หากพูดถึงอาชีพช่างทำผมหรือช่างเสริมสวยแล้ว หลายท่านอาจมองว่าเป็นอาชีพที่ธรรมดา ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้น ...
แต่เดี๋ยวนี้ แม้แต่หนุ่มอินเทรนด์ อย่าง โทนี รากแก่น ยังเบนเข็มจากงานกราฟฟิกที่เรียนมาไปเป็นช่างทำผมเลย
การจะมีร้านทำผมดีๆ สักร้านในยุคนี้ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินลงทุนมิใช่น้อย เป็นหลักล้านบาท แต่ก็นับว่าคุ้มค่าสำหรับการลงทุน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของผู้คน
การจะบริหารธุรกิจร้านทำผมให้อยู่ได้ในยุคนี้ ต้องให้กูรูที่อยู่มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี สมศักดิ์ ชลาชล มาแนะวิธีให้เสียแล้ว
1. ทัศนคติ
คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า มีความคิดหรือทัศนคติอย่างไรกับอาชีพช่างทำผม หากคิดว่าเป็นอาชีพที่สบายๆ ไม่ต้องคิดมาก เป็นการรับจ้างตัดผม หรือเป็นธุรกิจตัวหนึ่งที่ลงทุนไม่มากแต่ผลตอบแทนค่อนข้างดี เขาบอกมาเลยว่ามีอยู่สองทางที่คุณควรทำคือ เลิกประกอบอาชีพนี้ หรือไม่อีกทางหนึ่งคือ ต้องปรับทัศนคติในการมองอาชีพนี้เสียใหม่
หากคุณต้องการประกอบอาชีพนี้ เพราะความชอบหรือมีใจรักเป็นพิเศษโดยปราศจากเหตุผลในด้านธุรกิจเป็นหลัก มีแนวโน้มว่าอาจจะไปได้ดีในอาชีพนี้
“ขอบอกไว้ ณ ที่นี้เลยนะว่า อาชีพนี้ต้องอาศัยความจริงใจ และใส่ใจกับงานจริงๆ เพราะเป็นอาชีพที่ต้องใช้อารมณ์และความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยผลิตภัณฑ์สำคัญของอาชีพนี้ คือ ช่างทำผม ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชีวิต มีความรู้สึก (Emotional Product) ดังนั้นต้องให้ความสำคัญกับจิตใจและความรู้สึกเป็นอย่างมาก” สมศักดิ์ ว่า
2. ความสามารถหรือทักษะเฉพาะด้าน
ในประเด็นนี้ หากจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับพรสวรรค์ที่ติดตัวมา หรือบางคนก็อาจจะเพิ่งมาค้นพบตัวเองในภายหลังก็ได้ ไม่มีสูตรตายตัว แต่อย่างน้อยคนที่จะมีความสามารถหรือทักษะด้านนี้ต้องมีใจชอบและรักในอาชีพจริงๆ เพราะคนที่มีใจรักจะมีความตั้งใจจริงในการฝึกฝน เรียนรู้ และพัฒนาทักษะตัวเองอยู่เสมอ แล้วฝีมือหรือความสามารถก็จะโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ที่ไม่มีพรสวรรค์หรือไม่มีใจรัก แต่ถึงแม้คุณจะไม่มีพรสวรรค์ เพียงแค่คุณมีใจให้กับอาชีพนี้จริง เชื่อว่าความสามารถและทักษะฝีมือจะตามมาเอง
3. ประสบการณ์
ประเด็นนี้ต่อเนื่องมาจากเรื่องของความสามารถและทักษะ เมื่อเรามีความสามารถแล้ว หากไม่ลงมือทำบ่อยๆ ไม่ฝึกอย่างต่อเนื่อง ฝีมือเราจะไม่ได้รับการพัฒนา จะต้องไม่เกี่ยงงานหรือต้องไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าลูกค้าจะมีผมลักษณะใด ต้องการทรงไหน ต้องยินดีที่จะทำเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มันเป็นการฝึกให้เราแก้ปัญหาและเมื่อมีการทำซ้ำบ่อยๆ ก็จะเกิดความคิดสร้างสรรค์ต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จำนวนมากแล้ว ก็จะเกิดเป็นความชำนาญ ส่งผลให้ผลงานที่ทำมีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ต้องหมั่นลับคมมีดบ่อยๆ มิฉะนั้นมีดจะขึ้นสนิมและอาจใช้การไม่ได้ เช่นเดียวกันช่างทำผมต้องฝึกฝีมืออยู่เป็นประจำ ไม่เช่นนั้นฝีมืออาจจะต่ำลงและถูกคนอื่นแซงหน้าก็เป็นได้
4. พฤติกรรม
พฤติกรรมของคุณต้องสอดคล้องกับอาชีพนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความอ่อนน้อมถ่อมตนและการมีใจรักงานบริการ ซึ่งการมีพรสวรรค์และประสบการณ์นั้นไม่เพียงพอ เนื่องจากอาชีพนี้ต้องพบปะผู้คนจำนวนมากล้วนแต่มีอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน และลูกค้าถือว่าเป็นคนที่มีความสำคัญต่อเรามาก อีกทั้งอาชีพนี้ไม่ใช่เป็นอาชีพขายสินค้าทั่วๆ ไป แต่เป็นอาชีพที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทำให้ลูกค้าเกิดความสุข ดังนั้นสิ่งที่เราจะสามารถมอบให้กับลูกค้าได้หรือตอบโจทย์ของอาชีพนี้ได้ ก็คือต้องมอบพฤติกรรมหรือลักษณะต่างๆ ในการให้บริการลูกค้า ที่แสดงออกถึงการให้เกียรติ ความตั้งใจ ความถ่อมตน ความสุภาพ ด้วยมีมิตรไมตรีจิตอยู่เสมอ ต้องมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ (EQ) เมื่อเราทำได้อย่างนี้แล้วเราก็จะสามารถผูกใจลูกค้าได้ ต้องพยายามเข้าถึงหัวใจของลูกค้า แล้วใส่หัวใจของเราเข้าไปในการบริการ สุดท้ายสายใยความผูกพัน (Commitment) ก็จะเกิดขึ้น
5. ความพยายามและอดทน
ความสำเร็จที่ทรงคุณค่าและน่าภาคภูมิใจนั้น ต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงมาก ในโลกนี้มีความสำเร็จอยู่หลายระดับด้วยกัน งานบางอย่างไม่ต้องใช้ความสามารถสูง หรือไม่ต้องมีความพยายามกับมันมากนักก็สำเร็จได้ ซึ่งนั่นคือความสำเร็จที่ธรรมดาและไม่ใหญ่โตมากนัก แต่หากเราต้องการได้รับความสำเร็จที่มีคุณค่ามากและเป็นที่น่าภูมิใจแล้วล่ะก็ เราจำเป็นต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่ และต้องอดทนรอคอยเป็นระยะเวลานานพอสมควร
อาชีพช่างทำผมก็เช่นเดียวกัน กว่าที่จะได้ลูกค้าหนึ่งคน กว่าที่จะสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้ กว่าที่จะมีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้น กว่าที่จะเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจของลูกค้า และกว่าที่จะสามารถขยายกิจการให้ใหญ่โตและมีชื่อเสียงได้ถึงขนาดนี้ นี่พูดจากประสบการณ์ส่วนตัวได้เลยว่า ต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงมาก แม้ชาวสวนที่ปลูกต้นไม้เพื่อกินผล ก็ต้องหมั่นเพียรรดน้ำและรอคอยวันที่มันจะออกผล ดังนั้น จงอย่าท้อแท้ แต่จงตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วเพียรพยายามและอดทนรอคอย สักวันท่านจะประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้เป็นแน่
สมศักดิ์ บอกว่า เหล่านี้เป็นสิ่งที่ท่านต้องมีติดตัวไปตลอดในการประกอบอาชีพ โดยหากเป็นภาษาทางการบริหารก็คือ ทุนมนุษย์ (Human Capital) อันประกอบไปด้วย ความสามารถ ประสบการณ์ พฤติกรรม และความพยายาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ท่านจะต้องทำเป็นประการแรก คือ การปรับทัศนคติในการประกอบอาชีพนี้นั่นเอง หากใครคิดที่จะเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพนี้เขาก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่อยากจะเป็นช่างทำผม หรืออยากประกอบกิจการร้านเสริมสวย ขอให้ท่านได้ค้นพบตัวเองและทำความฝันให้เป็นจริงตามที่ท่านได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้
ที่มาhttps://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=1206