ศูนย์อาเซียนศึกษา วิชา อาเซียนศึกษา เนื้อหาอาเซียนศึกษา
การสอน ASEAN
สัญลักษณ์อาเซียน คือ ต้นข้าวสีเหลือง 10 ต้นมัดรวมกันไว้ หมายถึงประเทศสมาชิกรวมกันเพื่อมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สีน้ำเงิน หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและความก้าวหน้า สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ และ สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ)
หลักการรวมกลุ่มประชาคมอาเซียน ๑. การเมือง ๒. เศรษฐกิจ Market/free (สินค้า ปริมาณมากขึ้น ราคาจะถูก) เช่น พืชพรรณการเกษตร(แต่ผลิตผลทางการเกษตรต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เกษตรกรอาจเดือดร้อน) ๓. สังคมและวัฒนธรรม เป้าหมาย AEC ปี ๒๕๕๘ ๑. เป็นตลาดและฐานการผลิตร่วม - เคลื่อนย้ายสินค้าเสรี - เคลื่อนย้ายบริการเสรี - เคลื่อยย้ายการลงทุนเสรี - เคลื่อนย่ายแรงงานฝีมือเสรี - เคลื่อนย้ายเงินทุนเสรีมากขึ้น
๒. เสริมสร้างขีดความสามารถแข่งขัน - นโยบายภาษี - นโยบายการแข่งขัน - สิทธิทรัพย์สินทางปัญญา - การคุ้มครองผู้บริโภค - พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ๓. การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค - ลดช่องว่างการกระจายรายได้ระหว่างประเทศ (สมาชิกเก่า กับ ใหม่) - สนับสนุนการพัฒฯ SME ๔. การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก - ปรับประสานนโยบายเสราฐกิจ - สร้างเครือข่ายการผลิต จำหน่าย - จัดทำ FTA กับประเทศนอกภูมิภาค ๒. โอกาสและปัจจัยเสี่ยง ๒.๑ โอกาส · โอกาสจากการเปิดเสรีภาคการค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยมีศักยภาพได้เปรียบในการเข้าสู่ตลาด อาเซียน ขณะเดียวกันก็มีสินค้าที่ไทยจะต้องปรับตัวเพื่อรักษาตลาดไว้เช่นกัน · โอกาสจากการเปิดเสรีภาคการลงทุน โดยเฉพาะการไปลงทุนใน CLMV เช่น CP สหฟาร์ม การเกษตร การแปรรูป รับเหมาก่อสร้าง เหมืองแร่ (ดีบุก ,โปรแตสเซียม) ภาคการผลิตอื่น ๆ · โอกาสจากกาเปิดเสรีภาคการบริการ โดยเฉพาะสาขาที่ไทยมีศักยภาพ ได้แก่ การท่องเที่ยว สุขภาพ การขนส่ง การแพทย์ การบริการ การบิน เป็นต้น · โอกาสการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอาเซียน o สร้างภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลก o ยกระดับความเป็นอยู่สู่ประชาคมอาเซียน o การเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนอาเซียน ส่งเสริมเป้าหมายการลงทุน ทั้งด้านการค้า และการลงทุน o เสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการ ภายในประเทศจากการใช้ทรัพยากรการผลิตร่วมกัน ๒.๒ ปัจจัยเสี่ยง · ผู้ประกอบการไทยยังขาดสักยภาพในการลงทุนในต่างประเทศรวมทั้การลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน · แรงงานไทยยังขาดการยอมรับในมาตรฐานฝีมือแรงงานและข้อจำกัดด้านภาษาต่างประเทศ · ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องขาดความรับรู้อย่งพอเพียยงในการใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ และการคมนาคมขนส่งภายใต้แผนแม่บทความเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน ( เช่น รางรถไฟ ไม่เท่ากัน การขับรถ พวงมาลัยขวา และ พวงมาลัยซ้าย , การขนส่งทางทะเล · บทบาทต่อการตั้งรับต่อประเด็นความเคลื่อนไหวในด้านการสร้างข้อกีดกันทางการค้าใหม่ ๆ อันเนื่องจากกระแสความเปลี่ยนแปลงในโลก · ข้อจำกัดที่ทำให้การขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวก ในการขนส่งสินค้าข้ามแดน (ชายแดน) ล่าช้า · ความไม่แน่นอนทางการเมืองและความมั่นคงในประเทศเพื่อนบ้าน
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน แนวทางในการจัดกระบวนการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน 5 แบบ ได้แก่ 1. การบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2. การบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ โดยใช้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมเป็นแกน 3. การจัดทำเป็นสาระเพิ่มเติม 4. จัดให้อยู่ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน - ลูกเสือ เนตรนารี - ชมรม - กิจกรรมแนะแนว - ชุมนุม 5. กิจกรรมเสริม - มุมอาเซียน - ค่ายอาเซียน - โครงงาน - นิทรรศการ - ทัศนศึกษา - สัปดาห์อาเซียน - ประกวดแข่งขัน - วารสารข่าวอาเซียน - ป้ายนิเทศเคลื่อนที่ - กิจกรรมประชาสัมพันธ์ - ศูนย์การเรียนรู้อาเซียน รูปแบบที่ 1 การบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิธีการ วิเคราะห์หลักสูตรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมทุกระดับชั้น โดยวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลางและสาระเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน รูปแบบที่ 2 การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ โดยใช้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมฯ เป็นแกน วิธีการ วิเคราะห์หลักสูตรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนในกลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ ทุกระดับชั้น โดย วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลางและสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน รูปแบบที่ 3 การจัดทำรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม เป็นรายวิชาที่สถานศึกษาแต่ละแห่งสามารถเปิดสอนเพิ่มเติมจากสิ่งที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง เพื่อให้สอดคล้องกับจุดเน้น ความต้องการและความถนัดของผู้เรียน หรือความต้องการของท้องถิ่น โดยมีการกำหนด “ผลการเรียนรู้” เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาสามารถพิจารณาเปิดสอนรายวิชาเพิ่มเติมได้ตามความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษาและเกณฑ์การจบหลักสูตร โดยอยู่ภายใต้โครงสร้างเวลาเรียนที่กำหนด สำหรับรายชื่อวิชาเพิ่มเติมนั้นสามารถตั้งได้ ตามความเหมาะสม การจัดรายวิชาเพิ่มเติม สถานศึกษาสามารถกำหนดรายวิชาเพิ่มเติมตามความต้องการ โดยจัดเป็นรายปี / รายภาค ตามโครงสร้างเวลาเรียนที่กำหนด และมีการกำหนดผลการเรียนรู้ของรายวิชานั้น ๆ การจัดทำรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาอาเซียนศึกษา มีแนวทางการจัดทำ ดังนี้ 1. กำหนดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาและกำหนดรายวิชาเพิ่มเติม 2. วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน 3. ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษา สาระประวัติศาสตร์ วิเคราะห์คำอธิบายรายวิชาและสาระ การเรียนรู้รายวิชาพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน เพื่อกำหนดสาระเพิ่มเติมจากสาระเดิม 4. กำหนดรายละเอียดของสาระที่จะเพิ่มจากรายวิชาพื้นฐานและกำหนด “ผลการเรียนรู้” เพิ่มเติมจากรายวิชาพื้นฐาน 5. นำรายละเอียดของสาระที่เพิ่มเติม มาจัดองค์ประกอบของรายวิชาเพิ่มเติม ตามรูปแบบ การจัดทำรายวิชาพื้นฐาน 6. จัดทำคำอธิบายรายวิชา ประกอบด้วยรหัสวิชา ชื่อรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับชั้น เวลาเรียน/หน่วยกิต พร้อมทั้งคำอธิบายให้ทราบว่า เมื่อเรียนรายวิชาเพิ่มเติมแล้ว ผู้เรียนจะมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะหรือเจตคติอะไร ส่วนท้ายของคำอธิบายรายวิชาใส่ “ผลการเรียนรู้” ที่กำหนดขึ้น กำกับไว้ 7. จัดทำโครงสร้างรายวิชา เพื่อให้ทราบว่ารายวิชาเพิ่มเติมประกอบไปด้วยหน่วยการเรียนรู้ จำนวนเท่าใด เรื่องใดบ้าง แต่ละหน่วยพัฒนาให้ผู้เรียนบรรลุผลการเรียนใด ใช้เวลาในการจัดการเรียนการสอนเท่าใด สัดส่วนการเก็บคะแนนของรายวิชานั้นเป็นอย่างไร 8. จัดทำหน่วยการเรียนรู้ ในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ สามารถเลือกแบบได้หลายวิธี แต่ควรครอบคลุมขั้นตอนการออกแบบ 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย การกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ หลักฐานการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับแนวคิดหนึ่งที่สามารถนำไปเป็นแนวทางการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ คือ การออกแบบย้อนกลับ (Backward Design) ซึ่งมีขั้นตอนเช่นเดียวกัน แต่ในการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ ควรมีการกำหนดความเข้าใจคงทน (Enduring Understanding) ซึ่งเป็นความรู้ ความเข้าใจที่ติดตัวกับผู้เรียน อันเกิดจากการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม ตามหน่วยการเรียนรู้ นั้น ๆ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 9. จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้การจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ ครูผู้สอนควรวางแผนการจัดแบ่งเนื้อหาสาระ เวลา ให้ครอบคลุมหน่วยการเรียนรู้ จากนั้นจึงนำมาจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเวลาและการพัฒนาผู้เรียน ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จะต้องกำหนดเป้าหมายสำหรับผู้เรียน โดยกำหนดเป็นจุดประสงค์การเรียนรู้ของแผนการเรียนรู้นั้น ๆ ซึ่งจุดประสงค์การเรียนรู้ในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ต้องนำพาผู้เรียนไปสู่ผลการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่กำหนดไว้ในหน่วยการเรียนรู้ และกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมาย ควรใช้เทคนิค/วิธีการสอนที่หลากหลาย โดยพิจารณาเลือกนำกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมที่จะพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามต้องการ ในการจัดการเรียนรู้ครูผู้สอนควรเลือกใช้สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาใช้ในการจัดกิจกรรม เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สื่อที่นำมาใช้ต้องกระตุ้น ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ยึดสื่อใดสื่อหนึ่งเป็นหลักในการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ ต้องส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนมีความสามารถที่จะทำชิ้นงาน / ภาระงาน เมื่อจบหน่วยการเรียนรู้ผู้เรียนต้องสร้างชิ้นงาน/ภาระงานได้ ในการจัดการเรียนรู้ ต้องกำหนดเครื่องมือในการวัดผลประเมินผลผู้เรียนตามเป้าหมายที่กำหนด ดังนั้นในการวัดและประเมินผล ครูผู้สอนควรเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับลักษณะกิจกรรมและสิ่งที่ต้องการวัด นอกเหนือจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน |
แหล่งที่มา : sites.google.com