การเว้นวรรค หมายถึง การเว้นช่องว่างระหว่างวรรค
ประเด็นข่าว
'โตโน่'เว้นวรรครักชั่วคราว 'โตโน่'ภาคิน เตรียมตัวบวชที่วัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ยังไม่ได้วันที่แน่นอน เปรยช่วงนี้ขอหันหลังให้กับเรื่องความรัก พระเอกหนุ่มยังกล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องที่ทุกคนถามกันมาตลอด ว่าใครจะเป็นคนถือหมอนให้ในงานนี้ โตโน่เลยเฉลยเลยว่าเป็นผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด นั่นก็คือแม่ และน้องสาวนั่นเอง ส่วนสาวอื่นๆ ขอเชิญมาร่วมงานบุญทั้งหมด แต่ส่วนตัวตอนนี้โตโน่บอกว่าขอเว้นวรรคเรื่องความรักไปสักพักก่อน ตอนนี้ยังไม่อยากคิดอะไรมากมาย
ที่มา : https://www.komchadluek.net/detail/20130123/149996/
เกริ่นนำ
การเว้นวรรคเป็นคำที่ใช้ในความหมายตรงและความหมายโดยนัย คำว่าเว้นวรรคที่มีการนำไปใช้ในความหมายโดยนัยเช่น เว้นวรรคทางการเมือง เว่นวรรคเรื่องความรัก เว้นวรรคด้านพฤติกรรมต่าง ๆนั่นคือการงดเว้นจากการกระทำในสิ่งที่เคยทำมาก่อน ส่วนในความหมายโดยตรงที่ใช้กันคือการเว้นวรรคในการพูดและการเขียน
ที่มาของภาพ : https://www.eng.ubu.ac.th/charoenc/2011/01/07
เนื้อหา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
หลักเกณฑ์การเว้นวรรค
ในการเขียนหรือพิมพ์หนังสือไทย การเว้นช่องว่างระหว่างคำ ข้อความหรือประโยคให้ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะจะทำให้ข้อเขียนนั้นมีความถูกต้อง แจ่มแจ้ง ชัดเจน และอ่านได้ตรงตามความต้องการของผู้เขียน วรรค คือ คำ ข้อความ หรือประโยคช่วงหนึ่ง ๆ
การเว้นวรรค หมายถึง การเว้นช่องว่างระหว่างวรรค
การเว้นวรรคแบ่งออกเป็น
– การเว้นวรรคเล็ก มีระยะห่างระหว่างวรรคประมาณเท่ากับความกว้างของพยัญชนะ ก
– การเว้นวรรคใหญ่ มีระยะห่างระหว่างวรรคประมาณ ๒ เท่าของการเว้นวรรคเล็ก หรือ กก
ในการเขียนหรือพิมพ์หนังสือไทย มีหลักเกณฑ์ในการเว้นวรรค ดังนี้
๑. กรณีที่ต้องเว้นวรรค
๑.๑ การเว้นวรรคใหญ่ เว้นวรรคใหญ่เมื่อจบข้อความแต่ละประโยค
ตัวอย่าง (๑) นั่งให้เรียบร้อย อย่าไขว่ห้าง
(๒) วิทยาการเป็นต้นธารให้บังเกิดความรู้ และความสามารถในอันที่จะประกอบกิจตามหน้าที่ได้ดี ความเจริญงอกงามทั้งทางจิตใจและทางวัตถุย่อมเป็นผลสืบเนื่องมาจากวิทยาการ บ้านเมืองจะเจริญหรือเสื่อมก็เนื่องด้วยวิทยาการ
๑.๒ การเว้นวรรคเล็ก เว้นวรรคเล็ก ในกรณีต่อไปนี้
๑.๒.๑ ในประโยครวมให้เว้นวรรคเล็กระหว่างประโยคย่อยที่มีใจความสมบูรณ์และเชื่อมกับประโยคอื่น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วยคำสันธาน “และ” “หรือ” “แต่” ฯลฯ แต่ถ้าเป็นประโยคสั้นให้เขียนติดกัน
๑.๒.๒ เว้นวรรคเล็กระหว่างชื่อกับนามสกุล
๑.๒.๓ เว้นวรรคเล็กหลังคำนำพระนามพระบรมวงศานุวงศ์ พระนาม และฐานันดรศักดิ์
๑.๒.๔ เว้นวรรคเล็กระหว่างชื่อบริษัท ธนาคาร ฯลฯ กับคำ “จำกัด” ที่อยู่ท้ายชื่อ
๑.๒.๕ เว้นวรรคเล็กระหว่างคำ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” และ “ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล” กับชื่อ
๑.๒.๖ เว้นวรรคเล็กระหว่างชื่อสถานที่ต่าง ๆ เช่น ถนน ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด
๑.๒.๗ เว้นวรรคเล็กระหว่างคำนำหน้านามแต่ละชนิด
๑.๒.๘ เว้นวรรคเล็กระหว่างยศกับชื่อ
๑.๒.๙ เว้นวรรคเล็กระหว่างกลุ่มอักษรย่อ
๑.๒.๑๐ เว้นวรรคเล็กระหว่างตัวหนังสือกับตัวเลข
๑.๒.๑๑ เว้นวรรคเล็กระหว่างวันกับเวลา
๑.๒.๑๒ เว้นวรรคเล็กหลังข้อความที่เป็นหน่วยมาตราต่าง ๆ กับข้อความที่ตามมา
๑.๒.๑๓ เว้นวรรคเล็กระหว่างตัวหนังสือไทยกับตัวหนังสือภาษาอื่น
๑.๒.๑๔ เว้นวรรคเล็กระหว่างรายการต่าง ๆ เพื่อแยกรายการแต่ละรายการ ทั้งที่เป็นข้อความและกลุ่มตัวเลข
๑.๒.๑๕ เว้นวรรคระหว่างเครื่องหมายต่าง ๆ
๑.๒.๑๕.๑ เว้นวรรคเล็กหน้าและหลังเครื่องหมายไปยาลใหญ่ ไม้ยมก เสมอภาคหรือเท่ากับ ทวิภาค วิภัชภาค และเครื่องหมาย + ที่ใช้ในทางภาษา (มิใช่เครื่องหมาย + ที่ใช้ในทางคณิตศาสตร์)
๑.๒.๑๕.๒ เว้นวรรคเล็กหน้าเครื่องหมายอัญประกาศเปิดและวงเล็บเปิด
๑.๒.๑๕.๓ เว้นวรรคเล็กหลังเครื่องหมาย จุลภาค อัฒภาค ไปยาลน้อย อัญประกาศปิด และวงเล็บปิด
๑.๒.๑๖ เว้นวรรคเล็กหลังข้อความที่เป็นหัวข้อ ๑.๒.๑๗ เว้นวรรคเล็กทั้งข้างหน้าและข้างหลังคำ ณ ธ
๑.๒.๑๘ เว้นวรรคเล็กหน้าและหลังคำว่า “ได้แก่” ที่ตามด้วยรายการ มากกว่า ๑ รายการ
๑.๒.๑๙ เว้นวรรคเล็กหน้าและหลังคำ “เช่น” (ในความหมายว่า ยกตัวอย่าง) ยกเว้น “เช่น” ที่มีความหมายว่า “อย่าง, เหมือน” ไม่ต้องเว้นวรรคทั้งหน้าและหลังคำ
๑.๒.๒๐ เว้นวรรคเล็กหน้าคำสันธาน “และ”, “หรือ” ในรายการ ยกเว้น ถ้ามีเพียง ๒ รายการ ไม่ต้องเว้นวรรค
๑.๒.๒๑ เว้นวรรคเล็กหน้าคำ “เป็นต้น” ที่อยู่หลังรายการ
๑.๒.๒๒ เว้นวรรคเล็กหลังคำว่า “ว่า” ในกรณีที่ข้อความต่อมาเป็นประโยค
ที่มาของภาพ : https://www.siamrath.co.th/web/?q=node/58280
ประเด็นคำถาม
๑. การเว้นวรรคมีความจำเป็นในการเขียนอย่างไรอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
๒. หากเขียนหนังสือโดยไม่มีการเว้นวรรคหรือเว้นวรรคผิดนักเรียนคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอะไร
กิจกรรมเสนอแนะ
๑. ฝึกสังเกตงานเขียนต่างๆ ว่ามีการเว้นวรรคถูกต้องตามหลักเกณฑ์การเว้นวรรคที่ได้ศึกษามาหรือไม่
๒. นักเรียนสร้างประโยคหรือข้อความที่เมื่ออ่านเว้นวรรคผิดความหมายผิด เช่น
"ยาขนานนี้ กินแล้วแข็ง แรงไม่มี โรคภับเบียดเบียน"
ที่มา
: https://www.komchadluek.net/detail/20130123/149996/
https://www.royin.go.th/th/profile/index.php?SystemModuleKey=279&SystemMenuID=1&SystemMenuIDS=
https://www.eng.ubu.ac.th/charoenc/2011/01/07/
https://www.siamrath.co.th/web/?q=node/58280
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=4853