คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่กำลังเห่อซื้อวิตามินมารับประทาน เพราะอยากมีสุขภาพดี ส่วน มากจะเข้าใจผิด คิดว่าวิตามินคือ "ยาบำรุง" กินเข้าไปแล้วร่างกายจะสดชื่น แข็งแรง อายุยืน ฉะนั้น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าวิตามินคืออะไร
ภาพจากอินเตอร์เนต
เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ช่วงชั้นที่ 4 ( ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6)
สาระที่ 5 : ความปลอดภัยในชีวิต
มาตรฐาน พ 5. 1: ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด
และความรุนแรง
ผลการเรียนรู้ที่คาดหว้ง
1.สามารถอธิบายและปฏิบัติการใช้สารอาหารจากวิตามิน
2.สามารถอธิบายและเลือกใช้สารอาหารที่มีประโยชน์
เนื้อหาสาระ
วิตามินไม่ใช่ยา แต่เป็นสารสกัดจากสิ่งมีชีวิต (Organic) ที่จำเป็นสำหรับร่างกาย ช่วยทำให้การทำงานของระบบต่างๆของร่างกาย ทำงานได้โดยถูกต้อง และช่วยให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ ถ้าขาดวิตามินและแร่ธาตุ ร่างกายจะหยุดทำงาน
ถ้าคุณรับประทานตาม สูตรอาหารชีวจิต ก็ไม่จำเป็นจะต้องกินวิตามินหรือแร่ธาตุเสริม แต่เนื่องจากชีวิตความเป็นอยู่และชีวิตประจำวันของคุณ ที่มักจะชอบกินอาหารจำพวกแป้ง พวกน้ำตาล (เช่น เค้ก ไอศกรีม น้ำอัดลม) และของหวานเป็นประจำ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมซึ่งเต็มไปด้วยมลพิษ หรือคุณมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป คุณอาจต้องการวิตามินและแร่ธาตุเสริมบ้าง
วิตามินและแร่ธาตุประเภทแอนติออกซิแดนท์ ที่แนะนำให้รับประทานเสริมบ้าง คือ
และควรเพิ่มแร่ธาตุกับอาหารเสริมคือ
Lecithin 1,200 มิลลิกรัม หรือ 19 grain
Zinc (ธาตุสังกะสี) 60 มิลลิกรัม
แพนโธทีเนท
มีในมันฝรั่ง ยีสต์ นม
ประโยชน์ต่อร่างกาย มีประโยชน์ต่อผิว และต่อมอะดรีนัล ช่วยระบบย่อยอาหาร รักษาโรคไขข้ออักเสบ
กรดโฟลิก
มีในผัก ผลไม้ ข้าวแดง รำละเอียด นม ถั่ว เห็ด ยีสต์ ข้าวโพด
ประโยชน์ต่อร่างกาย จำเป็นต่อการสร้างเม็ดโลหิตแดง และช่วยให้ตับและต่อมทำหน้าที่ดีขึ้น
ไบโอติน
มีในยีสต์ รำละเอียด
ประโยชน์ต่อร่างกาย มีความสำคัญมากในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย อาการขาดวิตามิน จะเป็นโรคโลหิตจาง
วิตามิน C
มี อยู่ในผักสด ผลไม้สด ส้ม มะเขือเทศ กล้วย ตำลึง ดอกแค ใบทองหลาง ใบมะยมอ่อน ใบมะละกออ่อน ผักกระเฉด ผักกาดขาว ผักโขม ผักคะน้า พริก เชอร์รี่ ฝรั่ง มะกอกไทย มะขามป้อม มะละกอสุก สับปะรด กะหล่ำปลี แครอท กะหล่ำดอก แตงกวา ผักกาดหอม หัวหอม ถั่ว งา
ประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ มีความสำคัญในการรักษาเหงือก ฟัน กระดูก หน้าที่สำคัญคือ ช่วยร่างกายสร้างโคลลอเจน ซึ่งเป็นกาวที่ยึดเซลล์ การกินวิตามินซีจะทำให้ผิวสวย เล็บสวย เลือดดี เพิ่มความต้านทานโรค ทำให้แผลหายเร็ว ไม่เกิดอาการแพ้ต่างๆ ง่าย นักโภชนาการว่า การกินวิตามิน C กับวิตามิน A จะทำให้หวัดหายเร็วขึ้น (วิตามิน C 2,000 - 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน) สกัดมะเร็งไม่ให้ลุกลาม ป้องกันและรักษามะเร็งได้ แต่ข้อที่ว่าวิตามิน C สร้างความต้านทานต่อมะเร็งนั้นยังไม่ยืนยันแน่นอน
อาการขาดวิตามิน มีเลือดออกตามไรฟัน เบื่ออาหารเหงือกบวม ในเด็กน้ำหนักตัวจะลด โลหิตจาง ติดเชื้อง่าย ท้องไส้ผิดปกติ ทำให้ร้องงอแง แผลในกระเพาะอาหารต้องการวิตามิน C สูงๆ และการขาดวิตามินจะทำให้ผนังเนื้อเยื่อเปราะ เส้นเลือดแตกง่าย ตับจะอักเสบ หากเกิดอาการขาดที่รุนแรง จะทำให้เป็นมะเร็งได้ง่าย
วิตามิน K
มีในผักสด ผลไม้ คะน้า รำข้าว กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ มะเขือเทศ ข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง
ประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้เลือดแข็งตัว คือจะผลิตสารที่ทำให้เลือดแข็งตัว
อาการขาดวิตามิน เลือดจะแข็งตัวช้า เวลามีแผลเลือดจะหยุดไหลช้า
วิตามิน D
มีในเนย นม เนยแข็ง และควรจะถูกแดดทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง
ประโยชน์ต่อร่างกาย มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน ช่วยในการย่อยอาหาร เพิ่มพลังงาน ช่วยรักษาสิว ร่วมกับ B6 ถ้ากินในขนาดสูงๆ จะรักษาข้ออักเสบ เรื้อนกวางได้
อาการขาดวิตามิน ในเด็กจะเกิดเป็นโรคกระดูกอ่อน วิตามิน D จะทำงานได้ต้องมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส
วิตามิน E
มีในรำละเอียด ในพวกธัญพืช ข้าวโพด ถั่วแดง ถั่วเหลือง ผักกาดหอม เมล็ดทานตะวัน งาน้ำมันรำ น้ำมันถั่วลิสง
ประโยชน์ต่อร่างกาย จะช่วยเร่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ ทำให้แผลเป็นหายเร็วขึ้น ช่วยในการจับตัวของรกกับผนังมดลูก หากขาดกล้ามเนื้อจะไม่แข็งแรง เกิดการตกเลือด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ และโรคประสาทในระยะหมดประจำเดือนด้วย และยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยละลายเลือดที่แข็งตัว ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด เช่น ที่หัวใจ ที่สมอง และยังป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ด้วย
ธาตุเหล็ก
มีในดอกและใบขี้เหล็ก ถั่ว มะเขือพวง น้ำตาลทรายแดง ตำลึง รำข้าว งา ฟองเต้าหู้ ผัก ผลไม้
ประโยชน์ต่อร่างกาย มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง
อาการขาดวิตามิน ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง
แคลเซียม
มีในนม เนย ถั่ว น้ำอ้อย น้ำตาลทราย รำ งาดำ กระถิน ใบยอ มะเขือพวง
ประโยชน์ต่อร่างกาย เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทำให้หัวใจเต้นสม่ำเสมอ ควบคุมประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดแข็งตัว ช่วยให้นอนหลับ น้ำหนักตัวต่ำ และช่วยกล่อมประสาท ระงับความฟุ้งซ่าน
อาการขาดวิตามิน ถ้าขาดมากๆ จะชักได้ กล้ามเนื้อสั่น และหากเกิดการขาดแคลเซียมในเด็ก จะทำให้เป็นโรคกระดูกอ่อน ในผู้ใหญ่จะเกิดอาการกระดูกเปราะหักง่ายและฟันผุ การที่ร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมได้จะต้องมีวิตามินช่วย
ไอโอดีน
มีในเกลือทะเล สาหร่าย เกลืออนามัย
ประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในการผลิตฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ที่คอ
อาการขาดวิตามิน จะเป็นโรคคอพอก หากเกิดในเด็ก เด็กจะแคระ สมองทึบ โลหิตไหลเวียนในสมองช้า
ฟอสฟอรัส
มีในรำข้าว ข้าวโพด ฟองเต้าหู้ ข้าวแดง งาดำ ถั่วต่างๆ มะเขือพวง ผัก และผลไม้อื่นๆ
ประโยชน์ต่อร่างกาย เสริมสร้างกระดูกและฟัน บำรุงสมอง ประสาท และกล้ามเนื้อ มีความสัมพันธ์กับแคลเซียม
ทองแดง
มีในถั่วฝักยาว ถั่วแขก พวกข้าว
ประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้เม็ดโลหิตแดงมีอายุนานขึ้น ช่วยบำรุงประสาท
ประเด็นคำถาม 1. นักเรียนคิดว่าแต่ละวันจะเสริมวิตามินต่างๆีพร้อมแร่ธาตุประมาณเท่าไร
2. นักเรียนบอกได้ไหมว่าวิตามินต่างๆพร้อมแร่ธาตุมีความสำคัญอย่างไร
3. ประโยชน์ที่ได้รับต่อร่างกายอย่างไร และทำไมต้องมีความต้องการวิตามินต่างๆและแร่ธาตุี
กิจกรรมเสนอแนะ
1. ให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมในห้องสมุดหรือตามวารสารสุขภาพต่างๆ
2. จดบันทึกข้อมูลแนวทางการปฏิบัติการรักษาสุขภาพตนเอง
การบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่นๆ
1. ภาษาไทย การอ่านจับใจความ การสรุปเนื้อหาในบทความ
2. ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ การวาดรูปผลไม้ที่ให้วิตามินต่างๆพร้อมแร่ธาตุ
3. สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) การสร้างเสริมสุขภาพตนเองในชีวิต
4. วิทยาศาสตร์ ระบบต่างๆของร่างกายในการดูดซึมสารอาหาร
5. คณิตศาสตร์ ปริมาณ/จำนวนของแร่ธาตุที่เข้าสู่ร่างกาย
อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
ที่มา: https://www.cheewajit.com/vitamin.aspx
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1152