โครงสร้างกรดไขมันไม่อิ่มตัว กรดไขมันที่จำเป็น ในการเลือกซื้อน้ำมันสำหรับปรุงอาหาร ควรเลือกน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัว
เจออีกลอตตุนน้ำมันปาล์ม
โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์มของผู้ผลิตรายใหญ่ กักตุนน้ำมันปาล์มมากกว่า 1 ล้านขวด โดยไม่ยอมออกจำหน่าย ล่าสุดยังมีการกักตุนอีก เลี่ยงจากการบรรจุขวด แล้วหามาบรรจุ
ปี๊บกับใส่ถุงแทน ซึ่ง รมว.พาณิชย์ เรียกประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร)
ออกประกาศบังคับให้นำสินค้าออกขาย และพิจารณานำสินค้าน้ำมันปาล์มเป็นสินค้าควบคุมด้วย
ประเด็นศึกษา เรื่อง ไขมันและน้ำมัน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ วิชาเคมี่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ไขมันและน้ำมัน เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ไขมัน (Fat) เป็นของแข็งและน้ำมัน (Oil) เป็นของเหลวที่อุณหภูมิ 25C ทั้งไขมันและน้ำมันจะเรียกรวมว่า ไลปิด (Lipid)
หน้าที่ที่สำคัญของไขมันและน้ำมัน คือ
1. เป็นโครงสร้างที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์
2. เป็นแหล่งพลังงานของสิ่งมีชีวิต การเผาผลาญไขมันอย่างสมบูรณ์จะให้พลังงานประมาณ 9.0
กิโลแคลอรีต่อกรัม ในขณะที่คาร์โบไฮเดรตให้พลังงาน 4.0 กิโลแคลอรีต่อกรัม และโปรตีน
ให้พลังงาน 4.2 กิโลแคลอรีต่อกรัม
3. ไขมันยังเป็นนวมป้องกันอวัยวะภายในต่าง ๆ
4. เป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์แบคทีเรีย พืชชั้นสูง นอกจากนั้นยังเป็นส่วนประกอบ ของผิวหนังและ
ระบบประสาทของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
ไขมันและน้ำมันถ้ารับประทานเกินความต้องการของร่างกาย ส่วนที่เหลือจะเปลี่ยนไขมันสะสมไว้ในร่างกาย ไขมันและน้ำมันพบได้ทั้งในสัตว์และในพืช เช่น ไขมันวัว ส่วนในพืชมักพบในผลและเมล็ด เช่น มะพร้าว ปาล์ม
ถั่วเหลือง เมล็ดฝ้าย เมล็ดทานตะวัน รำข้าว เป็นต้น
ภาพจาก https://www.google.co.th/images?hl=th
กรดไขมัน (Fatty acid)
กรดไขมัน แยกประเภทตามค่าจุดหลอมเหลวได้ 2 ประเภท คือ กรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันไม่อิ่มตัว
กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated fatty acids) เป็นกรดไขมันที่มีจุดหลอมเหลวสูง โดยปกติจะมีสถานะเป็น
ของแข็ง กรดไขมันที่ในโมเลกุลมีจำนวนไฮโดรเจนอะตอมอยู่เต็มที่ หรือพันธะระหว่างคาร์บอนอะตอมเป็น
พันธะเดี่ยวทั้งหมด กรดไขมันชนิดนี้มีสูตรทั่วไปเป็น CnH2n+1COOH เมื่อ n = เลขจำนวนเต็มบวก
และโดยทั่วไปมักจะมีค่าตั้งแต่ 11 ขึ้นไป
ตัวอย่างกรดไขมันอิ่มตัว เช่น กรดลอริก (C11H23COOH) กรดปาล์มิติก (C15H31COOH)
กรดสเตียริก (C17H35COOH)
กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acids) เป็นกรดไขมันที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ โดยอุณหภูมิปกติจะมีสถานะเป็นของเหลว คือ กรดไขมันที่โมเลกุลมีจำนวนไฮโดรเจนน้อยกว่าปกติ หรือ กรดไขมันที่โมเลกุลส่วนที่เป็นไฮโดรคาร์บอน พันธะระหว่างอะตอมของคาร์บอนกับคาร์บอนจับกันด้วยพันธะคู่อย่างน้อย 1 พันธะ นอกนั้นเป็นพันธะเดี่ยวหมด กรดไขมันประเภทนี้มีจำนวนไฮโดรเจนไม่เป็นไปตามสูตร CnH2n+1COOH เช่น
- กรดโอเลอิก (C17H33COOH) มี ไฮโดรเจนน้อยกว่าปกติ 2 อะตอม
- กรดไลโนเลอิก (C17H31COOH) มีไฮโดรเจนน้อยกว่าปกติ 4 อะตอม
- กรดปาล์มิโตเลอิก (C16H25COOH) มีไฮโดรเจนน้อยกว่าปกติ 8 อะตอม
สูตรโครงสร้างของกรดไขมันไม่อิ่มตัวนั้น ส่วนใหญ่จะมีพันธะคู่อยู่ระหว่างคาร์บอนตำแหน่งที่ 9 กับ 10
นับจากปลายทางด้านหมู่คาร์บอกซิล
กรดไขมันที่พบในธรรมชาติ ส่วนใหญ่มีจำนวนคาร์บอนเป็นเลขคู่ คือ ประมาณ 14 -22 อะตอม แต่ที่พบมาก
เป็นกรดไขมันที่มีคาร์บอน 16 หรือ 18 อะตอม กรดไขมันอิ่มตัวที่พบมากที่สุด คือ กรดปาล์มิติก รองลงมา คือ
กรดสเตียริก ส่วนกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่พบมากที่สุด คือ กรดโอเลอิก
ความแตกต่างระหว่างกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันไม่อิ่มตัว
1. กรดไขมันอิ่มตัวมีจุดหลอมเหลวสูงกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัว
2. ถ้าเปรียบเทียบจำนวนอะตอมของคาร์บอนเท่ากันของกรดไขมัน
กรดไขมันชนิดอิ่มตัว จะมีจำนวนอะตอมของไฮโดรเจนมากกว่ากรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เช่น
กรดสเตรียริก (C17H35COOH) เป็นกรดไขมันอิ่มตัวจุดหลอมเหลว 70 องศาเซลเซียส
กรดโอเลอิก (C17H33COOH) เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว จุดหลอมเหลว 13.4 องศาเซลเซียส
3. กรดไขมันอิ่มตัวจะไม่เหม็นหืน เมื่อตั้งทิ้งไว้ในอากาศ เพราะไม่มีอะตอมของไฮโดรเจนว่าง ทำให้
ไม่เกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ กรดไขมันอิ่มตัวจะเหม็นหืน เพราะสามารถทำปฏิกิริยากับ
ออกซิเจนในอากาศได้
4. กรดไขมันไม่อิ่มตัวแข็งตัวง่ายและย่อยยาก ทำให้อาจเกิดการอุดตันในเส้นเลือด ส่วน
กรดไขมันไม่อิ่มตัวแข็งตัวยากและย่อยง่ายทำให้ไม่เกิดการอุดตันในเส้นเลือด
องค์ประกอบของไขมันและน้ำมัน
ไขมันและน้ำมันเป็นสารประกอบที่เรียกว่า ไตรกลีเซอรไรด์ (triglycerides) เกิดจากกรดไขมัน 3 โมเลกุล ทำปฏิกิริยากับกลีเซอรอล 1 โมเลกุล
สมบัติของไขมันและน้ำมัน
1. การนำไฟฟ้า ไขมันและน้ำมันเป็นสารที่ไม่นำไฟฟ้า
2. ความหนาแน่น ไขมันและน้ำมันมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ กล่าวคือ มีความหนาแน่นประมาณ 0.8 g/cm3
3. สี กลิ่น และรส ไขมันและน้ำมันบริสุทธิ์ ส่วนมากไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรส
4. จุดเดือดและจุดหลอมเหลว ไขมันมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูงกว่าน้ำมัน เพราะไขมันประกอบด้วย
ส่วนที่มาจากกรดไขมันไม่อิ่มตัว เป็นผลทำให้ไขมันเกิดแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลมากกว่าพวกไขมัน
ด้วยกันเองหรือพวกน้ำมันด้วยกันเอง จะมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูงขึ้นตามจำนวนอะตอมที่เพิ่มขึ้น
ในโมเลกุล
5. ไขมันและน้ำมัน ไม่ละลายในน้ำ แต่ละลายได้ในตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น เฮกเซน เบนซีน อีเทอร์ เป็นต้น
การทดสอบไขมัน
สามารถทำได้โดยการนำมาถูกกับกระดาษแล้วมองผ่านกระดาษ ถ้ากระดาษโปร่งแสงแสดงว่าเป็นไขมัน
แหล่งที่มา : sahavicha.com