เมืองไทยเรามีหลายพื้นที่ที่ปลูกต้นกาแฟได้ และก็ไม่จำเป็นว่าอาชีพเกี่ยวกับกาแฟในเมืองไทยจะเป็นได้แค่เกษตรกร เป็นนักธุรกิจกาแฟก็ได้ อย่างรายของกลุ่มชาวบ้านที่ ต.คลองท่อม จ.กระบี่ ที่ผันตัวจากเกษตรกรเป็นนักธุรกิจขาย “กาแฟคั่วบด” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอ...
@@@@@
ป้าไพ-ประไพ จันทรักษ์ หนึ่งในเจ้าของสวนกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ในเขต ต.คลองท่อม เล่าว่า จากปัญหาเมล็ดกาแฟสดราคาตกต่ำ เกษตรกรส่วนใหญ่เลือกที่จะหนีภาวะขาดทุนด้วยการโค่นต้นกาแฟทิ้ง แล้วหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน แต่ตนเองเห็นว่าน่าจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูปเมล็ดกาแฟเป็นสินค้า จนเป็นผลิตภัณฑ์ “กาแฟคั่วบด” ชื่อ “คลองท่อม คอมฟี่ นกแต้วแร้ว” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตราสินค้าที่เป็นความภาคภูมิใจของคนเมืองกระบี่ สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้อย่างน่าพอใจ
“พอราคาตก ก็ทดลองนำเมล็ดกาแฟดิบที่ขายไม่ได้ราคามาแปรรูปคั่วบด แล้วตั้งร้านชงขายแบบสด ๆ ในตลาด ได้คิดค้นสูตรจนได้รสชาติถูกใจคอกาแฟ ทั้งยามเช้า บ่าย ค่ำ ขายได้ดี จากนั้นก็เริ่มชักชวนเพื่อนบ้าน ทำกาแฟคั่วบดฝากขายตามร้านต่าง ๆ จนสินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ”
ป้าไพเล่าต่อไปว่า เมื่อมองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้ ก็ชักชวนคนอื่น ๆ ที่ยังรักสวนกาแฟมาร่วมกันทำ เริ่มในปี 2545 รวบรวมแม่บ้านที่ว่างจากงาน จัดตั้ง “กลุ่มสตรีเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้” ขึ้น โดยตนเองเป็นประธาน ใช้เงินลงทุน 1,000,000 บาท ที่ขอกู้จากโครงการกองทุนหมู่บ้าน สร้างอาคาร ซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ ลงมือทำกันจริงจังจนเห็นผลเป็นรูปธรรม มาจนถึงปัจจุบันมีสมาชิก 40 คน
เคล็ดลับการผลิตกาแฟคั่วบดให้ได้คุณภาพนั้น ป้าไพบอกว่า ต้องพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เมล็ดกาแฟที่เก็บสด คัดเฉพาะเมล็ดสุกที่ได้คุณภาพ นำมาตากแดดให้แห้งสนิทประมาณ 2 สัปดาห์แล้วจึงนำไปสีเอาเปลือกออก จากนั้นบ่มทิ้งไว้ประมาณ 1 ปี จึงนำมาคั่ว เสร็จแล้วหมักไว้ประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะบด แต่ก่อนบดเป็นผงละเอียดต้องคัดเลือกเฉพาะเมล็ดที่ดีอีกที ถ้ามีเมล็ดอ่อนหรือเมล็ดที่เสียปะปน รสชาติกาแฟจะไม่ดี
เมื่อทำการบดกาแฟพันธุ์โรบัสต้าเรียบร้อยแล้ว นำผงกาแฟที่บดละเอียดแล้วไปผสมกับกาแฟพันธุ์อาราบิก้าซึ่งสั่งตรงมาจากภาคเหนือในสัดส่วนที่พอเหมาะ หรือให้มีรสชาติตามต้องการ กาแฟที่ได้จะมีกลิ่นหอมกรุ่น และรสชาติกลมกล่อมอร่อย ทั้งนี้ ป้าไพบอกถึงความสำเร็จของกลุ่มว่า เกิดจากความร่วมมือของสมาชิก และจากการสนับสนุนของเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ สาธารณสุขจังหวัด, พัฒนาชุมชน, อุตสาหกรรมจังหวัด ที่จัดอบรมให้ความรู้ แนะนำเทคนิคต่าง ๆ ให้ทั้งเรื่องกระบวนการผลิต คุณภาพสินค้า รวมถึงบรรจุภัณฑ์
จนผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และได้มาตรฐานสินค้าโอทอป 5 ดาวด้วย
“หลังจากตั้งกลุ่มได้ 2 ปี เราก็เริ่มเห็นความสำเร็จ เพราะได้ออกบูธงานสินค้าโอทอปที่เมืองทองธานีและตามงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ทำให้กาแฟสดคั่วบดกึ่งสำเร็จรูปของกลุ่มเป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น ปี 2547 สร้างยอดขายได้กว่า 500,000 บาท และเมื่อปีที่ผ่านมาได้รับความอนุเคราะห์จากห้างเทสโก้ โลตัส สาขากระบี่ ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้นำสินค้าไปวางจำหน่ายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย”
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ป้าไพบอกว่า ที่สำคัญคือรสชาติเข้มข้น กับกลิ่นหอมกรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสินค้าต้องใหม่ สด อยู่เสมอ ผลิตตามออร์เดอร์ ส่งถึงมือลูกค้าภายในเวลาที่กำหนด ต้องไม่ให้มีสินค้าเหลือค้างสต็อก เพื่อรักษาคุณภาพให้ได้มาตรฐาน
จากร้านกาแฟเล็ก ๆ ขายในหมู่บ้าน กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่กระจายไปยังท้องถิ่นอื่น ขยายสู่ระดับจังหวัด ส่งต่อไปยังโรงแรมที่พัก ห้างสรรพสินค้า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของกลุ่มสตรีเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้มีจำหน่ายทั้งกาแฟคั่วบดชั่งเป็นกิโลขาย สูตรร้อน ราคากิโลกรัมละ 350 บาท ส่วนกาแฟสูตรเย็น กิโลกรัมละ 300 บาท และแบบบรรจุซองสำเร็จรูปพร้อมชงน้ำร้อน แพ็คเป็นกล่อง ๆ ละ 10 ซอง ราคา 80 บาท ไม่ว่าราคาเมล็ดกาแฟดิบจะขึ้นหรือลง ผลิตภัณฑ์กาแฟแปรรูปของกลุ่มก็ยังขายได้ราคา ช่วยให้คุณภาพชีวิตคนในชุมชนดีขึ้น
@@@@@
กลุ่มสตรีเทศบาลคลองท่อมใต้บอกมาว่า ไม่สงวนลิขสิทธิ์ และอยากจะแบ่งปันประสบการณ์และความรู้ในการค้นหาสูตรความสำเร็จเกี่ยวกับธุรกิจ “กาแฟคั่วบด” ใคร-กลุ่มใดสนใจติดต่อป้าไพได้ที่ 223/2 หมู่ 2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โทร.08-9787-7446, 0-7564-0279
คู่มือลงทุน...กาแฟคั่วบด
ทุนอุปกรณ์ ขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการ
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคา
รายได้ ราคา 300-350 บาท / กก.
แรงงาน ขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการ
ตลาด ร้านกาแฟ, ห้างสรรพสินค้า
จุดน่าสนใจ คนไทยดื่มกาแฟกันมากขึ้น
ที่มา https://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=893