กลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถนำมาปรับใช้กับกลุ่ม Gen B ได้ดีคือ
- Experiencetal Marketing
การตลาดโดยเน้นประสบการณ์ในอดีต หรือการใช้ Brand Royalty เนื่องจากกลุ่ม Gen B มีลักษณะของความเป็นอนุรักษ์นิยมในตัวเอง จึงมีความรู้สึกผูกพันกับสินค้าและ Brand ที่ตนเองคุ้นเคยในอดีต การตัดสินใจซื้อจึงอ้างอิงจากประสบการณ์การใช้สินค้าที่ผ่านมา การจะทำตลาดกับกลุ่ม Gen B จึงควรให้พวกเขาได้ตัดสินใจด้วยตนเองโดยการให้มีการทดลองใช้ หรือการการสร้างรูปแบบของสินค้าให้เกิดความคุ้นเคยกับสินค้าในอดีต เป็นต้น - Large Fonts
ตัวอักษรขนาดใหญ่ การที่กลุ่ม Gen B คุ้นชินการทำตลาดของสินค้าในรูปแบบต่างๆ ในอดีตที่นิยมใช้ตัวอักษรเป็นจุดสร้างความสนใจให้กับสินค้ามากกว่ารูปภาพหรือสินค้าจริง ทำให้แม้ในปัจจุบันคนในกลุ่ม Gen B จึงยังให้ความสำคัญกับการอ่านสื่อต่างๆ ที่เป็นตัวอักษรมากกว่ารูปภาพ โดยตัวอักษรขนาดใหญ่และเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ใช้ถ้อยคำที่ดึงดูดใจยังสามารถสร้างความสนใจให้กับ Gen B ได้ดีอยู่เช่นในอดีต - No Rush
ในปัจจุบันกลุ่ม Gen B ก้าวเข้าสู่ช่วงวัยของความสำเร็จทางชีวิต การงาน อาชีพ แล้ว การตัดสินใจและพิจารณาสื่อสารต่างๆ หรือเรื่องราวการรับรู้จึงมีความรอบคอบจากการกลั่นกรองร่วมกับประสบการณ์ในอดีต จึงทำให้คนในกลุ่ม Gen B ไม่เร่งร้อน เร่งรีบ และแข่งขัน ในการตัดสินใจต่างๆ เช่นคนในกลุ่ม Generation อื่นๆ ที่เด็กกว่า การทำตลาดกับกลุ่ม Gen B โดยใช้แผนการตลาดแบบเร่งเร้าอารมณ์ หรือกระตุ้นความรู้สึกให้เกิดความต้องการแบบทันทีทันใดอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร การทำตลาดกับกลุ่ม Gen B จึงต้องให้ความสนใจกับการป้อนข้อมูลข่าวสาร ข้อดีและข้อเสียของสินค้า และประโยชน์ต่อผู้ซื้อและคนรอบตัวเป็นสำคัญ - Treat them like Family
เนื่องด้วยคนในกลุ่ม Gen B อยู่ในช่วงอายุของการเป็นผู้ใหญ่ และผู้อาวุโส ที่มีประสบการณ์สูงในทุกด้าน การทำการตลาดและการสื่อสารกับคนกลุ่มนี้จึงควรทำด้วยความระมัดระวังและให้เกียรติ การให้ความนับถือและนอบน้อมจึงสามารถนำมาใช้ได้ดีต่อการทำตลาดกับกลุ่ม Gen B และเนื่องด้วยมีความเป็นผู้ใหญ่สูงคนในวัย Gen B จึงมักให้ความเอ็นดูกับคนกลุ่มรุ่นที่เด็กกว่าและพร้อมจะเปิดรับในฐานะผู้ใหญ่ใจดีอยู่แล้ว การสานสัมพันธ์และสื่อสารต่างๆ จึงจะดำเนินได้ด้วยดีหากผู้สื่อสารวางตัวเป็นผู้น้อยที่น้อมรับความคิดเห็นและประสบการณ์จากผู้ใหญ่ที่มีความรู้และมีประสบการณ์สูงกว่า - Freedom Centric
กลุ่ม Gen B ผ่านประสบการณ์ต่างๆ มาเนิ่นนานหลายปี จึงมีความมั่นใจในตนเองและมีความมั่นคงทางอารมณ์และมีการตัดสินใจที่แน่วแน่ โดยอาศัยประสบการณ์ในอดีตเป็นตัวเปรียบเทียบ ดังนั้นการตลาดแบบชี้นำและฉาบฉวยจึงจะใช้ได้ไม่ดีนักในการทำตลาดกับกลุ่ม Gen B การทำตลาดจึงเพียงให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและแสดงถึงข้อมูลที่เป็นผลดีต่อผู้บริโภคอย่างไม่ปิดบัง จะเป็นตัวช่วยในการเร่งให้คน Gen B ตัดสินใจบริโภคสินค้าชนิดนั้นๆ ได้เร็วขึ้น มากกว่าการทำการตลาดโดยการโฆษณาชวนเชื่อหรืออาศัยกระแสความนิยมเช่นในกลุ่ม Generation อื่นๆ - Cause Related Marketing
การผ่านประสบการณ์ชีวิตมายาวนานและย่างเข้าสู่วัยที่เห็นคุณค่าของชีวิตและการดำเนินชีวิตโดยมองจากองค์รวมของสังคม กลุ่ม Gen B ส่วนใหญ่จึงมีแนวคิดมองโลกในมุมมองที่เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ จะเห็นได้ว่าในวัย Gen B คนเหล่านี้จะเป็นผู้ให้แก่สังคมมากมายทั้งก่อตั้งมูลนิธิ การร่วมบริจาคต่างๆ การช่วยเหลือสังคม รวมไปถึงการบริโภคสินค้าที่สามารถช่วยเหลือผู้คนหรืออนุรักษ์โลกได้ เป็นต้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การทำตลาดกับกลุ่ม Gen B คือการทำการตลาดเชิงเอาใจใส่สังคม (Cause-Related Marketing) สินค้าที่มีการแสดงเจตนารมณ์ช่วยเหลือสังคม หรือดูแลโลกจะสามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคกลุ่ม Gen B ได้ดี เช่นเดียวกับการตลาดโดยใช้ Brand Royalty การนำความคิดเรื่องการห่วงใยและดูและสังคมมาใช้ร่วมกับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จะทำให้กลุ่ม Gen B ยอมที่จะหันมาทดลองผลิตภัณฑ์ชนิดนั้น ด้วยที่เหตุผลที่ว่า “ช่วยสังคม” “ช่วยโลก”