อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน


983 ผู้ชม


การอ่านเป็นกุญแจเปิดประตูปัญญา เมื่อประตูเปิด โอกาสในชีวิตก็เปิด นักอ่านก็จะค้นหาสิ่งที่ต้องการ นั่นคือคุณภาพชีวิต   

อ่านหนังสือให้เก่ง  เร่งให้อ่าน
                           ประเด็นข่าว

                 อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน

                                                           ที่มา :  https://unigang.com/Article/10597

   จากประเด็นข่าว  คงมิอาจปฏิเสธได้ว่า โรงเรียนต่าง ๆ ที่ติดอันดับ จะมีนักเรียนที่มีนิสัยรักการอ่าน  และใช้การอ่าน
สร้างโอกาสในการเรียนรู้   การอ่านเก่งนอกจากจะสร้างปัญญาแล้ว  ยังเกิดเรื่องดี ๆ ในชีวิตอกีมากมาย  ทั้งต่อตนเอง
ต่อโรงเรียน ต่อครอบครัว  และสุดท้ายที่ทุกคนค้นหาคือ คุณภาพชีวิต  ตามทางเลือกที่ทุกคนสามารถเลือกได้
           เราต้องทำอะไรบ้างล่ะ  จึงจะอ่านเก่ง  ใครบ้างล่ะที่ต้องอ่านเก่ง 
           การอ่านเป็นทักษะ  เรียนรู้วิธีการ  และฝึกอย่างสม่ำเสมอ
                                                                อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                                               ที่มา : gotoknow.org

           การอ่านเก่ง  ต้องฝึกเอง  เรียนรู้เอง   ไม่มีใครทำให้เราอ่านเก่งได้
           แต่เราทุกคนสามารถเรียนรู้วิธีการอ่านเก่ง อันเป็นพื้นฐานการอ่านได้    
           ส่วนทักษะการอ่านนั้น  ทุกคนต้องฝึกฝน อย่างสม่ำเสมอ  ทุกวัน  ทุกครั้งที่มีโอกาส   เราเองเท่านั้นที่จะรู้ว่า
           จะฝึกอย่างไร  ฝึกเมื่อไร   ฝึกนานเท่าไร
    วันนี้ครูเพลินพิศ  ได้รับฟังข่าวดี   ๒  ข่าว  ข่าวแรกคือนักเรียนในที่ปรึกษา ม
 . ๖/๑  สอบติดแพทย์พีไอ  (วนิดา)
อีกคน สอบได้ทุนหนึ่งอำเภอหนึ่งด๊อกเตอร์ (สุทธิดา)  แน่นอน  ว่า เด็กทั้งสองคนเป็นนักอ่านมานานแล้ว

ประเด็นการศึกษา  การอ่านให้เก่ง    ชั้นมัธยมศึกษาทุกระดับชั้น

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

รื่อง  การพัฒนาการอ่าน

            หากคนใดที่มีปัญหาและต้องการแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาสมรรถภาพการอ่านด้วยตนเอง หลักปฏิบัตินี้อาจช่วยให้มีทักษะการอ่านที่แข็งแกร่งได้มากขึ้น

                  ๑. อ่านแล้วคิด คือการอ่านแล้วแสดงความคิด ทั้งในแง่บวกและแง่ลบกับทัศนะของผู้เขียนหรือข้อคิดเห็นของหนังสือนั้นๆ หากอ่านโดยไม่ปรับความเข้าใจ  หรือไม่คิดตามก็เท่ากับเป็นการอ่านที่เสียเวลาเปล่า เพราะหากไม่เข้าใจก็ย่อมไม่ได้ความรู้หรือข้อมูลใดที่สามารถเก็บเกี่ยวไปใช้ได้

     การแสดงความคิดขั้นพื้นฐานอาจเป็นการคิดโดยการตั้งคำถาม ซึ่งอาจเป็นคำถามที่เราเองรู้คำตอบดีอยู่แล้วก็ได้ หรือไม่ทราบคำตอบจริงๆ ก็ได้ เพื่อที่จะค้นคว้าหาคำตอบเพิ่มเติมความรู้ให้กับตัวเราต่อไป
                                                         อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                    ที่มา : https://www.taklong.com/pictpost

                  ๒. สภาพจิตใจและร่างกายที่สดใส สภาพจิตใจนับว่าเป็นอีกเหตุปัจจัยหนึ่งที่สำคัญสำหรับการอ่านและแน่นอนว่าความคิดที่ดีนั้นย่อมจะเกิดขึ้นหลังจากการมีจิตใจที่ปลอดโปร่งแจ่มใส 
เพราะความปลอดโปร่งของสภาพจิตใจนั้นนำมาซึ่งสมาธิ และเมื่อเกิดสมาธิก็ย่อมเกิดปัญญาที่ดีได้เช่นเดียวกัน

     นอกจากสภาพจิตใจที่ดีแล้ว สภาพร่างกายก็ควรเอาใจใส่เช่นกัน อวัยวะที่สำคัญของร่างกายที่ใช้ในการอ่านนั้นก็คือดวงตา และหลักการรักษาดวงตามีง่ายๆ ดังนี้

                             ๒.๑ ไม่ควรอ่านหนังสือในสถานที่มืดหรือสว่างเกินไป และสถานที่ที่มีอาการสั่นไหว หากอ่านหนังสือในที่มืดหรือสว่างเกินไป และสถานที่ที่มีอาการสั่นไหว อาจทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานมากขึ้น
 จะรู้สึกปวดตาหรือตาพร่ามัวเนื่องจากดวงตาพยายามเพ่งหาตัวอักษร ควรหาแสงสว่างให้พอเหมาะกับการอ่าน และสถานที่เอื้ออำนวยกับการอ่านเพื่อเพิ่มความสุขในการอ่านหนังสือของเรามากยิ่งขึ้น
 และปัญหาเรื่องโรคสายตาก็จะไม่เข้ามาใกล้ตัวเราอีกด้วย

                               ๒.๒ รับประทานอาหารและพักผ่อนให้เพียงพอ บางคนอ่านหนังสือจนลืมรับประทานอาหารหรือไม่รับประทานอาหาร นั้นเป็นการกระทำที่ผิดเพราะร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารไปหล่อเลี้ยงสมอง
และส่งผลถึงความคิดให้ท่านสามารถคิดได้ดียิ่งขึ้น หากแต่อ่านหนังสือประเภทตำราหรือเรื่องยากๆ ต้องบังคับใจไม่ให้กินอิ่มเกินไปเพราะอาจทำให้ง่วงนอนจนไม่สามารถอ่านหนังสือได้
                          อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                       ที่มา : campus.sanook.com

     หากง่วงนอนหรือเหนื่อยจนไม่สามารถควบคุมได้ จงนอนเพราะการฝืนอ่านหนังสือต่อไปอาจเสียเวลาเปล่า อีกทั้งยังทรมานดวงตาและสมองอีกด้วย

                  ๓. สนใจอ่านหนังสือทุกประเภท หนังสือทุกวันนี้สามารถค้นคว้าหาอ่านได้อย่างมากมายหลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสนใจอ่านหรือไม่ และจะเลือกอ่านอย่างไร หนังสือ วารสาร นิตยสาร และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ 
สื่อเหล่านี้นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว อาจให้เนื้อหาสาระเฉพาะด้านอีกด้วย โดยบอกกล่าวให้เราทราบถึงความรู้รอบตัว หรือลักษณะข้อเท็จจริงที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น นวนิยาย เรื่องสั้น 
หรือนิตยสารท่องเที่ยว เป็นต้น

     ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว ล้วนแล้วแต่แฝงความรู้อยู่ด้วย หากได้อ่านหนังสือมากๆ ก็เหมือนกับเรามีหูตาที่กว้างไกลกว่าคนอื่นๆ และก้าวตามความเป็นจริงของโลกสมัยใหม่ได้อย่างงดงาม
                             อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                             ที่มา : 2bemen.com

                  ๔. ใช้พจนานุกรมเป็นเครื่องมือในการอ่าน พจนานุกรมมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะผู้ที่เรียนภาษาต่างประเทศ และเรียนเนื้อหาที่ยากขึ้น มีคำศัพท์แปลกๆ ใหม่ๆ มากมาย และเมื่อมีพจนานุกรมแล้วก็ต้องรู้จัก
การใช้พจนานุกรมให้ถูกวิธีด้วย ดังนี้

                              ๔.๑ จะต้องรู้จักลำดับ ก-ฮ และ a-z ได้อย่างแม่นยำเพื่อการค้นคว้าได้รวดเร็ว

                              ๔.๒ ควรอ่านข้อความให้จบเสียก่อน เพราะถ้อยคำแวดล้อมอาจช่วยให้เราเดาความหมายของคำหรือประโยคนั้นได้เองโดยอัตโนมัติ และควรเปิดพจนานุกรมตรวจสอบว่าถูกต้องตามที่เราเดาหรือไม่ 
และดูหน้าที่ของคำนั้นๆ ด้วยว่าคำนั้นทำหน้าที่ใด เช่น คำนาม กริยา หรือสรรพนาม เป็นต้น

                              ๔.๓ หากคำที่ต้องการค้นหาสามารถแปลได้หลายความหมาย ลองใช้สามัญสำนึกของเราแปลความหมายของคำนั้นๆ ว่าสามารถเข้ากับประโยคนั้นๆ ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ลองเปลี่ยนความหมายใหม่จนกว่าจะเหมาะสม
 
                             ๔.๔ หากพยายามด้วยตนเองแล้วยังไม่ทราบความหมายควรถามผู้รู้ เช่น คุณครู คุณพ่อคุณแม่ เป็นต้น
                                 อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                                       ที่มา : nep.go.th
 
                  ๕ อย่าอ่านจี้เป็นคำๆ การอ่านหากอ่านจี้เป็นคำๆ จะรวบรัดจับใจความของข้อความนั้นๆ ได้ช้า แต่อาจจะได้ผลดีกับการอ่านเพื่อเอาความคิดหรือเน้นพินิจพิเคราะห์ของใจความนั้น หากท่านอยากจะอ่านได้อย่างรวดเร็ว
และมีประสิทธิภาพนั้นจะต้องอ่านแบบกวาดสายตาหรืออ่านเป็นหน่วยข้อความ หากไม่เข้าใจต้องฝืนใจอ่านไปก่อน และหยุดสายตาก็ต่อเมื่อได้ความหมายจากการอ่านข้อความช่วงหนึ่งๆ แล้ว

     การจับหนังสือเวลาอ่านก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยให้การอ่านมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น หากแน่ใจว่าจะอ่านหนังสือเล่มนั้นมากกว่าหนึ่งหน้า ก็ใช้นิ้วชี้ขวาสอดใต้หน้าขวาเตรียมไว้ก่อน เพื่อจะพลิกได้ทันที 
และหากอยู่ในท่ายืนจะต้องใช้มือซ้ายประคองใต้หนังสือด้วย
                          อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                                ที่มา : muangthai.com

                   ๖. ฝึกการจำความย่อ ๆ การจำข้อความย่อๆ นี้ เป็นการใช้ความจำที่จะต้องจดจำใจความสำคัญของข้อความ ซึ่งในข้อความที่สั้นที่สุดแต่ครอบคลุมเนื้อหาสาระได้มากที่สุด หรืออาจกล่าวได้ว่าจำได้น้อยแต่ได้ความมาก 
โดยสามารถใช้วิธีง่ายๆ ได้คือ การทำเครื่องหมายลงบนจุดสำคัญของข้อความเพื่อเตือนความจำ หรือสรุปแนวคิดหลักของแต่ละข้อความเพื่อจะได้กลับมาย้อนอ่านใหม่อีกครั้ง หรือวิธีที่สามเป็นวิธีที่สั้นที่สุดและครอบคลุมเนื้อหา
ได้มากที่สุด คือการสร้างแผนภูมิ หากเราสามารถอ่านแล้วทำความเข้าใจเป็นแผนภูมิได้แสดงว่าระบบความคิดของเราอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว
                                                            อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                                    ที่มา : dek-d.com

                   ๗. รู้จักขอความช่วยเหลือ การที่เราจะอ่านหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งนั้น เราจะต้องรู้ก่อนว่าจะอ่านหนังสือเล่มนั้นเพื่ออะไร เช่น เพื่อเรียน เพื่อแสวงหาความรู้ เพื่อความบันเทิง เพื่อแก้ไขปัญหา เป็นต้น เมื่อทราบวัตถุประสงค์
ของตนเองแล้วก็ควรอ่านหนังสือเล่มนั้นอย่างถูกวิธี โดยการถามและตอบปัญหากับตัวเองเพื่อเป็นการแสดงความเข้าใจกับตัวเองเพิ่มมากขึ้น หากมีปัญหาจนไม่อาจแก้ไขได้ก็ควรหาบุคคลที่เรารู้จักหรือคบหาอยู่ช่วยเหลือ
 เช่น คุณพ่อคุณแม่ พี่ เพื่อน ครู อาจารย์ หรือผู้ที่มีวัยวุฒิมากกว่า อย่าอายที่จะพูดว่าไม่รู้ไม่เข้าใจ เพราะการไม่รู้ไม่เข้าใจจะเป็นหนทางสู่ความฉลาด และจะฉลาดขึ้นถ้ารู้จักแสวงหาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม
                        อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                        ที่มา :   learners.in.th
 
                   ๘. อ่านไม่เบื่อทุกวิชา หากเราสร้างนิสัยให้รักการอ่านได้นั้น เรื่องยากๆ อาจกลับกลายเป็นเรื่อง่าย เพราะทุกวิชา ทุกเรื่องราวล้วนมีความสัมพันธ์กัน หากเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ให้ดีพอ ก็จะช่วยเสริมสร้างความรู้ซึ่งกันและกัน
ไปเองโดยอัตโนมัติ และช่วยให้เห็นหนทางที่จะนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในโอกาสต่างๆ ได้อย่างชัดเจนขึ้น
                                    อ่านให้เก่ง เร่งให้อ่าน
                                                                                         ที่มา : thairath.co.th

                  ๙. ชีวิตมีค่าและประสบความสำเร็จ การอ่านที่ดีนั้นได้กล่าวไปแล้วว่ามิใช่มีเพียงแต่การอ่านเพื่อเรียนเท่านั้น เมื่อเราพัฒนาความสามารถของตนเองขึ้นมาแล้ว ผลที่ตามมาจะมิได้อยู่เฉพาะตัวเอง เพราะเรารู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่ด้อยโอกาส เพราะเขาอ่านไม่เป็น ไม่อ่าน หรือมีปัญหาทางด้านการอ่าน หากเรามีโอกาสจะช่วยผู้อื่นได้ ก็นับได้ว่าเราเป็นคนหนึ่งที่ทุกคนต้องการคบหา

ความคิดสร้างสรรค์แบ่งปันหลังเรียน
        ๑. นักเรียนเขียนวิธีอ่านที่เป็น Best Pactics ของตนเองเป็นข้อ ๆ 
        ๒. การอ่าน มีผลต่อชีวิตอย่างไร

กิจกรรมเสนอแนะ
       ๑.  โต้วาทีในญัตติ การฟังกับการอ่าน อะไรประสานความสำเร็จ

สรรถนะที่ต้องการเน้น
       ๑. มีความสามารถในการคิด
       ๒. มีความสามารถในกาใช้ทักษะชีวิต

กิจกรรมบูรณาการ   
        ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้

          ที่มา :  เพลินพิศ   สุพพัตกุล   แผนการจัดการเรียนรู้  ภาษาไทย  ชั้นม.๕
          ที่มา :  เพลินพิศ   สุพพัตกุล  คู่มือการสอนภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕


ขอบคุณ 
https://www.aksorn.com/lib/default.php?topicid=357&subject=4&class=1&searchword=

ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=4635

อัพเดทล่าสุด