ไข้เลือดออกโรคร้ายที่คร่าชีวิตคุณได้

       ประเทศใดจะเจริญก้าวหน้าและพัฒนาได้ ประเทศนั้นจะต้องมีพลเมืองที่มีสุขภาพแข็งแรง  มีความสามารถในการเรียนรู้  โรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อ ชนิดหนึ่งที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ  บั่นทอนสุขภาพทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง โดยเฉพาะนักเรียนต้องหยุดเรียนในขณะที่ป่วยทำให้ขาดโอกาสทางการเรียนรู้ การรู้จักวิธีป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกที่ถูกต้องจะช่วยไม่ให้เราต้องพบกับโรคร้ายนี้
       สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง โรคไข้เลือดออก  สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนสาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรรถภาพและการป้องกันโรค ช่วงชั้นที่ 2 ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง ป.4,ป.5และป.6 โดยจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับระดับชั้น หรือสอนโดยการใช้การบูรณาการช่วงชั้นก็ได้ นอกจากนี้ครูผู้สอนสามารถบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆได้ เช่น ให้นักเรียนเขียนเรียงความเรื่องโรคไข้เลือดออก  หรือให้นักเรียนร้องเพลงเกี่ยวกับยุง

        เรามารู้จักกับโรคไข้เลือดออกกันเถอะ...
        โรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีอัตราการตายและการระบาดของโรคไข้เลือดออกมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง กันยายน จะเป็นช่วงที่มีการระบาดมากที่สุด และพบว่าในเด็กอายุ 5-14 ปี จะป่วยเป็นโรคนี้มากกว่ากลุ่มอื่น

        การติดต่อ
        เนื่องจากโรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส มียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยปกติยุงลายมักอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนและโรงเรียน ชอบออกหากินตอนกลางวัน และมักวางไข่ในน้ำนิ่ง สะอาด โดยเฉพาะภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น ตุ่มน้ำ แจกัน จานรองขาตู้กับข้าว จานรองกระถางต้นไม้ เป็นต้น และติดต่อกันได้โดยยุงลายจะกัดคนป่วย แล้วนำเชื้อนั้นมากัดคนปกติอีกต่อหนึ่ง จึงทำให้ป่วยตามกันไปด้วย    

                                                              ภาพจาก: https://nonthaburi.moph.go.th/

        อาการ 
        อาการโดยทั่วไป จะมีไข้สูง 2-7 วัน หน้าแดง เบื่ออาหาร และมีอาการซึม ปวดเมื่อยตามตัว และปวดหลัง 
บางคนอาจจะพบจุดเลือดสีแดงๆ ตามแขนขา และลำตัว  บางคนอาจมีเลือดกำเดาออก อาเจียนเป็นเลือดสีแดง หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ  ในรายที่เป็นร้ายแรง อาจมีอาการช็อก มือเท้าเย็นจนถึงไม่รู้สึกตัว หมดสติ ถ้ารักษาไม่ทัน มักจะเสียชีวิตภายใน 24-48 ชั่วโมง      

      การรักษา
      ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเพื่อลดไข้  ถ้ามีไข้สูงอาจใช้ยาลดไข้จำพวก พาราเซตามอล แต่อย่าใช้ยาพวก แอสไพริน เพราะจะยิ่งทำให้เลือกออกง่าย  ดื่มน้ำผลไม้ น้ำตาลเกลือแร่บ่อยๆ  ถ้ามือเท้าเย็น ซึมลงปวดท้อง หรืออาการไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ 
                                                  
        การป้องกันและควบคุม
กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 
          - ปิดผาตุ่มเก็บน้ำให้มิดชิด
          - หมั่นเปลี่ยนน้ำหรือใส่เกลือแกง หรือน้ำส้มสายชูในจานรองกระถาง และจานรองขาตู้กับข้าว ทุก 7 วัน
          - ถ้าภาชนะ ไม่มีฝาปิด อาจเลี้ยงปลาหางนกยูง ช่วยกินลูกน้ำ 
          - เทน้ำที่ขังอยู่ในภาชนะต่างๆ เช่น ขวด กระป๋อง  กาบพืชบางชนิด
          - ดัดแปลงวัสดุที่ไม่ใช้แล้วไม่ให้มีน้ำขัง เช่น ยางรถยนต์ 
 ใช้สเปรย์กำจัดยุง หรือ ยาจุดกันยุง เพื่อลดและกำจัดยุงที่โตเต็มวัย 
 ระวังอย่าให้ยุงกัด โดยเฉพาะตอนกลางวัน ควรนอนในมุ้ง หรือ มุ้งลวด             

                                                          ภาพจาก  https://203.155.220.239/public_files/news/

         สรุป
         เนื่องจากโรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ในปัจจุบันยังไม่สามารถหายารักษา ให้หายขาดได้ ดังนั้น หลักสำคัญในการปลอดภัยจากไข้เลือดออก จึงเป็นการป้องกันไม่ใช่รักษา 
        นอกจากนี้ ผู้ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้ว ยังอาจเป็นได้อีก ถ้าหากถูกยุงที่มีเชื้อกัดฉะนั้น การกำจัดยุงลายและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ จึงเป็นวิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกแบบง่ายๆ ที่ได้ผลดีที่สุด

       คำถาม
       นักเรียนคิดว่าสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกในปัจจุบันเป็นอย่างไร เราจะมีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เราและครอบครัวต้องเป็นโรคไข้เลือดออก

ที่มา   https://nonthaburi.moph.go.th/

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=253