แล้วแต่ว่าร่างกายของแต่ละคนนั้นจะแสดงออกมาทางไหน บางคนแสดงออกทางใบหน้าโดยออกมาในรูปของการเป็นสิว ฯลฯ เราจะต้องมีความสบายใจไม่ต้องมีความเครียด เปิดใจไปกับสายลม ไปกับธรรมชาติที่มีสีเขียวสดใสสบายตา แต่ไม่ใช้ว่าเราจะต้องป่อยซะทุกเรื่อง และอย่าเก็บเรื่องเก่า ๆ มานั้งคิดให้ปวดหัว จนเกิดอาการเครียดขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลต่อตัวของเรานั้นเอง
6. ห้ามช่วยตัวเอง เพราะ การทำเช่นนี้จะส่งผลต่อฮอร์โมนของร่างกาย และทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
7. จะต้องขับถ่ายทุกวัน เพราะ การขับของเสียออกจากร่างกายจะไม่ทำให้ของเสียสะสมอยู่ในร่างกาย และจะช่วยให้ระบบ และความสมดุลในร่างกายนั้นดีอีกด้วย
* ( สิ่งที่กล่าวมานี้ล้วนแต่เป็นวิธีที่จะแก้สาเหตุของการเกิด สิวได้ไม่มากก็น้อย แต่ผมก็ต้องขอให้ทุก ๆ คนนำคำแนะนำของผมไปปฏิบัติ ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด มันอาจจะเป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ และสุดท้ายนี้ผมก็ต้องขอบฝากอะไรไว้หนึ่งอย่างว่า "การที่เราจะทำอะไรนั้นมันต้องใช้เวลาและความพยายามเสมอ"...
ข้อแนะนำ สำหรับคุณผู้ที่มีสิวจากผิวมัน
1.เลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil Free)
2.ควรมีและใช้กระดาษซับมันในระหว่างวัน หรือถ้าเขินก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าก็ได้
3.อาจล้างหน้าบ่อยๆวันละ 3-4 ครั้ง แต่ไม่ควรใช้สบู่แรงๆเพื่อลดความมันเพราะไม่นานผิวหน้าก็จะขับความมันออกมา อีกและอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ จึงควรใช้สบู่อ่อนๆและไม่มี Moistur
4.ควรสระผมทุกวัน
5.ใช้สครับขัดหน้าสัปดาห์ ละ 2-3 ครั้ง สำหรับท่านที่ใช้ รถมอร์เตอร์ไซด์เป็นประจำควรใช้มากกว่านั้น
6.ปรับสภาพผิว สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
7.ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวมัน
ปัจจัยที่พบว่ามีผลให้เกิดสิวหลังช่วงวัยรุ่น (adult acne)
- ยาคุมกำเนิดที่มีระดับของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง
- ความเครียด
- วัยหมดระดู
- ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ซีสต์รังไข่
- ยาบางชนิด เช่นยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคทางจิตเวชบางตัว
- เครื่องสำอางค์
- การสัมผัสนํ้ามันบางอย่างเช่น นํ้ามันใส่ผม
- พันธุกรรม
ทำอย่างไรเมื่อมีสิว ?
ข้อปฏิบิติทั่วไป
- ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน วันละ ๑ ถึง ๒ ครั้ง อย่าขัดถูหน้าแรงๆ จะทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น การล้างหน้าบ่อยไม่ได้ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นเพราะสิวไม่ได้เกิดจากความสกปรก
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น อย่าบีบ หรือ แกะสิว อย่าใช้มือที่ไม่สะอาดไปถูกต้องบริเวณใบหน้า
- สระผมให้สะอาด ถ้าเส้นผมมัน คุณมีโอกาสเกิดสิวบริเวณไรผมได้ง่าย
- ถ้าคุณใช้เครื่องสำอางค์ เลือกใช้ชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน (non-comedogenic)
- หลีกเลี่ยงความเครียด
การใช้ยาทา
- คุณอาจลองใช้ยาที่มีส่วนประกอบของ benzoyl peroxide ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ยานี้ช่วยลดจำนวนเชื้อแบคทีเรีย ใช้ได้ดีในสิวที่ตื้นๆ แต่มีผลข้างเคียงทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งและลอกได้ ยานี้มีหลายความเข้มข้น ควรเลือใช้ความเข้มข้นที่ตํ่าๆก่อน เช่น ในรูปครีม ๒.๕ เปอร์เซนต์ และทาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิว วันละ ๑ ถึง ๒ ครั้ง
- การใช้สารจำพวก AHA,BHA ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนได้ (comedolytic)
กรณีมีสิวขึ้นที่หลังหรือหน้าอกทางที่ดี แนะนำให้อย่าไปแกะหรือเกา แนะนำให้รักษาความสะอาดของร่างกาย กรณีที่แกะเกาจะกระตุ้นให้เกิดรอยดำมากขึ้น ทางที่ดีแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ทางด้านโรคผิวหนังเพื่อทำการตรวจหาสาเหตุของการ เกิดสิวพร้อมทั้งให้การรักษาอย่างถูกต้อง
Posted by reallygirl2 at 7:43 AM
น้ำมะนาว รักษาสิวด้วย"วิธีธรรมชาติ"
ใช้น้ำมะนาวเพื่อบรรเทา / รักษาสิว เป็นวิธีธรรมชาติในการรักษาสิวที่ง่ายและปลอดภัย
สามารถใช้ได้ทั้งทา บนผิวและดื่ม ทั้งสองวิธีจะช่วยลดการเกิดสิวและรอยแผลเป็นทั้งภายนอกและภายใน
ได้ มีทดลองใช้น้ำมะนาวทั้งสองวิธีแล้ว (ทาโดยตรงบนผิวหน้า และดื่ม) และพบว่าภายใน 3 สัปดาห์ สิวก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าการผสมน้ำมะนาวกับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน จะช่วยให้ผลเร็วขึ้น
ทาน้ำมะนาวโดยตรงบนสิว
น้ำมะนาวมีกรดผล ไม้ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ทำงานโดยการลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ ตายแล้ว ยังช่วยชำระรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใสด้วย
สูตร น้ำมะนาว / วิธีใช้
1.ล้างหน้าให้สะอาด
2.บีบน้ำมะนาว 1 ช้อนชาในถ้วยเล็ก ใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก อาจผสมน้ำหากรู้สึกว่าแสบเกินไป
3.ป้ายน้ำมะนาวลงบนสิว สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวหัวหนอง
4.ทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก ล้างออกตอนเช้า และทาอีกครั้งก่อนเมคอัพ (หากคุณต้องใช้เมคอัพ)
5.หาก รู้สึกว่าน้ำมะนาวนั้นแรงเกินไป แม้ว่าจะผสมน้ำให้เจือจางแล้วก็ตาม ให้ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
วิธีการนี้ใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำจึงจะเห็นผล
ดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาสิว
สามารถ ใช้วิธีการดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาและทำความสะอาดภายในร่างกาย หรือขจัดสารพิษออกจากตับ และเพื่อให้การดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย น้ำมะนาวนั้นเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ ที่ช่วยให้กระชุ่มกระชวย ดื่มง่าย และทำได้ง่าย
ความจริงแล้วการ รักษาสิวด้วยการดื่มน้ำมะนาวนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ที่ทุกคนควรดื่ม (สำหรับคนที่ไม่แพ้มะนาว) ประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านั้นคือ :
-ขจัดกรด ต่าง ๆ ที่ตกค้างออกไป เพราะน้ำมะนาวมีแร่ธาตุต่าง ๆ (วิตามินซี, โพแทสเซียม)
-บรรเทาอาการท้องผูก
-ทำความสะอาดตับด้วยกรดซิ ตริก และสร้างเอนไซม์เพื่อขจัดสารพิษในเลือด
-ช่วยกระบวนการย่อย อาหาร
-กำจัดนิ่วในไต และตับอ่อน
การรักษาสิวโดยการดื่มน้ำ มะนาว สูตร 1
1.บีบน้ำมะนาว 1 ผลลงในแก้ว
2.เติมน้ำเปล่า 2 ถ้วย (ถ้วยละ 8 ออนซ์)
3.ดื่มน้ำมะนาวที่ผสมนี้ได้ทั้งวัน
การ รักษาสิวโดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 2
1.บีบน้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำอุ่นที่ต้มแล้ว 1 ถ้วย (8 ออนซ์)
2.ดื่มเป็นสิ่งแรกของวัน ในตอนเช้า
3.หลังจากดื่มน้ำมะนาว งดการดื่ม หรือรับประทานสิ่งใด ๆ ภายในครึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำมะนาวได้ชำระล้างร่างกาย
Source: https://thai-acne-care.blogspot.com/
สิวหัวดำเกิดจากสิวอักเสบและสิวอื่นๆที่ยุบตัวลงและกลายไปเป็นสิวหัวดำ
การมาส์กหน้าก็ช่วยดึงสิวหัวดำหรือสิวเสี้ยนออกจากรูขุมขนได้เช่นกัน
สิวหัวดำหรือสิวเสี้ยนเป็นตัวก่อกวนและก่อปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ และอาจทำให้เกิดสิวอักเสบได้ มันเกิดขึ้นจากการที่น้ำมันตามธรรมชาติของผิวที่เรียกว่าซีบัมสะสมตัวและแข็งตัวภายรูขุมขน และเมื่อผสมกับสารพิษที่พยายามจะหลบหนีออกจากผิวของคุณ มันจะกลายเป็นกาวเหนียวอุดอยู่ โดยมีส่วนปลายที่เป็นสีดำโผล่ขึ้นมาเหนือผิว อันเป็นที่รู้จักกันในนามของสิวหัวดำหรือสิวเสี้ยน ถ้าคุณมีผิวผสมหรือผิวมัน ก็มีโอกาสอย่างมากที่คุณจะต้องผจญกับสิวประเภทนี้
การเยียวยาสิวหัวดำด้วยวิธีธรรมชาติ
มีคำตอบจากธรรมชาติหลายอย่างที่ช่วยกำจัดสิวหัวดำจากใบหน้าของคุณได้ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเหล่านี้ในบริเวณที่มีปัญหา
น้ำผึ้ง อุ่นน้ำผึ้งเล็กน้อย และทาลงบริเวณที่มีปัญหา 10-15 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งเป็นวิธีที่รู้จักกันดีและมีประสิทธิภาพอย่างมากในการกำจัดสิวเสี้ยน
เบกกิ้งโซดาและน้ำ ผสมเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 3 ช้อนโต๊ะ ถูส่วนผสมนี้ลงบนผิวสองสามนาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น มันจะกำจัดสิวเสี้ยนออกอย่างมีประสิทธิภาพ
น้ำมะนาว ใช้น้ำมะนาวทาบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน วันละสองถึงสามครั้ง น้ำมะนาวจะทำให้รูขุมขนตึงขึ้นและทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวน้อยลง
มาส์กข้าวโอ๊ตกับกุหลาบ ทรีตเมนต์นี้ช่วยกำจัดสิวหัวดำที่คุณมีอยู่แล้ว และป้องการเกิดขึ้นใหม่อีก วิธีการคือผสมข้าวโอ๊ตบดละเอียดกับน้ำกุหลาบให้เป็นส่วนผสมข้น ๆ ทาส่วนผสมลงบนหน้าบริเวณที่เป็นปัญหาทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำเย็น ซึ่งจะช่วยปิดรูขุมขนที่เพิ่งทำความสะอาดมาใหม่ๆ ป้องกันการเกิดสิวหัวดำต่อไป
มันฝรั่ง มันฝรั่งดิบสับละเอียดสามารถใช้รักษาปัญหาผิวได้หลายอย่างรวมทั้งสิวหัวดำ โดยพอกมันฝรั่งลงบนผิวที่เป็นปัญหาโดยตรง ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก ล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาด