การทำธุรกิจแบบใหม่ในอนาคต ไม่ต้องมีร้านค้า มีอิสระทางด้านเวลา และการพักผ่อน ไม่มีเจ้านาย ไม่มีลูกน้อง อาจมีเพียงเอกสารหรือสินค้า ไว้พร้อมขายหรือบริการเท่านั้น เงินลงทุนต่ำกว่าธุรกิจที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด จะมีผู้ที่ทำธุรกิจนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ดังนั้นผู้ที่เริ่มก่อนย่อมได้เปรียบกว่า ผู้ร่วมธุรกิจไม่ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวก็คือ ผู้ที่ทำธุรกิจนี้ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ ระบบการทำงานทั้งหมด เรียนรู้แผนการทำงาน แผนการได้รับผลประโยชน์ที่จะได้รับ ธุรกิจนี้ต้องการความจริงจังและสม่ำเสมอ ในการทำธุรกิจ มีอัตราการจ่ายผลตอบแทนสูงทำได้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน นิสิตนักศึกษา ลูกจ้าง ข้าราชการ พ่อค้า เจ้าของธุรกิจ ระบบการทำธุรกิจในอนาคตนี้ ทุกคนที่ทำธุรกิจต่างก็ไม่เคยทำมาก่อน เพียงแค่ศึกษาการทำงานอย่างจริงจัง พร้อมที่จะเรียนรู้และลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ทำตามระบบ เลียนแบบการทำงานของที่ปรึกษาทางธุรกิจ เขาทำอย่างไรเราทำอย่างนั้น ทำตามระบบทีละขั้นทีละตอน ทำแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเหมือนธุรกิจอื่น
จะเห็นว่า ในปัจจุบันผู้คนตกงานและออกจากงานมากขึ้น เนื่องมาจากหลายสาเหตุต่างๆ เช่น บริษัทขนาดใหญ่หรือโรงงานอุตสาหกรรม ได้นำเครื่องจักรที่ทันสมัย ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงระบบการผลิตที่ทำงานโดยอัตโนมัติ มาใช้แทนแรงงานคน ทำให้มีการเลิกจ้างหรือชลอการจ้างแรงงาน และมีการปรับระบบโครงสร้างภายใน เพื่อใช้แรงงานอย่างเต็มหน้าที่และเต็มความสามารถ ทำให้ต้องปลดพนักงานส่วนที่ไม่จำเป็นออก และผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ก็ไม่กล้าที่จะลงทุน เพราะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่ไม่ขยายตัวเช่นเดิม อีกทั้งการเกษียณอายุของผู้คนมีมากขึ้น และปัจจัยสุดท้ายคือมีนิสิต นักศึกษาจบใหม่มากขึ้น แต่ความต้องการด้านแรงงานยังคงเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นไม่มาก หลายคนไม่สามารถหางานทำได้ จึงยังต้องเป็นภาระของพ่อแม่หรือผู้ปกครองต่อไป หลายคนจึงตัดสินใจเรียนต่อ เพราะหวังว่าเมื่อเรียนสูงขึ้นจะหางานได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อเรียนจบก็ไม่แตกต่างจากวันนี้ จะเห็นว่าคนที่ตกงานดังกล่าว ทุกคนต้องใช้เงิน จำเป็นที่จะต้องมีรายได้ บางคนต้องการเพียงรายได้เสริม บางคนต้องการประกอบกิจการเป็นของตนเอง จะเห็นว่าเกือบทุกกิจการมีคนทำกันหมดแล้ว มีการแข่งขันสูง จะทำธุรกิจอะไรให้ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน เป็นไปได้ยากมาก
ดังนั้น ระบบการทำธุรกิจในอนาคต ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของหลายๆคน ทุกคนที่ได้ทำธุรกิจนี้ต่างก็ไม่มีประสบการณ์มาก่อน เพียงแค่พร้อมที่จะเรียนรู้ระบบการทำธุรกิจ และลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง จะทำให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ เหตุที่หลายธุรกิจที่ได้ปิดตัวลงไป เหตุที่ไม่ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ เพราะไม่คำนึงถึงปัจจัยในการทำธุรกิจ
ปัจจัยที่สำคัญในการทำธุรกิจ
การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีปัจจัยสำคัญหลักๆ ดังนี้
(1) ต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่กว้างและกำลังขยายตัว
(2) ต้องมีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและใช้แล้วหมดไป
(3) ต้องมีศักย์ภาพในการขยายกิจการอย่างไม่มีขีดจำกัด
ข้อ 1. ต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่กว้างและกำลังขยายตัว
ทำไมต้องเป็นอุตสาหกรรมที่กว้างและกำลังขยายตัว เรามาพิจารณาเปรียบเทียบอุตสาหกรรมที่แคบก่อน เช่นอุตสาหกรรมแผ่นเสียง อุตสาหกรรมเพจเจอร์ ในปัจจุบันมีผู้ใช้น้อยลงเรื่อยๆ ผู้ที่ยังทำธุรกิจกับอุตสาหกรรมดังกล่าว จะต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆในการทำธุรกิจ หากต้องการที่จะประกอบธุรกิจให้อยู่รอด สำหรับธุรกิจที่ขยายตัวช้า ได้แก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ส่วนอุตสาหกรรมที่กว้างและกำลังขยายตัวคือ
- อุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ต
- อุตสาหกรรมสื่อสารและไปรษณีย์
- อุตสาหกรรมโภชนาการและสุขภาพ
- อุตสาหกรรมทะนุถนอมความงามและเครื่องสำอาง
อุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ต เมื่อ 20 ปีที่แล้ว หลายบ้านไม่มีโทรทัศน์ ซึ่งบางบ้านมี บางบ้านไม่มี แต่ในปัจจุบันทุกบ้านมีโทรทัศน์ และมีหลายบ้านที่มีมากกว่า 1 เครื่อง ดังนั้น ธุรกิจที่เติบโตขึ้นมาในช่วงเวลาที่ผ่านมา คือการทำธุรกิจบนสื่อโทรทัศน์ เช่น ละคร เกมโชว์ วาไรตี้ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้อย่างมหาศาล แก่ผู้ทำธุรกิจบนสื่อโทรทัศน์ แต่ในปัจจุบัน ผู้ประกอบกิจการสื่อนี้ ขาดทุนหลายราย เพราะจำนวนช่องในการนำเสนอมีน้อย เวลามีจำกัด มีการกีดกันจากนายทุน มีการแข่งขันสูง และเมื่อเรามามองทางด้านอุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันหลายบ้านไม่มีคอมพิวเตอร์ หลายคนไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ต หากเรามองไปในอีก 5 ปีข้างหน้า อีก 10 ปีข้างหน้า ทุกบ้านจะมีคอมพิวเตอร์ ทุกบ้านจะติดตั้งอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ที่ทำธุรกิจผ่านสื่ออินเตอร์เน็ต จะทำรายได้อย่างมหาศาลในปัจจุบันและในอนาคต
อุตสาหกรรมสื่อสารและไปรษณีย์ เช่นโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์พกพา การติดต่อสื่อสาร และการตอบรับทางไปรษณีย์ หากธุรกิจใดไม่ครอบคลุมถึงหรือไม่ใช้ระบบการสื่อสารหรือการตอบรับทางไปรษณีย์ คุณจะไม่สามารถทำธุรกิจได้เลยหากไม่มีการติดต่อสื่อสาร ในปัจจุบันมีผู้จำหน่ายมือถือเพิ่มมากขึ้น บริษัทให้บริการก็เพิ่มขึ้นอย่างรวมเร็วเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าแสดงให้เห็นถึงอุตสาหกรรมการสื่อสารกำลังเติบโต อย่างไม่มีขีดจำกัด
ส่วนธุรกิจการตอบรับทางไปรษณีย์ คุณลองสังเกตตู้ไปรษณีย์ของคุณ ในเดือนหนึ่งๆ คุณได้รับจดหมายทางไปรษณีย์ เสนอขายสินค้าอะไรบ้าง ถึงแม้ว่าตัวคุณดูแล้วไม่สนใจ แต่ 1ใน 10 รายที่ได้รับสื่อดังกล่าว จะมีผู้สนใจและโทรกลับเพื่อสั่งซื้อสินค้าดังกล่าว นี่เป็นการทำการค้าอีกอย่างหนึ่งที่จะสามารถอยู่ได้ในอนาคต
ที่มา https://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=1070