ทุก ๆ ปี ไวรัสของไข้หวัดใหญ่จะใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนในการเดินทางจากประเทศจีนไปยังประเทศฝรั่งเศส มาถึงกรุงปารีส จนทำให้ชาวฝรั่งเศสต้องล้มป่วยถึง 3 - 12 ล้านคนที่น่าตกใจคือ ไม่ใช่มีเพียงการระบาดของโรคนี้เท่านั้นที่ทำให้พวกเราได้รับผลกระทบองค์การอนามัยโลก
ในอนาคตจะมีโรคระบาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทุก ๆ ปี ไวรัสของไข้หวัดใหญ่จะใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนในการเดินทางจากประเทศจีนไปยังประเทศฝรั่งเศส มาถึงกรุงปารีส จนทำให้ชาวฝรั่งเศสต้องล้มป่วยถึง 3 - 12 ล้านคนที่น่าตกใจคือ ไม่ใช่มีเพียงการระบาดของโรคนี้เท่านั้นที่ทำให้พวกเราได้รับผลกระทบองค์การอนามัยโลกได้บันทึกไว้ว่า แต่ละปีจะมีโรคระบาดที่เกิดจากไวรัสและแบคทีเรีย 200 - 250 โรคในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 130 ประเทศ
เพราะนักไวรัสวิทยาต่างเห็นพ้องต้องกันว่า รูปแบบการใช้ชีวีตของคนเราเอื้อต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค จนในอนาคตจะมีโรคระบาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างไวรัสเอดส์หรือไวรัสซาร์ส (โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง) นั้นเพราะเชื้อโรคหลากหลายชนิดพบในสัตว์ป่า แล้วมนุษย์เราก็เริ่มเข้าไปสัมผัสพวกมันมากขึ้น โดยนำมาปรุงเป็นอาหาร (เช่น ชะมด ในประเทศจีน) หรืการถางป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมันให้เป็นพื้นที่เพาะปลูก สร้างเขื่อน ซึ่งก็กลายเป็นแหล่งแพร่พันธุ์ยุง พาหะของเชื้อไวรัส
ไวรัสเดินทางด้วยเครื่องบิน
เมื่อมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ก็ยิ่งทำให้การแพร่กระจายของเชื้อโรคซึ่งมีมนุษย์เป็นพาหะเป็นไปได้ง่ายขึ้น เมื่อปี ค.ศ. 2003 ไวรัสซาร์สแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบนตึกหลังหนึ่งในฮ่องกงที่สูงถึง 33 ชั้น เพียงไม่กี่วันก็มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 260 คน ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การคมนาคมขนส่งที่ช่วยนำมาให้มันเดินทางจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่งของโลก
เพียงแค่เรานั่งเครื่องบินไม่กี่ชั่วโมง ไวรัสก็สามารถเดินทางข้ามซีกโลกหนึ่งสู่อีกซีกโลกหนึ่งได้ โดยมีร่างกายมนุษย์เป็นตัวขนส่งมันไป
โรคซาร์สแพร่ระบาดได้อย่างไร
1.ไวรัสซาร์สพบในสัตว์ขนาดเล็กที่น่าสงสัยที่สุดคือชะมด สัตว์ป่าที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
2.การซื้อขายมนุษย์ในตลาดของชาวจีน ทำให้เชื้อไวัรสจากชะมดแพร่เข้าสู่พ่อค้า และจากพ่อค้าสู่ผู้ซื้ออีกทีหนึ่ง สามเดือนหลังจากเริ่มแพร่ระบาด ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 มีผู้ติดเชื้อไวรัสซาร์สทางตอนใต้ของจีนร่วมร้อยคน
3.ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะฮ่องกง
4.ผู้ติดเชื้อเข้าพักที่โรงแรมในฮ่องกงและแพร่เชื้อให้กับแขกที่มาพัก 16 คนในบรรดานั้นเป็นชาวแคนาดา ไอร์แลนด์ เวียดนาม
5.ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าแขกกลุ่มนั้นจะแรพ่เชื้อ ระหว่างนั้นพวกเขาต่างแยกย้ายกันกลับประเทศของตน การเดินทางโดยเครื่องบินช่วยเร่งให้โรคแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยซึ่งนำพาไวรัสไปด้วยได้แพร่เชื้อสู่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ บนเครื่องบิน และแพทย์ที่ทำการรักษา ผลที่ตามมาคือ มีผู้ป่วยมากกว่า 8,000 คน และเสียชีวิตถึง 900 คน
อย่างไรก็ตาม ไวรัสก็ไม่ได้ลุกลามไปทั่วเสียทีเดียวตอนที่ไวรัสซาร์สเริ่มแพร่ระบาดเมื่อปี ค.ศ.2003 มีการกำหนดใช้มาตรการเฝ้าระวังสุขอนามัยอย่างเข้มงวด มีการสกัดกั้นโรคระบาดชนิดนี้ได้ทันท่วงที ขณะที่มนได้แพร่ไปอย่างรวดเร็ว เป็นข้อพิสูจน์ว่าบางครั้งมนุษย์ก็หาวิธีหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสได้เหมือนกัน
และล่าสุดไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ H1N1 ก็โดยสารเครื่องบินไปแพร่กระจายเชื้อจนเกือบทั่วโลก
ประเด็นคำถาม
1. การศึกษาแหล่งที่มาหรือสาเหตุของโรคมีผลดีอย่างไร
2. ไวรัสแพร่ระบาดจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งของโลกด้วยอะไร
3. โรคซาร์สแพร่ระบาดได้อย่างไร
กิจกรรมเสนอแนะ
1. ให้นักเรียนไปศึกษาเพิ่มเติมในห้องสมุดโรงเรียนหรือในอินเตอร์เน็ต
2. เชิญเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกให้ความรู้เกี่ยวกับโรคที่เกิดจากไวรัสและการป้องกันรักษา
การบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่นๆ
1. ภาษาไทย การอ่านจับใจความ การสรุปบทความในข่าว
2. วิทยาศาสตร์ ไวรัส และแบคทีเรียเป็นเชื้อโรคที่ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่า
3. สังคมศึกษา สิทธิการเข้ารักษาโรคในโรงพยาบาลของรัฐ
4. สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) การศึกษาโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ และการป้องกันรักษา
แหล่งที่มาของข้อมูลและภาพ
นิตยสาร GoGenius ปีที่ 5 ฉบับที่ 50 มิถุนายน 2552
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1138