มองโฆษณาอย่างวรรณกรรม ประเด็นจากข่าว :องค์การอาหารและยา (อย.) เตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายเข้มกับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมกาเฟอีนตรา คาราบาวแดง หลังพบโฆษณาทางสื่อหนังสือพิมพ์ ป้ายโฆษณา และวิทยุกระจายเสียง อ้างสรรพคุณมีวิตามิน บี 12 บำรุงสมอง พร้อมสั่งระงับโฆษณา ขู่มีโทษทั้งจำและปรับ อาจถึงขั้นพักใช้ใบอนุญาตผลิตอาหาร ทั้งนี้ ยังพบการโฆษณาให้ประชาชนเขียนข้อความ วิตามินบี 12 บำรุงสมอง ส่งไปจับรางวัล โดยการโฆษณาของคาราบาวแดงในทุกสื่อทั้งทางตรงทางอ้อม ถือว่าเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น อย. เคยมีหนังสือสั่งให้ระงับโฆษณาในสื่อทุกสื่อ และมีหนังสือเชิญพบบริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่าย เพื่อให้รับทราบการโฆษณาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่มา : https://news.mthai.com/general-news/85865.html เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๓ มองโฆษณาอย่างวรรณกรรม ภาพจาก : https://www.pingbook.com/news/view.php?id=615 การโฆษณาสินค้าหรือบริการในสื่อต่าง ๆ บางรายการอาจบอกกล่าวตรง ๆ บางรายการเสนอเป็นละครฉากสั้น ๆ มีตัวละครแสดง บางรายการแสดงในลักษณะทำให้เห็นสิ่งที่เกินจริงหรือตลกขบขัน บางรายการก็เสนอภาพที่สับสน วุ่นวาย การโฆษณามีจุดมุ่งหมายสร้างความสนใจให้ผู้คนสะดุดตา สะดุดใจ และจดจำสินค้าหรือบริการที่โฆษณา ผู้สร้างโฆษณาอาจใช้วิธีการต่างๆ ในการส่งสาร เช่น บอกตรง ๆ ว่าช่วยกันรักษาแม่น้ำเจ้าพระยาให้สะอาด หรือใช้คำที่คล้องจองกัน ใช้คำที่กระตุ้นให้เกิดความประทับใจ เช่น แค่ทิ้งคนละชิ้น เจ้าพระยาก็สิ้นแล้ว การใช้คำว่า “สิ้น” สะกิดอารมณ์ผู้ฟัง ให้ตระหนักถึงผลเสีย ใคร ๆ ก็อยากจะ “เริ่ม” มากกว่า “สิ้น” และถ้าเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำเส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทย “สิ้น” แล้วคนไทยจะอยู่อย่างสุขสบายต่อไปอย่างไร คนที่ฟังแล้วคิดต่อ ก็จะได้รับ “สาร” จากบทโฆษณานี้ ภาพจาก : https://th.88db.com/Business-Services/Advertising-PR/ad-159463/ การโน้มน้าวใจในโฆษณาบางเรื่อง ใช้กลวิธีเร้าความรู้สึกให้เกิดอารมณ์ร่วมกับคนอื่น ๆ ที่เป็นคนส่วนใหญ่ เช่น การโน้มน้าวใจให้รักชาติ ห่วงใยสิ่งแวดล้อม เห็นใจคนจน ฯลฯ แต่บางเรื่องเกี่ยวกับคนบางกลุ่มเท่านั้น เช่น นักศึกษา นักธุรกิจ พ่อแม่ ฯลฯ ไม่สามารถจะเร้าความรู้สึกของ “คนนอก” ด้วยวิธีของ “รักเจ้าพระยา” ได้ จึงต้องใช้กลวิธีอื่น เช่น การสร้างอารมณ์หรรษา
การสร้างอารมณ์หรรษาในบทโฆษณา อาจใช้กลวิธีเดียวกับบทละครหรือนวนิยาย เพียงแต่เจาะลงที่ฉากหนึ่งและให้จบเบ็ดเสร็จในตอนสั้น ๆ องค์ประกอบที่เหมือนกันมีเนื้อเรื่อง ตัวละคร ฉาก บทสนทนา แนวคิด เป็นต้น แต่สิ่งที่จะขาดไม่ได้ คือศิลปะ ถ้านับว่าวรรณกรรมคืองานประพันธ์ที่สื่อความรู้สึกนึกคิดอย่างมีศิลปะ ศิลปะในที่นี้หมายถึง การเลือกรูปแบบ การสรรคำ การแสดงออก การทำให้ผู้ชมงานศิลปะเกิดความหยั่งเห็น เป็นต้น โฆษณาบางชิ้นก็เป็นวรรณกรรมได้ ภาพจาก : https://www.kru-tharinee.ob.tc/c11116.html โฆษณาดี ๆ หลายบทดูเพลิน น่าติดตามยิ่งกว่าตัวรายการเสียอีก ยิ่งถ้าได้ “อ่าน” โฆษณาอย่างวรรณกรรม ก็จะได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง โฆษณาดี ๆ มีสารที่จรรโลงใจให้ผู้ดูได้หยั่งเห็นและฉุกคิดอยู่มากเหมือนกัน เช่นเรื่องความรับผิดชอบ ความผูกพันระหว่างพ่อแม่และลูกกับญาติผู้ใหญ่ เป็นต้น ความเข้าใจของลูกตัวน้อย ๆ เป็นแรงใจให้พ่อแม่ได้เป็นอย่างดี เช่น พ่อลูกขับรถกลับบ้านในยามค่ำ ลูกถามพ่อว่าทำไมต้องทำงานหนักด้วย พ่อบอกว่า จะได้ซื้อบ้านใหญ่ ๆ ให้ลูก เผอิญรถต้องเบรกกะทันหันเห็นอันตรายจ่ออยู่ตรงหน้าแล้ว ลูกจึงตอบว่า เราอยู่บ้านเล็ก ๆ ก็ได้ เท่ากับบอกว่าหนูเป็นห่วงพ่อ อย่าทำงานหนักมมากจนเกินไป เพื่อสิ่งนี้เลย เจ้าของสินค้าได้ประโยชน์ถึง ๒ ทาง ทางหนึ่งมีผู้รับรู้ว่าสินค้ามีคุณภาพอีกทางหนึ่งช่วยสร้างสำนึกที่ดีในใจผู้เป็นลูก ภาพจาก : https://www.changsunha.com/index.php/themost/spirit-advertisement-thailand/ ตัวอย่างของความรู้สึกดี ๆ อีกเรื่องหนึ่งคือ ความภูมิใจในตัวพ่อแม้จะมีอาชีพที่ใครๆ มองว่าสามัญมาก เด็กชายคนหนึ่งบอกเพื่อน ๆ ถึงอาชีพของพ่อและยังยืนยันกับพ่อว่า โตขึ้นเขาจะประกอบอาชีพอย่างพ่อ เพราะทึ่งในฝีมือการทำงานของพ่อซึ่งพ่อบอกว่าเป็นเคล็ดลับ ยิ่งทึ่งหนักขึ้นไปอีกเมื่อพ่อ บอกลูกว่าได้เคล็ดลับมาจากปู่ มรดกที่พ่อได้จากปู่ ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นกลเม็ดที่ทำให้เป็นช่างฝีมือเหนือใคร มรดกนี้เด็กชายก็กำลังจะได้รับจากพ่ออีกต่อหนึ่ง จึงน่าภูมิใจยิ่งนัก ดูโฆษณาอย่างนี้แล้วสบายใจ อิ่มใจเหมือนได้อ่าน หนังสือดี ๆ เรื่องหนึ่ง ถ้าผู้สร้างโฆษณาตั้งอกตั้งใจ พิถีพิถัน และมีรสนิยมอย่างนี้มาก ๆ ก็คงจะดี กุสุมา รักษมณี จากหนังสือเรียนภาษาไทยวิวิธภาษาชั้น ม.๓ เรื่อง มองโฆษณาอย่างวรรณกรรม ผู้แต่งคือ กุสุมา รักษมณี สาระสำคัญของเรื่อง
โฆษณาที่มีการนำเสนออย่างมีศิลปะ ควรนับว่าเป็นวรรณกรรมได้ เพราะโฆษณามีการนำเสนอที่น่าสนใจ มีการสรรคำมาใช้ ทำหน้าที่ สะท้อนภาพสังคมเหมือนวรรณกรรม โฆษณาที่ดีมีสารจรรโลงใจ มีการแทรกข้อคิดที่เป็นประโยชน์หรืออาจทำให้รู้สึกดีหรือสบายใจขึ้นได้
ประเด็นคำถาม ๑. นักเรียนคิดว่า "การโฆษณา" จำเป็นหรือไม่เพราะอะไร ๒. การโฆษณาที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร ๓. ยกตัวอย่างโฆษณาที่นักเรียนชื่นชอบ พร้อมบอกเหตุผล กิจกรรมเสนอแนะ ๑. ยกตัวอย่างโฆษณาที่ชอบหรือสนใจ วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของโฆษณานั้น บูรณาการ การอาชีพและเทคโนโลยี การบริโภคสื่อโฆษณา ที่มา : https://news.mthai.com/general-news/85865.html : https://www.pingbook.com/news/view.php?id=615 : https://th.88db.com/Business-Services/Advertising-PR/ad-159463/ : https://www.kru-tharinee.ob.tc/c11116.html : https://www.changsunha.com/index.php/themost/spirit-advertisement-thailand/ ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=4113 |