ถั่วเหลืองหนึ่งในอาหาร Super Food มีประโยชน์อย่างไร กินมากไปจะดีไหม แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่กิน ติดตามกันเลยค่ะ....
ถั่วเหลืองกินมากไปไม่ดี
ภาพประกอบ www.thainetidol.com/.../post-2-1222537624.jpg
ถั่วเหลืองเป็นหนึ่งในอาหารที่เรียกว่า "ซูเปอร์ฟู้ด" เพราะสามารถต้านโรคมะเร็งทรวงอก ทำให้กระดูกแข็งแรงและให้ผู้ที่เป็นเมนโนพอสมีอาการดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันถั่วเหลืองถูกแปลงรูปให้อยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น นมถั่วเหลือง เต้าหู้ โยเกิร์ต ชีส ฯลฯ ส่วนซูเปอร์ฟู้ดนั้นคืออะไรต้องมาทำความรู้จักกันก่อน
“ซูเปอร์ฟู้ด”คืออะไร???
“ซูเปอร์ฟู้ด” คือ อาหารปกติธรรมดาหรืออาหารทั่วไปนั้นแหละ แต่ที่ใช้คำว่า“ซูเปอร์ฟู้ด”ก็เพราะว่าเป็นอาหารที่เน้นย้ำถึงคุณค่าด้านโภชนาการเป็นสำคัญ ซูเปอร์ฟู้ดไม่ใช่อาหารลดความอ้วนนะแต่สามารถช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำตาล แป้งและไขมันได้เป็นอย่างดีถ้ากินสม่ำเสมอ
“ซูเปอร์ฟู้ด”ประกอบด้วยอาหาร 14 ชนิดดังนี้ โยเกิร์ต , ฟักทอง , มะเขือเทศ , บรอกโคลี ,บลูเบอร์รี , ส้ม ,
พืชตระกูลถั่ว , ถั่วเหลือง หรือซอสถั่วเหลือง , แซลมอน , ข้าวโอ๊ต , ผักโขม , วอลนัต ,ไก่งวง , ชา
ประโยชน์ของถั่วเหลือง
เมื่อเรารู้แล้วว่าถั่วเหลืองเป็นส่วนหนึ่งของซูเปอร์ฟู้ดซึ่งเป็นอาหารที่คุณประโยชน์สูงแล้ว ถั่วเหลืองยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ซึ่งถั่วเหลืองก็เป็นที่นิยมนำมาแปรรูปเป็นนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ที่เราทานกันตอนเช้าๆกับปาท่องโก๋แต่คุณประโยชน์ในนมถั่วเหลืองก็ยังคงเหมือนกับถั่วเหลืองที่เป็นเมล็ดเช่นเดิมนมถั่วเหลืองผลิตขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ 2,000 ปีมาแล้วโดยนักประดิษฐ์ที่รู้จักกันในตำนานของจีน ชื่อ หลิวอัน (Liu An) หลานปู่ของ หลิวปัง (Liu Bang) หรือ ฮั่นเกาจูฮ่องเต้ ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ฮั่น หลักฐานปรากฏว่า หลิวอันผลิตนมถั่วเหลืองจากถั่วเหลืองเพื่อให้มารดาที่ป่วยของเขาทานทุกวัน เนื่องจากมารดาของเขาไม่สามารถเคี้ยวถั่วเหลืองได้ ทำให้มารดาของเขาหายป่วยอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่นั้นความสามารถที่น่ามหัศจรรย์ของถั่วเหลืองในการรักษาโรคเป็นที่นิยมทั่วไปในประเทศจีนถึงแม้จะไม่มีหลักฐานว่า แม่ของหลิวอันป่วยเป็นโรคอะไร แต่นมถั่วเหลืองได้ถูกบันทึกไว้ในตำรายาสมุนไพรต่างๆตราบนั้นเป็นต้นมา นมถั่วเหลืองเป็นตัวช่วยขับปัสสาวะขับพลังชี่ให้ลดลง ควบคุมความเจ็บป่วยเนื่องจากอากาศร้อน และล้างพิษ ซึ่งมีบันทึกอยู่ใน“BencaoGangmu” (Compendium of Materia Medica) โดยเภสัชกรชาวจีนที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์หมิง (1368-1644) ชื่อว่า หลี่ สือเจิน (Li Shizhen) ถั่วเหลืองเป็นพืชที่มีโปรตีนสูงซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายในร่างกายของคน ซึ่ง 95% ของโปรตีนในนมถั่วเหลืองสามารถดูดซึมหมดในร่างกายคน นมถั่วเหลืองเหมาะสมที่จะดื่มแทนนมเพราะมีธาตุแคลเซียมอยู่สูง ถึงแม้จะมีธาตุแคลเซียมไม่เทียบเท่าในนม แต่ธาตุแคลเซี่ยมในนมถั่วเหลืองสามารถดูดซับได้ง่ายกว่าในร่างกายคน โดยเฉพาะชาวเอเชียนอกจากนั้นยังเต็มไปด้วย Lecithin, isoflavone, oligose และ fiber ซึ่งช่วยชลอความแก่ ทำให้ Hormone สมดุล ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันเส้นเลือดแดง โรคเบาหวาน บรรเทาความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน
ภาพประกอบ : www.girlysociety.com/.../soya.gif
-
สิ่งที่ควรระวัง
ปัจจุบันในอุตสาหกรรมอาหารนำถั่วเหลืองเข้าไปเป็นส่วนประกอบของสินค้ามากขึ้น โดยอยู่ในชื่อ "แป้งถั่วเหลือง" "น้ำมันพืช" "โปรตีนคอนเซนเทรต" "เลซิธิน" "แพลนต์ สทีรอล" ฯลฯ ผู้คนหลายล้านคนเชื่อว่าถั่วเหลืองเป็นพืชที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากให้โปรตีนที่ไม่มีกรดไขมันอิ่มตัว ไม่เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานพบมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ถั่วเหลืองอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น จากการศึกษาลิงเพศผู้ที่กินนมถั่วเหลืองของมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก ประเทศอังกฤษ พบว่า ลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนในลิงลดลง การศึกษาหลายชิ้นของนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นยังพบว่า ถั่วเหลืองเข้าไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเข้าไปกั้นไอโอดีนที่จำเป็นต่อต่อมไทรอยด์ ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่ม อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน ผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์จึงได้รับการแนะนำว่า ไม่ควรรับประทานหัวกะหล่ำ ถั่วลิสง หัวเทอร์นิปส์ ไพน์นัต เพราะเป็นพืชที่เข้าไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์เช่นเดียวกับถั่วเหลือง
สิ่งที่ต้องระวัง คือ ห้ามดื่มนมถั่วเหลืองเมื่อท้องว่างและอย่าดื่มมากไป เพราะมันสามารถก่อให้เกิดอาหารไม่ย่อย และ โรคท้องร่วง โดยทั่วไปผู้ใหญ่ดื่มประมาณครั้งละ 300 มิลลิลิตร วันละ 2 ครั้งอย่างมาก สำหรับเด็กดื่มครั้งละ 200 มิลลิลิตร ควรจดจำเสมอให้อุ่นนมถั่วเหลืองอย่างน้อย 5 นาทีเพราะนมถั่วเหลืองที่ไม่อุ่นอาจเป็นพิษได้ ใครที่มีอาการอาเจียน ปวดหัว หรือหายใจลำบาก หลังจากดื่มนมถั่วเหลือง ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล อย่าใส่ไข่ หรือ น้ำตาลทรายแดง (Brown Sugar) ในนม หรือ ทานยาในขณะดื่ม เพราะจะไปทำลายโภชนาการในนมถั่วเหลืองและทำลายระบบการดูดซับโภชนาการในร่างกายมนุษย์ดร.มาริลิน เกลนวิลล์ นักโภชนาการ ผู้แต่งหนังสือเรื่อง "Nutritional Health Handbook for Women" แนะนำว่า "การรับประทานอาหารต้องรับประทานแต่พอดี เพราะถั่วเหลืองจะดีต่อสุขภาพถ้าเราไม่ทานมากเกินไป คือ วันละ 30 กรัม เป็นจำนวนที่กำลังเหมาะ"
ประเด็นคำถาม
1. ซูเปอร์ฟู้ด คือ อะไร ?
2. ถั่วเหลืองมีประโยช์อย่างไรต่อร่างกายบ้าง?
3. การทานถั่วเหลืองมากๆ ทำให้เข้าไปขัดขวางการทำงานของต่อมอะไร?
อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
• https://www.posttoday.com/magazine.php?id=31603
• https://www.tttonline.net
• https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jui880&date=25-05-2009&group=1&gblog=2
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1084