เครียดงาน ทำไง วิธีการจัดการ งานสุดเซ็งให้กลับชื่นมื่น เงินน่ะนะ ใช้ซื้อใจคนไม่ได้หรอก


953 ผู้ชม


เครียดงาน ทำไง วิธีการจัดการ งานสุดเซ็งให้กลับชื่นมื่น เงินน่ะนะ ใช้ซื้อใจคนไม่ได้หรอก
วิธีการจัดการ งานสุดเซ็งให้กลับชื่นมื่น

ปัญหาจากการทำงานอาจทำให้คุณเบื่อ บ้างเป็นบางหน ขี้เกียจบ้างเป็นบางทีหนักข้อกว่านั้นก็คือทำให้คุณเซ็งชีวิตหมดสิ้นกำลัง กายกำลังใจไปเลย ต่อไปนี้คือสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเข้าขั้นเซ็งกับงานเต็มแก่

1. เหม็นหน้าเพื่อนร่วมงาน ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไปกันได้ดีพักนี้กลับรู้สึกรำคาญ ขี้เกียจผูกมิตร

2. อยู่ออฟฟิศแล้วร้อน แค่นึกว่าต้องรีบตื่นไปทำงานก็แทบไม่อยากจะลุกจากที่นอนแล้ว คุณก็เลยมาทำงานสายสุดขีด แล้วยังเอาแต่นั้งรอเวลาเลิกงาน เพื่อที่จะเผ่นในทันทีทันใด

3. หมดไฟ ไม่รู้สึกกระตือรือร้นอยากทำอะไร ไม่รู้สึกภูมิใจในผลงาน แล้วงานก็พอกหางหมูเต็มโต๊ะ

4. รู้สึกได้ว่าป่วย ทั้งอ่อนเพลีย ปวดหัว กล้ามเนื้อ ปวดเกร็ง นอนไม่หลับ

                 เครียดงาน ทำไง วิธีการจัดการ งานสุดเซ็งให้กลับชื่นมื่น เงินน่ะนะ ใช้ซื้อใจคนไม่ได้หรอก

ถ้ามีอาการเหล่านี้ ก็ฟันธงได้เลยว่าคุณกำลังเซ็งกับงานขนาดหนัก จากการที่ปัญหาและความตึงเครียดต่างๆ ค่อยๆ สะสมมาจนถึงระดับที่คุณเกินจะรับไหวเสียแล้วละคะ
ขืนปล่อยทิ้งไว้ไม่ เพียงอนาคตการงานจะแย่ แต่ยังอาจทำลายสุขภาพของคุณได้โดยที่ไม่รู้ตัว เพราะสามารถนำพาโรคร้าย ทั้งไมเกรน ปัญหาของระบบย่อยอาหาร ความดันสูง และอาจเป็นโรคหัวใจได้เชียวละ ไม่คุ้มกันเลยนะคะที่จะเอาร่างกายไปเดิมพันกับงาน ดังนั้นมาดูกันหน่อยว่าจะแก้ไขความเซ็งนี้อย่างไรดี

1. เปิดใจคุยกับเจ้านายถึงปัญหาในการทำงานที่คุณแก้ไม่ตก
เผื่อ ว่าเจ้านายจะยื่นมือเข้ามาช่วยคุณได้ เช่น งานล้นมือ จะส่งให้ข้างนอกช่วยทำบ้างได้ไหม หรือว่าจะขยายเดทไลน์ออกไปอีกได้ไหม หรือว่าจะจัดแบ่งงานใหม่ให้คนอื่นในแผนกทำด้วย

2. หัดปฏิเสทด้วยวิธีการที่นุ่มนวล ไม่ใช่ว่ารับปากไปหมดทุกอย่างเพราะความขี้เกรงใจ
แล้ว ต้องมาเครียดเองทีหลัง ลดเป้าหมายทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวอย่าสัญญาหรือ ตั้งเป้าที่เกินตัว ถึงแม้ว่าจะทำให้คนรอบข้างมีความสุข แต่ถ้าคุณไม่มีความสุขที่จะทำเสียแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะคะ

3. ลองทบทวนถึงเป้าหมายหรือความตั้งใจต่างๆ
เพราะบางทีคุณอาจจะตั้งเป้าไว้สูงเกินไปเลยทำให้ชีวิตเครียดก็เป็นได้นะคะ

4. หยุดพักบ่อยๆ ในระหว่างชั่วโมงทำงานที่เคร่งเครียด
และควรหาเวลาพักนานๆ เพื่อผ่อนคลายให้สมองปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น

5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
เพราะถ้าร่างกายยิ่งอ่อนแรง คุณเองก็จะยิ่งอ่อนเพลียละเหี่ยใจเข้าไปใหญ่

6. รู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเสมอ
แล้วหาวิธีผ่อนคลายความเครียดที่เหมาะกับตัวเองที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือเข้าวัดทำสมาธิ

ที่มา : เว็บไซต์ pattanakit

อัพเดทล่าสุด