จะเก่งอังกฤษได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จัก Part of Speech (Preposition) MUSLIMTHAIPOST

 

จะเก่งอังกฤษได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จัก Part of Speech (Preposition)


780 ผู้ชม


Preposition หรือคำบุพบท ชนิดของ preposition   

Preposition หรือ คำบุพบท

 เนื้อหา เหมาะสำหรับนักเรียน ระดับชั้น ม.1-6 

สาระที่ ๒  ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต ๒.๒   เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม   

 ตัวชี้วัด ม. 1/1       บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ  การใช้เครื่องหมายวรรคตอน  และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

  * ตอนนี้ถือเป็นตอนสุดท้ายของ จะเก่งอังกฤษได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จัก Part of Speech แล้วนะคะ

 เพราะ คำอุทาน หรือ Interjection ได้ post ไว้แล้วที่ อุ๊ยตาย ว๊าย กรี๊ด เป็นภาษาอังกฤษ

คำถามนำสู่การอภิปรายชั้นเรียน

1. Where is the book? นักเรียนจะใช้คำ Preposition ตอบ เช่น It's on the table.

2. What is preposition?

ขั้นตอนการสอน

1. ถามคำถามนำเข้าสู่บทเรียน

2.เปิดวีดีโอแนะนำ Preposition

 <iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/b4I2uW7j-lc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 3. ให้นักเรียนลองทำแบบฝึกหัดง่ายๆ ช่วย Snow White ตามหาคนแคระทั้ง 7

4. ศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับ Preposition ด้านล่างนี้เมื่อมีเวลา

Prepositions นอกจากแบ่งตามชนิดของคำแล้ว ยังแบ่งตามชนิด หรือลักษณะการใช้ได้ดังต่อไปนี้คือ

  1. Prepositions ที่แสดงเวลา และนิยมใช้กันมากได้แก่

in

ใน

for

เป็นจำนวนเวลา

on

ตอนเวลา

from

จากเวลา

at

เมื่อเวลา

by

ประมาณ

to

ถึง

before

ก่อน

about

ประมาณ

after

หลัง

between

ระหว่าง

during

ระหว่าง

since

ตั้งแต่

until

จนกระทั่ง

through

ตลอด

throughout

ตลอดเวลา

    2.Preposition ที่แสดงสถานที่ ซึ่งพบเห็นบ่อยและใช้กันมากได้แก่คำต่อไปนี้

about

รอบๆ, เกี่ยวกับ

near

ใกล้

above

เหนือ

off

ห่างออกไป

across

ข้าม

on

บน

against

ปะทะ

over

บน

along

ตาม

past

เลยไป

among

ระหว่าง (มากกว่า 2)

round

รอบๆ

at

ที่

through

ทะลุผ่าน

by

โดย, ข้าง

to

ถึง, ที่

in

ใน

towards

เข้าสู่

before

ข้างหน้า

under

ใต้

behind

ข้างหลัง

underneath

ข้างใต้

below

ข้างล่าง

up

ขึ้น

beneath

ข้างใต้

away from

ออกมาจาก

beside

ข้างๆ

far from

ไกลไปจาก

between

ระหว่าง (2 อย่าง)

in front of

ข้างหน้า

beyond

เลยไป, เกินกว่า

out of

ออกจาก

down

ต่ำลงไป

at the back of

ด้านหลังของ

from

จาก

at the end of

ตอนท้ายของ

inside

ข้างใน

into

เข้าไปใน

       3.Prepostion ที่แสดงความสัมพันธ์เกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง (topics) และวิชา (subjects) ได้แก่คำต่อไปนี้
           about = เกี่ยวกับ เช่น

A book about eats.

หนังสือเกี่ยวกับโภชนาการ

A story about a cat and a dog.

นิทานเกี่ยวกับแมวและสุนัข
on = เกี่ยวกับ (คำนี้นำมาใช้มากเมื่อเป็นการบรรยาย หรือเรื่องเกี่ยวกับข้อเขียน) เช่น

A talk on Problems in Society.

สนทนาเกี่ยวกับปัญหาสังคม

A report on Education.

รายงานการศึกษา
of = บรรจุเรื่องเกี่ยวกับ เช่น

A set of foreign stamps.

ชุดแสตมป์ต่างประเทศ

A collection of photographs.

การสะสมภาพถ่ายต่างๆ


    4. Preposition ที่แสดงความสัมพันธ์เกี่ยวกับเนื้อวัตถุ (Materials) และส่วนผสม (ingredients) ได้แก่คำต่อไปนี้
        of = ใช้เมื่อเนื้อวัตถุที่นำมาทำหรือดัดแปลงนั้น ไม่เปลี่ยนไปจากสภาพเดิมนัก เช่น

A bottle is made of glass.

ขวดทำมาจากแก้ว

A table is made of wood.

โต๊ะทำมาจากไม้

A ring is made of gold.

แหวนทำมาจากทองคำ
from = ใช้เมื่อเนื้อวัตถุที่นำมาทำนั้น แปรเปลี่ยนสภาพไปจากของเดิมโดยสิ้นเชิง เช่น

Glass is made from sand.

แก้วทำมาจากทราย

Wine is made from gropes.

เหล้าไวน์ทำมาจากองุ่น

Bread is made from butter and sugar.

ขนมปังทำจากเนยและน้ำตาล
out of = ใช้แสดงที่มาหรือแหล่งที่มาของสิ่งนั้นๆ เช่น

The hut was made out of old planks.

กระท่อมหลังนี้ทำขึ้นมาจากไม้กระดานเก่าๆ

I made my first car out of three old ones.

ผมประดิษฐ์รถคันแรกของผมขึ้นมาจากรถเก่า 3 คัน (ถอดชิ้นส่วนมา)
with = ทำด้วยปกคลุมด้วยใส่ด้วย เช่น

He fills the box with mangoes.

เขาบรรจุกล่องจนเต็มด้วยมะม่วง

without = ไม่มีโดยปราศจาก เช่น

You can’t make a table without wood.

คุณไม่สามารถทำโต๊ะโดยไม่มีไม้

Can you travel around the world without a ticket ?

คุณสามารถเที่ยวรอบโลกได้โดยปราศจากตั๋วหรือ ?


      5. Preposition ที่แสดงความสัมพันธ์เกี่ยวกับ "จุดหมายปลายทาง" และจุดประสงค์ ได้แก่
            What..........for ? = สำหรับอะไร ?

What is the money on the table for ?

เงินที่อยู่บนโต๊ะนั้นสำหรับอะไร ?

It’s for the waiter.

สำหรับให้บ๋อย
Who..........for ? = สำหรับใคร ?

Who’s the letter for ?

จดหมายฉบับนั้นของใคร ?

It’s for Susan, not for you.

ของซูซาน ไม่ใช่ของคุณหรอก
Where..........for ? = สำหรับที่ไหน ?

Where’s the plan of a road building for ?

โครงการสร้างถนนครั้งนี้จะสร้างที่ไหน ?

It’s for Bangna-Trad road.

สำหรับสายบางนา-ตราด

6.  Preposition ที่แสดงความเกี่ยวพัน, การครอบครองส่วนต่างๆ ทางร่างกาย ได้แก่

with = มี (ใช้กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย)

A girl with red hair is my sister.

เด็กหญิงที่มีผมสีแดงคือน้องสาวของผม

A sailor with only one arm needs to see a doctor.

ทหารเรือที่มีแขนข้างเดียวต้องการพบหมอ

in = ใช้เกี่ยวกับเครื่องแต่งการที่สวมใส่อยู่ เช่น

Yesterday he was in a blue shirt for working.

เมื่อวานนี้เขาใส่เสื้อสีฟ้าทำงาน

That boy is dressed in rages.

เด็กคนนั้นแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าขาดวิ่น

of = ใช้แสดงถึงหุ้นส่วน และการเกี่ยวข้องในลักษณะที่เป็นหน่วยเดียวกัน เช่น

a kilo of meat

เนื้อหนึ่งกิโล

a slice of bread

ขนมปังหนึ่งแผ่น

a spoonful of jam

แยมหนึ่งช้อน

a member of the club

สมาชิกของสโมสร

Mary gave her duaghter a alice of bread.

แมรี่ให้ขนมปังหนึ่งแผ่นแก่บุตรสาวของเธอ

without = ใช้แสดงถึงความไม่มีหรือขาดไปเสียซึ่งสิ่งนั้นๆ เช่น

a dog without a tail

สุนัขไม่มีหาง

a pot without a handle

หม้อไม่มีหูจับ

He sold a dog without a tail yesterday.

เขาขายสุนัขหางด้วนไปตัวหนึ่งเมื่อวานนี้

Egg without salt isn’t very nice.

ไข่ที่ไม่ใส่เกลือย่อมไม่อร่อย
 7.  Preposition ที่แสดงถึงวิธีการ, ตัวแทน ได้แก่คำต่อไปนี้

by = "โดย" (ใช้กับคนเป็นส่วนมาก ในรูปประโยค Passive Voice เสมอ) เช่น

This book was written by Saranya.

หนังสือนี้เขียนโดยศรันย่า

This medicine was discovered by Dr. Thomas.

ยาขนานนี้ค้นพบโดยคุณหมอโทมัส

by = "โดยวิธี" (ใช้ตามหลังกริยาที่แสดงการเคลื่อนไหว และหลัง by ต้องเป็นชื่อยานพาหนะเสมอ) เช่น

They go by bus.

พวกเขาไปโดยรถประจำทาง

They come by train.

พวกเขามาโดยรถไฟ

They travel by boat.

พวกเขาเดินทางโดยเรือ

They go by plane.

พวกเขาไปโดยเครื่องบิน

by = "ด้วยวิธีการ" (ใช้โดยตามด้วย Noun หรือ gerund) เช่น

You can cure a headache by taking an aspirin.

คุณสามารถรักษาโรคปวดศีรษะให้หายได้โดยการทานยาแอสไพริน

Please send a massage by cable at once.

กรุณาส่งข่าวทางโทรเลขให้ทราบโดยด่วนด้วย

with = ด้วย (ใช้กับอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องมือ) เช่น

The doctor took my temperature with a thermometer.

หมอตรวจสอบอุณหภูมิของผมด้วยเครื่องตรวจวัด

through = เป็นผลมาจากเนื่องมาจาก

They last themselves through not knowing the way.

พวกเขาต้องสูญเสียตัวเองไปเพราะไม่รู้วิธี (รู้ทาง)

She caught cold through working in rain.

หล่อนเป็นหวัดเพราะทำงานฝนตก

without = โดยไม่มีโดยปราศจาก เช่น

He can’t make tea without water.

เขาไม่สามารถชงน้ำชาได้โดยไม่มีน้ำ

My friend left suddenly without saying goodbye.

เพื่อนของผมจากไปอย่างรีบด่วนโดยมิได้บอกลา

of = ใช้ในความหมาย "เนื่องด้วย (ใช้กับโรค)" เช่น

Every year many Thais of cancer.

ทุกๆ ปี คนไทยจำนวนมากตายเพราะโรคมะเร็ง

She died of her liver last year.

หล่อนตายเพราะโรคตับเมื่อปลายปีนี้
    8.  Preposition ที่ใช้ในความหมายอื่น ได้แก่คำต่อไปนี้

as well as = เช่นเดียวกันกับ

He as well as you is very lazy to read.

เขาก็เช่นเดียวกับคุณนั่นแหละขี้เกียจมากอ่านหนังสือ

according to = ตามที่อ้าง

Tomorrow it will rain much according to the weather forecast.

พรุ่งนี้ฝนจะตกมากตามรายงานอากาศ

against = คัดค้านขัดแย้งไม่เห็นด้วย (ตามด้วย gerund เสมอ)

She is against working on Sundays.

หล่อนคันค้านการทำงานในวันอาทิตย์

notwithstanding = ถึงแม้ว่า (ตามด้วย gerund หรือ noun)

 

None of these boys wears a coat notwithstanding the cold weather.

ถึงแม้ว่าอากาศหนาวแต่เด็กเหล่านี้ก็หาได้มีใครใส่เสื้อคลุมมาใส่

except = เว้นแต่ยกเว้น

Monks and novices can’t eat anything except water in the afternoon.

พระและเณรไม่สามารถฉันอะไรได้ยกเว้นน้ำในตอนบ่าย

apart from = นอกเหนือจาก

Apart from collecting the stamps, we do nothing else.

นอกเหนือจากการเก็บสะสมแสตมป์แล้ว เราก็ไม่ได้ทำอะไรอีก

but = เว้นยกเว้น

Nobody but me has a pen to write a letter.

ไม่มีใครยกเว้นฉันที่มีปากกาเขียนจดหมาย

besides = นอกจาก

Who can speak Japanese besides you and me ?

ใครที่พูดภาษาญี่ป่นได้ นอกจากคุณและผมแล้ว?

instead of = แทนที่ (in place of)

Let me do instead of him.

ให้ผมทำงานแทนเขาเถอะ

Suwit works here instead of Winai, who has a bad cold today.

สุวิทย์ทำงานที่นี่แทนวินัยซึ่งเป็นหวัด
    9.  Preposition ที่ใช้เป็นสำนวนและมักพบเห็นบ่อย ๆ มีดังต่อไปนี้

ก) ชนิดที่ใช้ at นำหน้า ได้แก่

at dinner

ขณะรับประทานอาหารค่ำ

at work

ขณะทำงาน

at breakfast

ขณะรับประทานอาหารเช้า

at sight

เมื่อมองเห็น

at play

ขณะเล่น, กำลังเล่น

at short notice

เพียงแว่บเดียว

at war

ในยามสงคราม

at rest

ขณะพักผ่อน

at peace

ในยามสงบ

at home

อยู่ที่บ้าน

at length, at last

ในที่สุด

at church

อยู่ที่โบสถ์

at will

ตามใจ, ตามความต้องการ

at sea

อยู่ที่ทะเล

at a loss

งง, ขาดทุน

at school

เรียนหนังสือ

at best

อย่างดีที่สุด

at a pinch

เลือดตาแทบกระเด็น

at worst

อย่างแย่ที่สุด

at all events

ถึงจะอย่างไรก็ตาม

at most

อย่างมากที่สุด

at present

ปัจจุบันนี้

at least

อย่างน้อยที่สุด

at once

ทันที, เดี๋ยวนี้

at first

เริ่มแรก, ครั้งแรก

at all costs

จะเสียเท่าไหร่ก็ตาม

at this, at that

ด้วยเหตุนี้, นั้น

at hand

อยู่แค่เอื้อม

at a profit

ได้กำไร

at ease

พักเหนื่อย

at first sight

เมื่อแรกพบ

at heart

โดยสันดาน (ในใจ)

at any rate

อย่างไรก็ตาม

at a time

พร้อมกัน, คราวเดียวกัน

at the same time

พร้อมกัน

at times

บางครั้ง, บางเวลา

ข) ชนิดที่ใช้ by นำหน้า ได้แก่

by land

โดยทางบก

by sea

โดยทางทะเล

by air

โดยทางอากาศ

by ship

โดยทางเรือ

by plane

โดยเครื่องบิน

by car

โดยรถยนต์

by bus

โดยรถประจำทาง

by heart

ท่องจำได้

by letter

โดยทางจดหมาย

by post

โดยทางไปรษณีย์

by accident

โดยบังเอิญ

by good fortune

โดยโชคดี

by luck

ด้วยโชค

by - self

โดยลำพัง

by no means

ไม่มีทาง

by all means

ทุกวิถีทาง

by rights

โดยแท้จริง

by degrees

ทีละเล็กทีละน้อย

by the way

เออนี่แน่ะ

by sight

เห็นมากับตา

by hand

โดยส่งให้ด้วยมือ

by name

รู้จักเพียงแต่ชื่อ

by day

ในเวลากลางวัน

by night

ในเวลากลางคืน

by chance

โดยบังเอิญ

by design

โดยวางแผนมาก่อน

by mistake

โดยหลงผิด

by far

อย่างมาก(สุดยอด)

ค) ชนิดที่ใช้ in นำหน้า ได้แก่

 

 

จ) ชนิดที่ใช้ out of นำหน้าได้แก่

out of breath

แทบขาดใจ

out of work

ไม่มีงานทำ

out of sight

คลาดจากสายตา

out of hearing

พ้นระยะได้ยิน

out of danger

พ้นอันตราย

out of doors

ภายนอก, กลางแจ้ง

out of order

ไม่มีระเบียบ

out of reach

เอื้อมไม่ถึง

out of question

นอกประเด็น

out of ordinary

ผิดจากธรรมดา

out of turn

ผิดรอบ, ผิดวาระ

out of practice

ขาดการฝึกฝน

out of use

ใช้ประโยชน์ไม่ได้

out of date

พ้นสมัย, ล้าสมัย

out of stock

หมดสต๊อก

out of repair

แก้ไขไม่ได้

out of place

วางผิดที่

out of control

ควบคุมไม่ได้

ที่มา : https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=43516

in common

มีส่วนร่วมกัน

in sight

อยู่ในระยะที่มองเห็น

in fun

เพียงสนุกๆ

in tears

ด้วยน้ำตา

in play

โดยเล่นๆ

in all

โดยทั้งหมด, ทั้งหมด

in a hurry

โดยรีบด่วน

in any case

ในทุกกรณี

in public

ต่อหน้ืาสาธารณชน

in that case

ในกรณีนั้น

in private

เป็นการส่วนตัว

in some cases

ในบางกรณี

in secret

เป็นความลับ

in fact

ตามความจริง

in time

ทันเวลา

in particular

โดยเฉพาะ

in debt

มีหนี้สิน

in a sense

ในความหมายหนึ่ง

in difficulties

ตกอยู่ในความลำบาก

in brief

โดยย่อ (สั้นๆ)

in danger

ตกอยู่ในอันตราย

in a word

โดยคำๆ เดียว

in love

หลงรัก

in all likelihood

ทุกวิธีที่น่าจะเป็นไปได้

in need

ในความต้องการ

in general

โดยทั่วๆ ไป

in itself

ในตัวมันเอง

in turn

ทีละคน, ตามวาระ

in other words

กล่าวอีกอย่างหนึ่ง

in work

มีงานทำ

in hand

พร้อม, อยู่ในมือ

in two

เป็น 2 ชิ้น

in trouble

อยู่ในภาวะลำบาก

in ink

(เขียน) ด้วยหมึก

in the long run

ในระยะยาว

in pencil

(เขียน) ด้วยดินสอ

in due coures

เมื่อถึงกำหนด

in place

อยู่ในที่ของมัน

in stock

มีเหลืออยู่ในโกดัง

in the end

ในที่สุด

 

ง) ชนิดที่ใช้ on นำหน้าได้แก่

 

on fire

กำลังไหม้

on purpose

โดยจงใจ

on business

ด้วยเรื่องราคา

on the other hand

อีกนัยหนึ่ง

on pleasure

เพื่อความสนุก

on the contrary

โดยทางกลับกัน

on holiday

ในวันหยุดงาน

on the whole

ว่าถึงทั้งหมด

on vacation

ในวันหยุด

on no account

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

on duty

ปฏิบัติหน้าที่

on my account

เกี่ยวกับฉัน

on watch

กำลังเฝ้า

on second thoughts

เมื่อคิดอีกทีหนึ่ง

on guard

เข้าเวรยาม

on the overage

โดยส่วนเฉลี่ย

on a visit

อยู่ระหว่างการเยี่ยม

on leave

อยู่ระหว่างการลาพัก

on a journey

อยู่ระหว่างการเดินทาง

on one’s way

อยู่ระหว่างเดินทาง

on sale

ลดราคา

on foot

โดยเท้า

on horseback

โดยขี่ม้า

on time

ตรงเวลา

กิจกรรมเสนอแนะ

ให้นักเรียนฝึกแต่งประโยคโดยใช้คำ preposition ประกอบ 

การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ที่มา  www.youtube.com

      https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=43516

 ที่มา :https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3265

อัพเดทล่าสุด