ข้อมูลจากหนังสือ “ธุรกิจ car Wash ล้างสะดวก รวยสะเด็ด” ของสำนักพิมพ์พีเพิลมีเดีย ที่มี กอบชัย ชอัมพงษ์ เป็น บก.บห. ธุรกิจคาร์วอชนั้นผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญเรื่องบริการหลักกับบริการเสริม โดยหลัก ๆ การบริการของร้านคาร์วอชมักประกอบด้วยกิจกรรมดังนี้... ล้างทำความสะอาด, ดูดฝุ่นลงแวกซ์ภายใน, ล้างห้องเครื่อง, อัดฉีดช่วงล่าง, เคลือบสี และซักเบาะ-พรม เป็นต้น
การบริการที่จะมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ดีด้วย อุปกรณ์ที่จำเป็นในธุรกิจคาร์วอชนั้นมีอาทิ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง, เครื่องฉีดโฟม, เครื่องดูดฝุ่น และน้ำยาเคมีภัณฑ์ที่ต้องใช้เป็นประจำ เช่น โฟมล้างรถ หัวเชื้อล้างเครื่องยนต์, แวกซ์เงาสีรถ, แวกซ์ห้องเครื่อง, น้ำยาเคลือบเงาเบาะ, น้ำยาทาล้อดำ เป็นต้น
“กลยุทธ์ในการบริหาร” นั้น ก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้การบริการ เนื่องจากธุรกิจนี้เป็นงานบริการ และเกี่ยวข้องกับรถยนต์ซึ่งเป็นทรัพย์สินราคาแพง จึงต้องนำเสนอให้ลูกค้าเห็นถึง “ภาพลักษณ์ของมืออาชีพ” รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือ ควรให้ความสำคัญตั้งแต่ป้ายร้าน โลโก้ร้าน การจัดตกแต่ง ความสะอาดเรียบร้อย
หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลต่อความสำเร็จคือ “พนักงาน” เพราะเป็นด่านหน้าคอยต้อนรับลูกค้า และมีผลโดยตรงต่อคุณภาพการบริการด้วย ซึ่งธุรกิจคาร์วอชหลายแห่งมักมองข้ามในเรื่องนี้ไปจนส่งผลต่อธุรกิจ
ในเรื่องของ “โปรโมชั่น-การตั้งราคา” เพื่อดึงดูดลูกค้า ก็เป็นกลยุทธ์สำคัญในการบริหารร้านเช่นกัน ที่นิยมจัดกันบ่อย ๆ คือ ลด แลก แจก แถม ซึ่งจัดได้ทุกช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและสภาพการแข่งขัน ส่วนเรื่องการตั้งราคานั้นมีหลักการง่าย ๆ เบื้องต้นคือ ให้บวกกำไรเข้าไปในต้นทุนประมาณ 50% เช่น บริการล้างดูดฝุ่นมีต้นทุนอยู่ที่ 100 บาท เมื่อบวกกำไรเข้าไป 50% ก็จะได้ราคาค่าบริการ 150 บาท และอย่าลืมบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เข้าไปด้วย หรืออีกวิธีคือดูจากร้านของคู่แข่งแล้วนำเอามาปรับใช้ให้เข้ากับร้านของตน
และทั้งหมดนี้ก็คือ “ยุทธวิธี-กลยุทธ์” ธุรกิจ “car wash” ที่ยังมีอนาคตสดใส
ที่มา https://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=1047