ทำไมคนเราจึงมีความจำเป็นต้องมีสุขภาพที่ดี


794 ผู้ชม


ศาสตราจารย์ โทมัส ไรลี แห่งสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล จอห์นมัวร์ ระบุว่า ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการออกกำลังกายสำหรับคนส่วนใหญ่ราวร้อยละ 90 คือ ระหว่าง 16.00 ถึง 19.00 น.   
       ศาสตราจารย์ โทมัส ไรลี แห่งสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล จอห์นมัวร์ ระบุว่า ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการออกกำลังกายสำหรับคนส่วนใหญ่ราวร้อยละ 90 คือ ระหว่าง 16.00 ถึง 19.00 น. เพราะอุณหภูมิของร่างกายจะเพิ่มสูงสุด กล้ามเนื้อขยายตัว และมีความยืดหยุ่น เป็นช่วงที่ร่างกายมีกำลังมากทีสุด อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตต่ำ ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักเพื่อออกกำลังกาย ทำให้มีแรงจูงใจอยากออกกำลังกายมากขึ้นและมีแนวโน้มบาดเจ็บน้อยลง สำหรับ ผู้หญิง ศ.ไรลี แนะนำว่า ช่วงเวลาออกกำลังกายเหมาะสมที่สุดในแต่ละเดือน คือ ช่วง 7-14 วันหลังไข่ตก เพราะระดับฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนจะเพิ่มสูงสุด ส่งผลกระทบต่อวิธีที่ร่างกายใช้ไขมันและคาร์โบไฮเดรต นอกจากนั้น หากมีอาการปวดประจำเดือนเป็นประจำ การออกกำลังเป็ยประจำแม้ในช่วงที่มีประจำเดือนก็สามารถบรรเทาอาการปวดประจำ เดือนได้ด้วย

ที่มา : https://health.deedeejang.com/news/105.html


สาระที่ ๔ :การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑:เห็นคุณค่า และมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดำรงสุขภาพ การป้องกันโรค และการสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ
นักเรียนช่วงชั้นที่ 4 ( ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 )

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง

1.สามารถอธิบายหลักการเสริมสร้างสุขภาพได้
2.สามารถปฏิบัติตนในการเสริมสร้างสุขภาพได้

หลักในการสร้างเสริมสุขภาพ
1.สัมมาทิฐิ

        ต้องมีทัศนคติที่ถูกต้องในการสร้างเสริมจะต้องทำเอง ไม่มีขาย ไม่มีให้ขอ สุขภาพของเราจะต้องทำเอง มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ถ้าท่านคิดว่าสุขภาพหมอทำให้ท่านคิดผิด ท่านก็ไม่สำเร็จ
         ผมจะเล่าเรื่องให้ฟังเรื่องหนึ่ง ผมเป็นหมอเมื่อปี 2498 อยู่โรงพยาบาลสระบุรีมีคนไข้คนหนึ่งคนไข้คนนี้เป็นคนที่มีรถเก๋งในจังหวัด คนทั้งจังหวัดไม่มีรถเก๋ง นอกจากผู้ว่าราชการจังหวัดมีรถประจำตำแหน่ง คนไข้คนนี้เป็นคนรวยที่สุดในจังหวัดป่วยเป็นวัณโรคปอด ปอดพรุนหมด มาหาผมให้รักษา ผมไม่ได้เก่งอะไรหรอกแต่บังเอัญในช่วงนั้นยาปฏิชีวนะมันเข้ามาพอดี ผมเอายานี้รักษา แต่ก่อนไม่มียาใครเป็นวัณโรคปอดนี้มีแต่ตายลูกเดียว พอแกได้รับยานี้เข้าไปแกหาย พอแกหายดีใจมากแต่อย่าลือว่าปอดนี้ถ้าเป็นวัณโรคมันก็เหมือนไม้ที่มีปลวกไปเจาะ เราเอาเซลไดร์ฉีดเข้าไป ปลวกตายหมด แต่ไม้ก็ยังพรุนอยู่ มันไม่เหมือนไม้ที่ไม่มีปลวก อยู่สระบุรีจะมากรุงเทพฯ มาลำบาก แกชวนไปเที่ยววันฉลองรัฐธรรมนูญ เอารถเก๋งมาส่ง ก็มาเที่ยวกันเดินไปได้สัก 100 เมตร ก็บอกว่า คุณหมอไปเถิดผมจะนั่งคอย ผมไปไม่ไหว เพราะปอดแก่ไม่ดี และแก่พูดอยู่คำหนึ่งซึ่งผมอยากจะนำเอาคำพูดมาบอกท่านทั้งหลาย คือว่า " มีเงินเท่าไหร่ ๆ ก็ช่วยอะไรไม่ได้" นี่แหละมีเงินก็ซื้อไม่ได้ สุขภาพต้องทำเอง
2. สุขภาพเป็นขบวนการที่ต่อเนื่อง

       คือเมื่อเราเกิดอยู่ในท้องพ่อท้องแม่ อยู่ในมดลูกของแม่ในขณะที่อยู่ในมดลูกถ้าแม่แข็งแรงลูกก็แข็งแรง ถ้าลูกแข็งแรงคลอดออกมาเป็นเด็กก็แข็งแรง ถ้าเด็กแข็งแรงเป็นผู้ใหญ่ก็แข็งแรง ถ้าเป็นผู้ใหญ่แข็งแรงเป็นผู้อายุก็แข็งแรง สุดท้ายชีวิดมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา ไม่มีใครที่จะไม่ตาย พระพุทธเจ้าเคยถามพระอานนท์ว่าเธอคิดถึงความตายวันละกี่ครั้ง พระอานนท์ตอบว่า ข้าพระพุทธเจ้าคิดถึงความตาย วันละ 7 ครั้ง พระพุทธเจ้าบอกพระอานนท์ว่า อานนท์เธอยังประมาทอยู่ เธอต้องคิดถึงความตายทุกลมหายใจ เธอจะไม่ได้ประมาท เพราะฉะนั้นทุกคนต้องตายไม่มีไม่ตาย ปัญหาอยู่ว่า ถ้าเราสามารถจัดการ ป่วยให้สั้นๆ แล้วก็ตาย ถ้าทำเช่นนี้ได้ผมว่าคุณภาพชีวิตดี คุ้มค่าที่เกิดมาเป็นคน ดังนั้นในการทำสุขภาพนี้ เมื่ออายุมาก แล้วจึงจะมาเริ่มทำสุขภาพ บางทีมันสายไปเสียแล้ว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามันจะสายก็ยังดีกว่าไม่ทำเสียหาย
3. อาหาร

       ความเป็นจริงที่เราเกิดมาเป็นคนและโตมาทุกวันนี้ เพราะอาหารทั้งนั้นที่รบราฆ่าฟันทุกวันนี้ก็เพราะอาหาร ที่ทำงานได้เงินเดือนมาก็เอาไปซื้ออาหารทั้งนั้นเพราะฉะนั้นอาหารเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้สุขภาพเราดี ถ้าเผื่อเราบอกว่าเธอนี่สุขภาพไม่ดีผอมเหลือเกิน เธอกินมากไปแล้วอ้วน ทั้งหมดทั้งปวงนี้ คือ เรื่องอาหารถ้าเราจะบอกเป็นคำตอบสุดท้ายว่าใครกินอาหารดีหรือไม่ดี คำตอบอยู่ที่ใครน้ำหนักตัวที่เหมาะสม คือ คำตอบสุดท้าย

น้ำหนักตัวที่เหมาะสม
น้ำหนักตัวที่เหมาะสม (วัดส่วนสูงเป็น ซ.ม.) = อาหารที่เหมาะสม
ส่วนสูง ชาย ลบ 150 = น้ำหนักที่เหมาะสม +- 2
หญิง ลบ 110 = น้ำหนักที่เหมาะสม +- 2
        ถ้าใครเกินไปก็อ้วน ถ้าใครน้อยกว่านี้ก็ผอม ถ้าอ้วนแสดงว่ากินมากผ้าผอมก็กินน้อย นี้เป็นหลักง่าย ๆ ว่าเราอ้วนหรือผอม คนไหนอ้วนคนนั้นตายเร็ว คนไหนผอมคนนั้นก็ตายเร็ว ไม่อ้วนไม่ผอมคือสมส่วนคนนั้นอายุยืน เราต้องรู้เสียก่อนว่าเรานั้นลักษณอะไร ปัจจุบันคนไทยอ้วนขึ้นมาก สมัยผมเป็นเด็ก ๆ มีแต่เด็กพุงไร เพราะมีพยาธิมาก เดี๋ยวนี้เรื่องสุขภาพของคนไทยดีขึ้น งานทางการสาธารณสุขดีขึ้น คนอายุยืนขึ้น เมื่อปี 2490 คนไทยอายุประมาณ 50 ปี ก็ตายแล้ว
         ในขณะที่อายุยืนขึ้น ถ้าอยากจะยืนต่อไปอีกต้องไม่อ้วนเกินไป ต้องไม่ผอมเกินไป เท่าที่ดูนักเรียนที่หิ้วกระเป๋าไปโรงเรียนอ้วนขื้นเยอะเป็นที่ผิดสังเกต ทางการแพทย์เริ่มศึกษามาว่า ทำอย่างไรจะไม่ให้คนอ้วน กลไลของอาหาร อาหารเมื่อเรากินเข้าไปสู่ร่างกายได้ จะต้องมีฟัน ถ้าใครฟันไม่ดี ขาดทุน ถ้าจะทำให้ฟันดีท่านจะต้องทำของท่านเอง อาหารเมื่อเข้าไปในปากฟันดีอาหารเข้าสู่ร่างกายแล้วก็ย่อย ย่อยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปในเส้นเลือดนำไปเกิดพลังงาน อันไหนจะไปซ่อมแซมก็ไปซ่อมแซม อันไหนเป็นกากเหลือออกมาเป็นอุจจาระ เป็นปัสสาวะ ถ้าเผื่อกินเกินไปมันก็เหลือเป็นไขมัน
ชนิดของอาหาร

        ในขบวนอาหาร 5 หมู่ (เนื้อ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ ผัก) ไม่กินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป กินธรรมดา คือ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ สำคัญอยู่ที่รสอาหาร ถ้าท่านอยากอายุยืน อย่าหวานจัด ถ้าหวานจัดมันจะอ้วน อย่าเค็มจัด โอกาสที่จะเป็นแรงดันโลหิตสูงก็สูง อย่าเผ็ดจัดจะทำให้แสบท้อง เสียดท้อง อุจจระจะแสบ ในส่วนของอาหารเสริม อาหารเสริมดีสำหรับคนป่วย แต่คนธรรมดาไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป
4. การออกกำลังกาย

1.ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน 2.เพื่อประกอบอาชีพ 3.เพื่อเล่นกีฬา 4.เพื่อสุขภาพ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
1.มีความหนักพอสมควร นานพอสมควร ถี่สม่ำเสมอ
2.มีความอภิรมย์
3.ไม่แข่งขัน
4. ฝึกให้แข็งแรง อดทน ยึดหย่น ว่องไว ทรงตัวดีขึ้น
5.สร้างสุขภาพจิต

1.มีมิตรสหาย ทุกคนต้องมีมิตร
2.ต้องรู้จักแก้ไขอุปสรรค ไม่มีใครไม่มีปัญหา อย่าหนีอุปสรรค
3.รู้จักพอ พอทุกอย่าง
4.เยินยอตน เกิดมาเป็นคนจะต้องรู้จักเยินยอตนเอง ต้องรู้จักภาคภูมิใจในตนเอง
5.ต้องปรับตัว คนที่สุขภาพจิตไม่ดีก็คือ คนที่ปรับตัวไม่ได้ โดยเฉพาะข้าราชการ ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว แต่ก่อนนี้ราชการจะเปลี่ยนแปลงอะไรต้องบัวไม่ซ้ำน้ำไม่ขุ่น เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ เปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ท่านจะต้องปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่นี้ให้ได้
6.อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
       สิ่งแวดล้อมประกอบด้วย ครอบครัว สิ่งที่มีชีวิต สิ่งที่ไม่มีชีวิต ลม ฟ้า ฝน แต่โดยทั่วไปต้องเริ่มที่ในครอบครัว ถ้าใครยิ่งมีอายุมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะต้องอยู่ในครอบครัวมากขึ้นเท่านั้น ท่านทั้งหลายอายุยังน้อยแต่ในวันหนึ่งทุกคนก็จะเป็นผู้สูงอายุ ต้องเกินอายุ 60 ปี เพราะทุกคนต้อง 72 ปี เฉลี่ยอายุตามที่ประชากรศาสตร์ศึกษา เว้นแต่จะตายก่อน การที่มีอายุสูงขึ้น ๆ ท่านจะเห็นความสำคัญของครอบครัว ครอบครัวเหมือนกับโช๊คอัพของรถยนต์ ตัวอย่าง เมื่อก่อนโรคเอดส์ ไม่มี สมัยผมเป็นหนุ่ม ๆ ถ้าโรคเอดส์ มีผมคงติดโรคเอดส์ เดี๋ยวนี้มีคนเป็นโรคเอดส์พอรู้ว่าเป็นโรคเอดส์ต้องตาย วัดยังไม่ยอมให้เผา เพราะกลัวติด แต่คน ๆ นั้นกลับไปครอบครัว พ่อ แม่ บอกให้มาอยู่ด้วยกันซิ เห็นไหมว่า ครอบครัวเป็นที่รองรับ ถ้าหนักก็เป็นเบา ถ้าสนุกก็ทำให้ดีขึ้น
       คนไทยจะต้องอยู่ในครอบครัว โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น จำเป็นจะต้องอยู่ในครอบครัว เพราะสุดท้ายผู้สูงอายุมากขึ้นจะพิการ ไม่มีใครช่วยได้ดีเท่ากับลูกหลาน ดังนั้น ครอบครัวจึงเป็นปัจจัยสำคัญ หลังจากครอบครัวแล้ว จึงมาที่ชุมชน ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ครอบครัวเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่สำคัญที่สุด ส่วนสิ่งที่ไม่มีชีวิต ก็เป็นผลหมากรากไม้ ต้นไม้ ที่สงบ สะอาด สว่าง ร่มเย็น ครอบครัวไทยต้องร่มเย็นเป็นสุขทำอย่างไรจึงจะมีสุขภาพดี
       คำถามที่ถามกันบ่อย คือ ทำอย่างไรจึงจะทำให้สุขภาพดี การจะทำให้มีสุขภาพดีต้องพิจารณาจากองค์ประกอบ 5 ประการ ที่ได้กล่าวโดยเริ่มจากการกินก่อน
1. การกิน

      หากกินผิดนอกจากจะแก่เร็วแล้ว ยังทำให้ป่วยด้วย อาหารที่ทำลายสุขภาพมากที่สุดคือ เนื่อ นม ไข่ ผมไปทำงานที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละ 2 วัน พบว่าเด็กสมัยนี้ป่วยเป็นมะเร็งกันมาก บางคนเป็นตั้งแต่อายุยังน้อย มีกรณีหนึ่งอายุ 11 ปี ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม สอบถามผู้ปกครองปรากฏว่า เด็กคนนี้กินไก่พวก fast food วันละตัว ทำให้ตัวโตผิดปกติเพราะรับฮอร์โมนจากไก่ ซึ่งข้อเท็จจริงในกระบวนการเลี้ยงมีการให้สารเร่ง เมื่อร่างกายรับสารเหล่านี้เข้าไปมาก ๆ จะทำให้เซลส์เติบโตผิดปกติ และกลายเป็นมะเร็งได้ น้ำตาลซูโคลสหรือน้ำตาลฟอกขาวก็เช่นกัน เป็นเหมือนยาพิษเมื่อกินเข้าไปบ่อยๆ จะไปเคลือบต่อมย่อยอาหารในลำไล้ ทำให้เกิดพิษ และทำให้ร่างกายป่วย เรื่องของอาหาร คุณกินผิดหรือไม่ ลองไปสำรวจตัวเองดู ตัวอย่างที่แสดงว่าคุณกินผิดอาการจะมีหลายอย่างตั้งแต่เจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ จนกระทั่งไปถึงเรื่องมะเร็ง เกี่ยวกับเรื่องของการกินทั้งสิน ถ้ากินผิดเชื่อหรือไม่จะแก่เร็วผมมีแบบสำรวจอาการผิดปกติ 40 ประการ เรียกว่า Hypoglycemia ถ้าใครมีครบ 40 อย่างแสดงว่าอาการหนักต้องเตรียมติดต่อวัด (ตายแน่ไว้ได้ แบบสำรวจ 40 ประการมีดังนี้)
กลุ่มความผิดปกติทางร่างกาย

1.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
2.เวียนศรีษะ ปวดหัว
3.นอนไม่หลับ
4.เหงื่อแตกบ่อย ๆ 
5.มือสั่น
6.ปวดกล้ามเนื้อ และปวดหลัง
7.เป็นตะคริวบ่อย
8.เกิดการชักกระตุก
9.คันตามผิวหนัง
10.มีอาการของภูมิแพ้
11.หน้าร้อนผ่าวบ่อย ๆ
12.มือเย็นเท้าเย็น
13.เนื้อตัวชาเป็นบางครั้ง
14.การทรงตัวไม่ดี
ความผิดปกติของระบบ ๆ ต่าง
15.ท้องอืด ท้องเฟ้อ
16.ปากคอแห้ง
17.เบื่ออาหาร
18.อยากกินของหวาน ๆ
19.เกิดอาการหิวอย่างแรงก่อนถึงเวลาอาหาร
20.ปัญหาการถ่ายอุจจาระผิดปกติ
21.ปัญหาการถ่ายปัสสาวะผิดปกติ
22.หายใจไม่ออกบ่อย ๆ
23.ลมหายใจ และปากมีกลิ่นแปลก ๆ
24.หัวใจเต้นผิดปกติ
25.เป็นลมบ่อย ๆ
26.อ้วน - น้ำหนักเกิน
27.กามตายด้าน
กล่มความผิดปกติทางจิตใจ - ระบบประสาท
28.รู้สึกเบื่อหน่าย และซึมเศร้า
29.จิตใจฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ
30.วิตกกังวลโดยง่าย
31.ลังเลและตัดสินใจเรื่องต่างๆ ไม่ได้
32.รู้สึกสับสนปั่นป่วน
33.ทนเสียงอึกทึกและแสงจ้า ๆ ไม่ได้
34.เบื่อการพบปะเพื่อนฝูง ไม่ชอบเข้าสังคม
35.การประสานงานของส่วนต่าง ๆ ในร่างกายเลวลง
36.โมโหง่าย
37.ฝันร้ายบ่อย ๆ
38.ความจำเสื่อม
39.มีอาการทางประสาท
40.อยากฆ่าตัวตาย
2.การนอน
        พื้นฐานอีกอันหนึ่งนอกจากการกินแล้ว คือ เรื่องนอน เรานอนผิดเพราะอะไรเพราะชีวิตประจำวันของคนสมัยใหม่ เดี๋ยวนี้อาจจะต้องนอนดึก ดูทีวี ติดละครเรื่องนั้นเรื่องนี้ ยังไม่จบเสียที กว่าจะนอนบางทีสองยาม ตีหนึ่ง เป็นต้น และในขณะเดียวกันถูกสอนมาผิด ๆ ตั้งแต่เล็ก หลายท่านคงจะจำได้ตั้งแต่ชั้นประถมว่าต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมง แต่ไม่เคยมีใครสอนว่า เวลาคุณนอนต้องนอนให้หลับสนิท แล้วก็หลับลึก เรื่องเวลา 8 หรือ 9 ชั่วโมง ไม่เกี่ยว แต่เกี่ยวกับวิธีนอนหลับลึกและหลับสนิท เพราะฉะนั้นเรานอนผิด เมื่อสักครู่กินผิดแล้ว ตอน นี้นอนผิด ยิ่งเป็นพวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ สมัยนี้ ผมเคยเขียนใครเคยอ่านบ้าง นอนกินบ้านกินเมืองนอนอย่างไร ไปเที่ยวคีนวันศุกร์กลับมาดึกนอนตั้งแต่คืนวันศุกร์มาถึงเช้า ไม่ลุกกินข้าว นอนต่อเช้าวันเสาร์ไปถึงคืนวันเสาร์ ถึงเช้าวันอาทิตย์ยังไม่ตื่นนอนต่อไปคืนวันอาทิตย์ แล้วพอถึงวันจันทร์ต้องตื่นไปทำงานคลานออกมาเหมือนไม่เป็นผู้เป็นคนทั้ง ๆ ที่คุณนอนมาศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่ไม่มีแรงเพราะอะไร มันนอนผิด ขณะเดียวกันตามหลักที่ผมบอกนอนต้องหลับลึกแล้วก็หลับสนิท ถ้าคุณเป็นนักเศรษฐศาสตร์หรือนักคำนวณในด้านตัวเลขของเศรษฐศาสตร์ในชีวิตของคุณขาดทุนอย่างร้ายแรง ลองคิดดู นอน 8 ชั่วโมงแปลว่าคุณต้องนอนถึง 1 ใน 3 ของชีวิต วันหนึ่ง 24 ชั่วโมง คุณนอน8 ชั่วโมง 1 ใน 3 คุณหมดไปกับการนอน ถ้าเกษียณอายุ 60 ปี คุณตายพอดี แปลว่า คุณนอนมา 20 ปี ตกลงคุณนอนผิดทั้งในด้านเศรษฐศาสตร์และด้านสุขภาพ พอคุณนอนผิดอย่างนี้ทำให้คุณป่วยในเรื่องของจิตใจ ระบบประสาท 40 ข้อ นั้นมีผลมาจากการนอนไม่ต่ำกว่า 20 ข้อ

3.การทำงาน

       ผมไปจัดคอร์สสุขภาพที่สวนสามพาน คอร์สหนึ่งประมาณ 3 - 4 วัน ไปชอบใจคนทำงานอยู่คนหนึ่งตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายสถานที่ เกี่ยวกับเรื่องของอาหาร และความสะดวกในการประชุม อายุ 50 กว่าแล้ว ผมว่าแกเป็นคนมีความสุขมาก เพราะเป็นคนรักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านบริการ ที่นั้นสถานที่รับได้ 5,000 คนเวลาที่มีงานเลี้ยงคุณสนิทกลัวฝนตก ก็ไปเช่าเต๊นท์มา แกบอกว่าฝนตกมาฟังแน่ วิธีแก้ที่ผมชอบใจ แกใช้หมดไม่ว่าเป็นไสยศาสตร์ แกไปของธงของหลวงพ่อมา หลวงพ่อบอกว่าธงนี้ไปปักแล้วฝนไม่ตก เสร็จแล้วฝนก็ตก แต่อาจเป็นเรื่องเล่น ๆ อะไรไม่ทราบว่าผมช่วยห้ามฝนได้เพราะผมเป็นคนไปบนให้แก แล้วฝนไม่ตก พอเช้าต้องรำกระบองกันตั้งแต่ตีสี่ครึ่งประมาณ 120 คน แก่ก็กลัวอีกว่าฝนจะตก ผมบอกไม่ต้องกลัวทำใจดี ๆ ฝนไม่ตกหรอก แล้วฝนก็ไม่ตกจริง ๆ ที่ผมรู้สึกสนุกไปด้วยเพราะว่า แกชอบบริการ คนยิ่งมากเท่าไรเขายิ่งดีใจแกวิ่งตั้งแต่ตีสี่ ตื่นขึ้นมาตรงไหนไม่เรียบร้อย แกวิ่งไปทำเอง ไปขนของเอง แม้กระทั่งไปทำกับข้าวเองก็ยังไปทำ ผมเพิ่มเห็นคนแบบนี้อายุ 55 ปี แต่มีความสุขกับการทำงาน แล้วทำไมถึงมีความสุขเพราะรักที่จะบริการคนผมรู้จักแกมาอย่างน้อย 6 ปี เพราะไปจัดงานที่นั้นบ่อย ๆ แกทำงานอย่างมีความสุข แต่ก็มีความทุกข์ด้วย เพราะเรื่องร่างกายแก่อ้วน มีโรคความดันโลหิตสูง ทำอะไรนิดหน่อยหายใจหอบ เหนื่อยง่าย พอแกมากินชีวจิต เราก็แนะนำเรื่องอาหาร เรื่องการออกกำลังกาย เรื่องนอน และเรื่องอื่น ๆ แกทำได้ เดี๋ยวนี้รูปร่างแกดี แกมารำกระบองกับเรา พวกหนุ่ม ๆ สู้ไม่ได้ เพราะรำกระบองแบบชีวจิตเหนื่อยมาก ตัวอย่างนี้แสดงว่าความสุขใจการทำงานถึงแม้จะมีใจรัก มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อยากจะบริการคน แต่ถ้าร่างกายไม่ให้ สุขภาพไม่ให้ มันก็กลายเป็นความทุกข์
4.การผักผ่อน
      ตอนนี้จะแนะนำให้รู้ก่อนว่า กิน นอน ทำงาน ถ้าทำผิดสุขภาพจะไม่ดีอายุสั้น ความทุกข์มีมาก ส่วนเรื่องพักผ่อนเป็นแฟชั่นนิยมอีกเหมือนกัน การพักผ่อนต้องลางาน 2 อาทิตย์ แล้วลาไปเที่ยวเมืองนอก ถือว่าเป็นการพักผ่อน ผลปรากฏว่า กลับมาจากพักผ่อนหน้าซีด หน้าเซียว เพราะหนี้ไปสวิสเวอร์แลนด์อย่างต่ำ ๆ ก็สามแสนกว่า เงินผ่อนได้ ไม่ไปก็ไม่ได้อยากโก้ ก็เลยกู้เงินไป ไปถึงก็ลำบาก เราไม่ได้เป็นเศรษฐี แล้วไปพักโรงแรม 5 ดาว ก็ไม่ได้ แล้วไปช่วงคนเที่ยวกันเยอะ ๆ ที่พักก็เต็ม ตระเวณเสียแทบแย่ หาที่พักได้ก็ต้องไปจ่ายสามสี่เท่าของราคาจริง กลับมาเหนื่อยด้วย เป็นหนี้ด้วย ไม่มีความสุข เกิดการพักผ่อนผิด เพราะไม่เข้าใจ คอนเซ็ปของการพักผ่อนผิด ถ้าเราพักผ่อนแบบของชีวจิตไม่ต้องไปสวิส ฯ อยู่ที่นี้ก็ได้ นั่งที่นี่ก็ได้ ฝึกวิธีหายใจให้ถูก หายใจเฮือกเดียวพักผ่อนได้ หายใจเมื่อไหร่พักผ่อนได้เมื่อนั้น ตกลงคนพักผ่อนได้ทุกขณะ ไม่ต้องเสียเงิน โดยอย่าไปยึดวาพักผ่อนต้องลางาน ต้องขึ้นเครื่องบิน ต้องไปเที่ยว ไม่เอาแบบนั้น
5.การออกกำลังกาย

      กินนอน ทำงาน พักผ่อน ออกกำลังกาย ผมให้คู่กันเรื่องของการกินเหมือนกับรถยนต์ ถ้าหากว่าเครื่องไม่เดินแล้วคุณก็ไม่ไป ถึงแม้คุณอาจจะใช้น้ำมัน 95 ก็ตามที แต่คุณถนอมเครื่องไม่เอารถไปวิ่ง ความจริงรถอยู่เฉย ๆ พังนะครับไม่เชื่อลองเอารถดี ๆ ไปจอดไว้ที่บ้านซักเดือนโดยที่ไม่ได้สตาร์ทก็พัง เปรียบกับคุณกินของดี ๆ ไปเยอะ ๆ แต่ไม่ออกกำลังกาย คุณพังนะครับ
เราก็เลยมีหลักการออกกำลังกายของเรา ต้องออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันได้ยิ่งดี ให้สม่ำเสมอ คุณจะเล่นอะไรก็ได้ แต่ต้องให้ได้เหงื่อออกโทรมเลยหัวใจเต้นแรงแปลว่าหัวใจทำงานเต็มที่ ควรจัลชีพจรดูใด้ได้ 120 ขึ้นไป คุณจะได้ยาวิเศษประจำตัวของคุณ ออกมาจากตัวคุณเอง คือ โกรทฮอร์โมน ตัวนี้เป็นยานะครับ มีมาตั้งแต่เกิด แต่พออายุประมาณ 20 ปี โกรทฮอร์โมนจะหลั่งน้อยลง อายุจวน ๆ 30 ปี ไม่หลั่งเลย เพราะฉะนั้น ถ้าออกกำลังกายถูกต้อง กิน นอน ทำงาน พักผ่อน ออกกำลังกาย ซึ่งชีวิตประจำวันมีอยู่เท่านี้คุณคิดว่ามีอะไรเพิ่มมากกว่านี้หรือเปล่า ตามหลักของชีวจิตเอาเรื่องของสุขภาพกับเรื่องของการแพทย์เข้ามาเกี่ยวกัน กินต้องกินให้ถูก นอนต้องนอนให้ถูก ทำงานต้องทำงานให้ถูก พักผ่อนให้ถูก ออกกำลังกายให้ถูก เริ่มต้นจากชีวิตประจำวันก่อน กินนอน และทำงานให้ถูกต้อง เพื่อให้อิมมูนซีสเต็ม ดีขึ้น เพราะว่าถ้าคุณทำงานถูกแล้วคุณไม่เครียด ความเครียดเป็นตัวทำลายอิมมูนซีสเต็ม ซึ่งเป็นพลังวิเศษของคุณ
       ระบบหายใจประกอบไปด้วย หลอดลม ปอด หัวใจ กระบังลม นี่อยู่ในระบบหัวใจ พื้นฐานของสุขภาพ กิน นอน ทำงาน พักผ่อน ออกกำลังกายต้องให้ถูกต้อง คุณจะสร้างตึกทุกคนดูว่าตึกนี้สูงเหลือเกิน แข็งแรงเหลือเกิน เฟอร์นิเจอร์สวนเหลือเกิน แต่ไม่มีใครดูพื้นฐาน เวลาคุณสร้างตึกคุณต้องตอกเสาเข็ม ลงคอนกรีต ไม่ค่อยมีคนดู แต่คุณรู้ไหม ตึกจะสูงกี่ร้อยชั้น จะอยู่ได้ทนถาวรแค่ไหนอยู่ที่พื้นฐานราก ส่วนฐานรากของคนเราก็คือ การกิน การนอน การทำงาน การพักผ่อน และการออกกำลังกาย
ที่มา: https://www.khonthai.com/Vitithai/konthai6.html
ประเด็นคำถาม

1.จงอธิบายหลัการเสริมสร้างสุขภาพมาให้้เข้าใจ
2.การปฏิบัติตนการเสริทสร้างสุขภาพควรปฏิบัติตนอย่างไร
กิจกรรมเสนอเสนอแนะ

1.จัดป้ายนิเทศหรือนิทรรศการเกี่ยวกับการเสริมสร้างสุขภาพในชั้นเรียน
2.ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสริมร้างสุขภาพ
3.จัดโปรแกรมเกี่ยวกับการเสริมสร้างสุขภาพของตนเอง

การบูรณาการกับสาระการเรียนรู้อื่นๆ

1.สาระการเรียนรู้ภาษาไทย การเขียนบทความหรือเรียงความเกี่ยวกับการเสริมสร้างสุขภาพ
2.สาระการเรียนรู้ศิลปศึกษา การวาดภาพการณรงค์การสร้างเสริมสุขภาพ
3.สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลไกการเสริมสร้างสุขภาพ

อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล

1.ที่มา:https://health.deedeejang.com/news/105.html
2.ที่มา:https://www.khonthai.com/Vitithai/konthai6.html

ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1740

อัพเดทล่าสุด