วิชาภาษาไทย ภาษาไทย การอ่าน บทความ โคลนติดล้อ ตอน นิยมเป็นเสมียน

 โคลนติดล้อ....ของานที่ไม่ต้องเพียร เป็นเสมียนก็ยอม
  
     ประเด็นข่าว :  เทพไทปัดงมงายปรับภูมิทัศน์ทำเนียบฯ
                                  
                                          ภาพจาก : https://www.tnews.co.th

              "โฆษกมาร์ค” โบ้ยปรับภูมิทัศน์ทำเนียบแค่ความเห็นฝ่ายอาคารสถานที่ 
ชี้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม "คนดีได้ดี คนทำไม่ดีก็ไม่มีแผ่นดินอยู่" มากกว่า ...

        วันที่ ๔ ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้า
พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การปรับภูมิทัศน์ในทำเนียบรัฐบาล 
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาระบุว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งการ โดยกล่าวหาว่า
เป็นถึงนักเรียนนอก แต่งมงายเรื่องไสยศาสตร์ ว่า ตนอยากเรียนว่า การปรับภูมิทัศน์
เป็นความรับผิดชอบของกองอาคารสถานที่ทำเนียบรัฐบาล   นายกฯไม่มีส่วนในการ
สั่งการใดๆ ทั้งสิ้น ..........

               ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์  "  วันจันทร์ที่  ๔ ตุลาคม  ๒๕๕๓

         อ่านข่าวการเมืองเพื่อหาข่าวที่สะท้อนมุมมอง หรือข้อเสนอแนะ
ในการนำพาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง  ก้าวสู่สังคมการเมืองอีกระดับหนึ่ง  
แต่ก็พบข่าวการโต้ตอบกันไปกันมา  ฝ่ายหนึ่งว่า ฝ่ายหนึ่งตอบ  
ทำให้นึกถึงงานพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 
 เรื่อง "โคลนติดล้อ"  ซึ่งให้ความหมาย ของโคลนในเรื่องไว้ว่า   ทุกอย่าง 
ทุกเรื่อง ที่ทำให้ประเทศชาติพัฒนาช้าลง เปรียบเสมือนโคลนที่ติดล้อ
ทำให้รถเคลือนช้าลง 
                  
                               ภาพจาก : https://www.oknation.net
         
ประเด็นการศึกษา เรื่อง โคลนติดล้อ   ตอน นิยมเป็นเสมียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕

โคลนติดล้อ ตอนนิยมเป็นเสมียน

ผู้แต่ง: พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทรงใช้พระนามแฝงว่า: “อัศวพาหุ”

รูปแบบ: บทความ

ที่มาของเรื่อง:
        พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ เรื่อง โคลนติดล้อ
ซึ่ง มีทั้งหมด ๑๒ ตอน ลงพิมพ์ในหนังสือไทย พ.ศ. ๒๔๕๘ ตอนความนิยมเป็นเสมียน
เป็นตอนที่ ๔ ลงพิมพ์ในหนังสือสยาม(สยามออบเซอร์เวอร์) ฉบับวันที่ ๓ พฤษภาคม 
พ.ศ. ๒๔๕๘

เนื้อเรื่อง:
         เสมียนเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับหนังสือ ผู้ที่มีการศึกษานั้นนิยมเป็นเสมียน 
คือ นิยมเข้ารับราชการ ไม่สนใจกลับไปทำการเกษตรในภูมิลำเนาของตน ซึ่งก่อให้เกิด
ประโยชน์ให้ประเทศได้มาก ทั้งนิยมใช้ชีวิตอยู่ในเมือง
                        
                                  ภาพจาก : https://www.healthcorners.com

         บุคคลเหล่านี้เห็นว่า กิจการอย่างอื่นไม่สมเกียรติยศ    คนที่ได้รับการศึกษา
ไม่ควรเสียเวลาไปทำงานให้ที่คนไม่รู้หนังสือก็ทำได้   และเพราะไม่อยากลืมวิชาความรู้
ที่ได้เล่าเรียนมา คนจำพวกนี้ยอมทนใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ ฯ ทั้งที่เงินเดือนไม่มาก 
แต่ก็จับจ่ายทรัพย์เพื่อการต่างๆได้ เช่น นุ่งผ้าม่วงสี ดูหนัง กินข้าวตามกุ๊กช้อป 
บุคคลเหล่านี้ไม่เข้าใจว่าการทำงานอื่นๆนั้นก็มีเกียรติเท่ากับผู้ที่ทำงาน ด้วยปากกาเหมือนกัน
การที่เป็นเช่นนี้ถือเป็นความผิดของเราทั้งหลายด้วย 
                          
                               ภาพจาก : https://www.healthcorners.com


        ถ้ายังเห็นว่าการเป็นเสมียนสูงกว่าชาวนาชาวสวนก็จะทะเยอทะยานอยากเป็น 
ทางกระทรวงทบวงการคัดเลือกเสมียนที่มีมากเกินความจำเป็นออก บุคคลเหล่านี้ก็ไม่อาจ
เป็นชาวนาได้ ดังนั้นจึงต้องอยู่แต่ในเมือง อายุมากขึ้น โอกาสก็น้อยลง ดังคำกล่าวว่า
 การทำงานอื่นๆก็สามารถทำประโยชน์ได้ดีกว่าการเป็นเสมียน จึงเห็นว่าการทำงานอื่น
ก็มีเกียรติยศเหมือนเสมียนเช่นกัน

คุณค่าของเรื่อง:
       ๑. เป็นตัวอย่างบทความที่ดี 
       ๒. เสนอข้อคิดเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมืองในเรื่องค่านิยมที่เป็นอุปสรรคทำให้
           ประเทศเจริญได้ช้า 
       ๓. ให้แนวคิดว่าอาชีพอื่นก็สามารถทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้

ความคิดสร้างสรรค์แบ่งปันหลังเรียน
       ๑. ให้แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔  ให้ช่วยวิเคราะห์สถานการณ์  หรือเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้น จากสื่อที่หลากหลาย  การกระทำใดบ้างที่เข้าข่าย "โคลนติดล้อ"
หรือเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศชาติพัฒนาช้าลง ใช้ภาษาอธิบายเชื่อมโยง 
        ๒. แต่ละกล่มนำเสนอผลงาน

  
กิจกรรมเสนอแนะ
       ๑. แต่ละกลุ่มแต่งเพลงสรุป เรื่องโคลนติดล้อ ตอนนิยมเป็นเสมียน

  
คุณลักษณะที่ปลูกฝัง
       ๑. รักความเป็นไทย
       ๒. ใฝ่เรียนรู้

กิจกรรมบูรณาการ   
       กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ เรื่อง คุณธรรมของผู้ครองเรือน

     
ที่มา : เพลินพิศ  สุพพัตกุล  คู่มือการสอนภาษาไทย  ชั้น ม.๕
ขอบคุณ : https://www.baanmaha.com
 ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3213